อุกอาจ! คนร้ายแต่งกายไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทรัพย์ร้านทองในห้างดังมหาชัย ได้สร้อยหนัก 15 บ. หลบหนี

คนร้ายแต่งกายคล้ายไรเดอร์ บุกเดี่ยวร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านเอกชัย จ.สมุทรสาคร ชิงสร้อยคอทองคำน้ำหนักรวม 15 บาท ก่อนซิ่ง จยย. หลบหนี

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 17 พ.ค. 2567 พ.ต.อ.สมชาย ขอค้า ผกก.สภ.โคกขาม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ยอดชาย  แก้วเรือง ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร พ.ต.ท.สุขุม เพาะไธสง รอง ผกก.(ป).สภ.เมืองสมุทรสาคร ร.ต.อ.จะเด็ด จันทร์พลงาม รองสารวัตรสอบสวน สภ.โคกขาม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โคกขาม และเจ้าหน้าที่วิทยาการ กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบเหตุชิงทรัพย์ที่ร้านทองเยาวราชกรุงเทพฯ สาขามหาชัย 2 ภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีซุปเปอร์เซ็นเตอร์ มหาชัย 2 หมู่ 4 ต.โคกขาม อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร โดยภายในร้านพบพนักงานขายประจำหน้าร้านเป็นผู้หญิง 2 คน และ ผู้ชาย 1 คน รอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ด้วยท่าทีตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จากการสอบถามพนักงานชายในร้านเล่าเบื้องต้นว่า ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงพักกลางวัน ตนที่ทำหน้าที่อัดกรอบพระของร้านได้ลงไปกินข้าวที่ชั้นล่างของห้างฯ จึงเหลือเพียงแค่พนักงานหญิง 2 คนอยู่หน้าร้าน จากการบอกเล่าของเพื่อนร่วมงาน และภาพตามกล้องวงจรปิด ทราบว่าตอนนั้นมีชายคนหนึ่ง ลักษณะการแต่งกายใส่ชุดคล้ายกับไรเดอร์ส่งอาหาร สวมหมวกกันน็อคเดินเข้ามา แล้วก็รีบถกชายเสื้อขึ้นให้เห็นวัตถุบางอย่างที่เหน็บอยู่ที่เอว พร้อมกับพูดว่า กูมาปล้นส่งทองมา เอาเส้นใหญ่ เส้นเล็กไม่เอา ทางพนักงานหญิง จึงหันไปหยิบทองคำรูปพรรณส่งให้

พอคนร้ายได้สิ่งที่ต้องการแล้วก็รีบวิ่งหนีลงไปข้างล่าง จังหวะนั้นตนที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่พอดี ได้ยินว่ามีคนปล้นร้านทอง ก็รีบวิ่งตามคนร้ายที่หนีไปขึ้นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า เอ็ม-สแลซ สีน้ำเงิน-ดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ส่วนทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปนั้น เป็นสร้อยคอทองคำเส้นละ 3 บาท ประมาณ 5 เส้น แต่ก็ต้องให้ทางร้านฯ ตรวจสอบเพื่อความชัดเจนอีกครั้ง เพราะตอนที่เกิดเหตุนั้นทุกคนอยู่ในความตกใจกลัว

ขณะเดียวกัน ได้มีการเผยแพร่ภาพของคนร้ายจากกล้องหน้ารถยนต์ของพลเมืองดีรายหนึ่ง ที่พยายามจะขับตามรถคนร้ายไปในทิศทางทางเข้ากรุงเทพฯ แต่เนื่องจากถนนพระราม 2 มีสภาพการจราจรที่ติดขัด แล้วคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ที่ง่ายต่อการซอกแซกหลบหนี จึงทำให้คลาดกันในที่สุด โดยรูปพรรณของคนร้ายที่เห็นตามภาพจากกล้องหน้ารถนั้น มีลักษณะเหมือนกับที่ผู้เสียหายให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่มีเป้สะพายหลัง 1 ใบ ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บภาพที่ได้จากกล้องทุกตัวไว้หมดแล้ว อีกทั้งยังได้มีการสนธิกำลังร่วมกับทีมสืบสวนทั้งในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง เร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้อย่างเร็วที่สุด

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *