กกต.ประกาศจำนวน สส. แบ่งเขตทั้ง 77 จังหวัด พบกรุงเทพฯ มากที่สุด 33 คน รองลงมาคือนครราชสีมา 16 คน ส่วนปทุมธานี-สมุทรสาคร มี สส.เพิ่มขึ้นมา 1 คน ขณะที่นครศรีธรรมราช-ลพบุรี หายไป 1 คน
วานนี้ (2 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ “ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัดจะพึงมี” โดยระบุว่า ด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้บัญญัติให้มีการกำหนดจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมีและจำนวนเขตเลือกตั้ง
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 86 และมาตรา 224 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 26 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และมาตรา 22 (2)แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 ประกอบข้อ 43 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566 และประกาศสำนักทะเบียนกลาง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2567 ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2568 คณะกรรมการการเลือกตั้ง จึงออกประกาศให้ทราบเกี่ยวกับจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมี และจำนวนเขตเลือกตั้ง ดังนี้
1. จำนวนราษฎรสัญชาติไทยทั่วราชอาณาจักร ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2567 มีจำนวน 64,953,661 คน
2. จำนวนราษฎรโดยเฉลี่ย 162,384 คน ต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหนึ่งคน
3. จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกประกาศฉบับดังกล่าว โดยมีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จำนวน 400 คน สำหรับจังหวัดที่มี สส. แบบแบ่งเขตมากที่สุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จำนวน 33 คน รองลงมาคือจังหวัดนครราชสีมา 16 คน, จังหวัดขอนแก่น อุบลราชธานี จำนวน 11 คน, จังหวัดชลบุรี เชียงใหม่ บุรีรัมย์ และอุดรธานี จำนวน 10 คน ส่วนจังหวัดที่มีจำนวน สส. เพียง 1 คน ได้แก่ จังหวัดตราด ระนอง สมุทรสงคราม และสิงห์บุรี
โดยประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งฉบับดังกล่าวนี้ เมื่อเทียบกับปี 2566 พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงจำนวน สส. ใน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดปทุมธานี เพิ่มขึ้นจาก 7 เป็น 8 คน และจังหวัดสมุทรสาคร เพิ่มขึ้นจาก 3 เป็น 4 คน ขณะที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลดลงจาก 10 เหลือ 9 คน และจังหวัดลพบุรี ลงลงจาก 5 เหลือ 4 คน ทั้งนี้ หากมีการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ภายในปีนี้ ทาง กกต. จะใช้ประกาศฉบับดังกล่าวจัดการเลือกตั้งทั่วไป แต่ถ้าหากยุบสภาและจัดการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2569 ก็จะต้องนำข้อมูลจำนวนราษฎรสัญชาติไทยทั่วราชอาณาจักร ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2568 จากสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย มาเป็นฐานในการคำนวณจำนวน สส. ที่แต่ละจังหวัดจะพึงมี และเขตเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง ตามมาตรา 86 แห่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง