“สุริยะ” เช็คสภาพจราจรพระราม 2 สั่งอำนวยความสะดวก-ปลอดภัย ปชช. ช่วงเทศกาลสงกรานต์

สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ลงพื้นที่ตรวจสภาพจราจร ถ.พระราม 2 และความพร้อมการอํานวยความสะดวกและความปลอดภัย รองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ขณะที่กรมทางหลวง กำหนดแนวทางการบริหารจัดการจราจรและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ทั้งคืนผิวจราจร หยุดก่อสร้างทุกโครงการ ติดตั้งป้ายเตือน ฯลฯ

วันนี้ (11 เม.ย.) เวลา 13.30 น. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ เลขานุการ รมว.คมนาคม นายสราวุธ ทรงศรีวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) รวมถึงผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการ เพื่อตรวจสภาพการจราจร และตรวจความพร้อมการอํานวยความสะดวกและความปลอดภัย รองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ณ ศูนย์บริหารการจราจรระหว่างการก่อสร้าง โครงการก่อสร้างทางยกระดับ ช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย-บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร โดยมีนายวรณัฎฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายธนสาร สิทธาภา ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสมุทรสาคร รวมทั้งขนส่งจังหวัดสมุทรสาคร รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

นายสราวุธ ทรงศรีวิไล อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า ถนนพระราม 2 (ทางหลวงหมายเลข 35) นับเป็นทางหลวงที่มีการจราจรหนาแน่น เนื่องจากเป็นเส้นทางสายหลักที่ประชาชนใช้ในการเดินทางไปสู่ภาคใต้ ซึ่งกรมทางหลวงได้ตระหนักถึงความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน โดยได้กำหนดแผนบริหารการจราจรในช่วงเทศกาลสงกรานต์อย่างเป็นระบบ และได้บูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความมั่นใจในการเดินทางของพี่น้องประชาชนที่ใช้เส้นทางบนถนนพระราม2 อีกทั้งได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ เครื่องจักร และอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้แก่ประชาชนอย่างเต็มกำลังตลอดเทศกาลสงกรานต์นี้

ทางด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า มาตรการอํานวยความสะดวกและความปลอดภัยให้แก่ประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ของกระทรวงคมนาคม เป็นการดำเนินการตามนโยบาย “คมนาคม เพื่อความอุดมสุขของประชาชน” ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยในการเดินทางของประชาชน และได้มอบนโยบายให้กระทรวงคมนาคม ดำเนินมาตรการดังกล่าว เพื่อให้เดินทางถึงที่หมายได้อย่างสะดวกและปลอดภัย พร้อมทั้งได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานบูรณาการร่วมกันให้ครบทุกมิติ เพื่อสร้างความมั่นใจในการเดินทางให้กับประชาชน

ในปีนี้ กระทรวงคมนาคมมีหัวข้อการรณรงค์ “เดินทางทั่วไทย คมนาคม สะดวก ปลอดภัย ใส่ใจให้บริการประชาชน” นอกจากมาตรการและแนวทางปฏิบัติแล้ว ตนขอเน้นย้ำประเด็นการสื่อสารประชาสัมพันธ์ และรณรงค์ให้ประชาชนได้รับรู้ถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ประชาชนมีการเตรียมความพร้อมและเพิ่มความระมัดระวัง มีสติในการขับขี่ พร้อมประเมินความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ ตนขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เสียสละทำงานช่วงเทศกาล ให้ปฏิบัติงานด้วยความเข้มแข็ง ดูแลให้ประชาชนปลอดภัยมากที่สุด

ทั้งนี้ กรมทางหลวง ได้กำหนดแนวทางการบริหารจัดการจราจรและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ที่มีปริมาณการจราจรเป็นจำนวนมาก ให้ประชาชนได้รับความสะดวกและปลอดภัยทุกมิติ สร้างความมั่นใจให้แก่พี่น้องประชาชนที่สัญจร ได้แก่ ดำเนินการคืนพื้นผิวจราจรบริเวณพื้นที่ก่อสร้างอย่างปลอดภัย เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ หยุดการปฏิบัติงานระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. 2567, การประชาสัมพันธ์การการใช้ความเร็วภายในพื้นที่ก่อสร้างที่เหมาะสม ผ่านระบบป้ายปรับเปลี่ยนข้อความ (VMS) หรือการติดตั้งป้ายเตือนและป้ายจำกัดความเร็วในพื้นที่โครงการให้ครอบคลุม, ตรวจสอบมาตรฐานและความเหมาะสมของการติดตั้งป้ายเตือนต่าง ๆ บริเวณพื้นที่ก่อสร้าง รวมทั้งบริเวณจุดเข้าออกพื้นที่โครงการ และกำชับให้ปฏิบัติตามมาตรการเข้าออกพื้นที่ที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด,

ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่ม เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ และสภาพการจราจรบริเวณจุดเสี่ยง, จัดวางแบริเออร์ให้เป็นระเบียบไม่ให้ถนนเป็นคอขวด ที่ถนนพระราม 2 กม.10 และ กม.19+700, ขอความร่วมมือรถบรรทุกหยุดวิ่งบนถนนพระราม 2 พื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ช่วง กม.15 ถึง กม.54 ระหว่างวันที่ 11-16 เม.ย. 2567, จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ทีม RFA ออกตรวจการณ์พร้อมเครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับดำเนินการช่วยเหลือประชาชนตลอดเวลา, ร่วมบูรณาการประสานเจ้าหน้าที่พื้นที่ ได้แก่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยกู้ภัย อาสาสมัคร เพื่อดำเนินการช่วยเหลือประชาชนได้ทันที และเปิด-ปิดช่องทางพิเศษ (Reversible Lane) บนถนนพระราม 2 ช่วง ต.บางกระเจ้า ถึง ต.บางโทรัด จ.สมุทรสาคร โดยแขวงทางหลวงสมุทรสาคร สำนักงานทางหลวงที่ 13 กรุงเทพฯ ทั้งนี้ กรณีเกิดอุบัติเหตุที่ไม่รุนแรง เจ้าหน้าที่เข้าถึงจุดเกิดเหตุได้ภายใน 15 นาที พร้อมทั้งดำเนินการช่วยเหลือจนการจราจรใช้ได้ปกติรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 60 นาที

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *