รอง ผบช.ทท. ร่วมกับ ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร แถลงข่าวปฏิบัติการกวดขันและป้องกันการแข่งขันรถในทางสาธารณะ ฯ ฝาฝืนคำสั่ง คสช. จับกุม 2 เจ้าของเฟซบุ๊กชักชวนเด็กแว้นออกมาแข่งรถในพื้นที่สมุทรสาคร พร้อมตรวจร้านจำหน่ายท่อไอเสียไม่ได้มาตรฐาน 11 แห่ง ตรวจยึดมอเตอร์ไซค์ต้องสงสัย 95 คัน ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดอีก 103 ราย
เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 23 มิ.ย. 2561 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร บูรณาการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารจากค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน ดำเนินการปราบปรามการแข่งรถในทางในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ปฏิบัติการกวดขันและป้องกันการแข่งขันรถในทางสาธารณะ และเด็กหรือเยาวชนประพฤติตนไม่สมควร ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.22 และ 46/2558 โดยความร่วมมือระหว่างกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวและกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 นั้น เป็นไปตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายให้หน่วยงานต่าง ๆ แก้ไขปัญหาเยาวชนรวมกลุ่มกันแข่งขันรถจักรยานยนต์ในทางสาธารณะ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้ใช้รถในทางและที่พักอาศัยตามพื้นที่ต่าง ๆ ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สนองนโยบายของรัฐบาลโดยการจัดตั้งคณะทำงานเรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาอันเกิดจากการขับขี่ยานพาหนะ เพื่อนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการดำเนินการและแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยเฉพาะการชักชวนเยาวชนออกมาแข่งขันรถในทางสาธารณะในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ซึ่งทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ดังนั้น จึงได้มีปฏิบัติการปราบปรามกลุ่มเยาวชนที่มีพฤติการณ์ในการรวมกลุ่มมั่วสุมแข่งขันรถในทางสาธารณะในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ขึ้น
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายบุญหลง ศรีทองกุล อายุ 35 ปี อยู่ที่ ซ.เพชรเกษม 77/5 แขวงหนองค้างพูล เขตหนองแขม กทม. ซึ่งเป็นเจ้าของเฟสบุ๊กชื่อ “ช่างเก้า เพชรเกษม” และเพจ “ซิ่งย้อน ฝั่งธน” ซึ่งเป็นเพจที่มีผู้ติดตามจำนวน 1,800 คน ได้ชักชวนเยาวชนแข่งรถจักรยานยนต์ใน จ.สมุทรสาคร และพื้นที่ใกล้เคียง ในบริเวณที่มีการร้องเรียนมากที่สุด ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนเป็นจำนวนมาก และ นายวัชรพล ห้วยกรดวัฒนา อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของเพจ Nook Nook เป็นเพจที่มีการชักชวนเยาวชนออกมารวมตัวแข่งขันรถในทางในพื้นที่ จ.สมุทรสาครเป็นประจำ อีกทั้งยังมีการท้าพนันเดิมพันแข่งรถโดยวางเงินเดิมพันครั้งละ 10,000 บาท ซึ่งจะจัดแข่งกันในวันเสาร์ที่ 23 มิ.ย. 2561
ประกอบกับจากสถิตการร้องเรียนผ่านศูนย์วิทยุจังหวัดสมุทรสาครได้มีประชาชนร้องเรียนผ่านศูนย์วิทยุฯ ว่ามีกลุ่มวัยรุ่น ออกมารวมตัวแข่งรถในทางสาธารณะเป็นประจำ และผู้ต้องหาทั้งสองเป็นช่างเปิดอู่แต่งรถจักรยานยนต์ซิ่ง ซึ่งเป็นสถานที่รวมตัวเด็กแว้นในการแต่งรถจักรยานยนต์ให้สามารถวิ่งได้เร็วขึ้น เสียงท่อไอเสียดังขึ้น เพื่อออกมารวมตัวแข่งรถในทางสาธารณะสร้าง ความเดือดร้อนรำคาญกับพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนและผู้ที่พักอาศัยอยู่บริเวณริมถนนสายหลัก
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักและได้ขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรีในข้อหา “เป็นผู้สนับสนุนให้มีการแข่งขันรถในทางสาธารณะ ที่ จ.607/61 และ จ.608/61 ต่อมาเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวมกำลังเข้าจับกุม นายบุญหลง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรีที่ จ.607/61 และ จับกุมนายวัชรพลฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ จ.608/61 นำส่ง สน.มีนบุรี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งจากกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ก็ได้ลงพื้นที่กวดขันป้องกันปราบปรามการแข่งขันรถในทางและได้ตรวจร้านจำหน่ายท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ผลการปฏิบัติการตรวจร้านจำหน่ายท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม จำนวน 11 ร้าน ไม่พบการกระทำความผิด ผลการยึดรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยจำนวน 95 คัน ตรวจปัสสาวะผู้ขับขี่เพื่อหาสารเสพติดจำนวน 103 ราย แบ่งเป็นเยาวชน 48 ราย ผู้ใหญ่ 55 ราย พบสารเสพติดในปัสสาวะ จำนวน 3 ราย แบ่งเป็นพบสารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีนในเยาวชน 2 ราย และในผู้ใหญ่อีก 1 ราย
ขณะที่ พล.ต.ต.มานะ เปิดเผยว่า จากการระดมกวาดล้างจับกุมเด็กแว้นเหล่านี้ ก็อยากจะขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ได้ตระหนักเห็นความสำคัญของปัญหากลุ่มวัยรุ่นรวมตัวแข่งขันรถในทางสาธารณะว่ามีผลร้ายที่ตามมาอีกมากมาย และรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยกันปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล โดยอบรมบุตรหลานไม่ให้ออกมารวมตัว มั่วสุมหรือมีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะ ส่วนเด็กและเยาวชนที่มีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการส่งตัวไปเข้ารับการอบรมตามคำสั่ง คสช.22 และ 46/2558 ตามวันเวลาที่จะกำหนดต่อไป
ส่วนในวันนี้หลังจากที่มีการทำประวัติบันทึกรายชื่อของเด็กแว้นที่มีอายุไม่เกิน 18 ปีไว้ทั้งหมดแล้ว ก็ได้ติดต่อให้ผู้ปกครองนำเอกสารของรถจักรยานยนต์มาแสดงต่อเจ้าหน้าพนักงานสอบสวน เพื่อขอรับตัวเด็กและรถจักรยานยนต์กลับไป ยกเว้นแต่รถจักรยานยนต์ที่ไม่มีเอกสารชัดเจน จะต้องถูกยึดไว้ตรวจสอบ และบุคคลที่มีอายุเกิน 18 ปี จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายคือจับปรับ
ทางด้านของนายบุญหลง ซึ่งเป็นเจ้าของเฟสบุ๊กที่โพสต์เชิญชวนให้คนมาแข่งรถจักรยานยนต์ในทางนั้น ก็ได้กล่าวสำนึกผิดและขอให้เยาวชนเลิกแข่งรถในทางสาธารณะ เพราะเป็นอันตรายทั้งต่อตนเองและผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่น ๆ รวมถึงผู้ที่คอยโพสต์เฟสบุ๊คชักชวนให้คนมาแข่งขันรถกันด้วย ก็ขอให้เลิกพฤติกรรมเช่นนี้และปิดเฟสทิ้งไป เพราะการกระทำที่เรียกว่าคึกคะนองแบบนี้ ก็ย่อมที่จะทำให้ได้รับบทเรียนราคาแพง คือการถูกจับกุม
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ