ชุดปฏิบัติการด้านสารเคมีและวัตถุอันตรายฯ ลงพื้นที่ตรวจหาสารแคดเมียมตกค้างโกดัง 2 แห่งใน จ.สมุทรสาคร หลังขนย้ายเสร็จสิ้น พร้อมติดประกาศคำสั่งขยายระงับใช้พื้นที่ฯ อีก 1 เดือน
ตามที่จังหวัดสมุทรสาคร ภายใต้การควบคุมสั่งการของนายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้ดำเนินการย้ายกากแคดเมียมในพื้นที่ที่มีการตรวจพบ จำนวนทั้งสิ้น 8,407 ตัน โดยพบที่บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด ต.บางน้ำจืด อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร 2 จุด (โรง 1 กับ โรง 2) จำนวน 6,868 ตัน บริษัท ซิน หงส์ เฉิง อินเตอร์ เทค (2008) จำกัด ต.บางน้ำจืด อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร จำนวน 1,005 ตัน และโกดังไม่มีชื่อ ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จำนวน 534 ตัน โดยเริ่มมีการขนย้ายออกนับตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมา กระทั่งการขนย้ายครั้งสุดท้ายเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้ (30 มิ.ย.)
วันนี้ (1 ก.ค.) เวลา 10.00 น. นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้มอบหมายให้ ชุดปฏิบัติการด้านสารเคมีและวัตถุอันตราย ตามคำสั่งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร โดยนายวัฒนา พรประเสริฐ ผอ.สนง.ทสจ.สมุทรสาคร พร้อมด้วย ร.ต.ต.สัณฐิติ ธรรมใจ หน.สนง.ปภ.สมุทรสาคร เป็นผู้นำตรวจสอบสถานที่เก็บกากตะกอนแคดเมียม 2 แห่ง ได้แก่ โกดังไม่มีชื่อ ต.คลองมะเดื่อ กับบริษัท ซิน หงส์ เฉิง อินเตอร์ เทค (2008) จำกัด โดยมีปลัดอำเภอกระทุ่มแบน ปลัดอำเภอเมืองสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 5 ผู้แทน สสจ.สมุทรสาคร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
โดยสถานที่แรก โกดังไม่มีชื่อ ต.คลองมะเดื่อ ภายในพบว่ามีการขนย้ายกากแคดเมียมจำนวน 534 ตัน ออกไปจนหมดแล้ว ส่วนที่เห็นอยู่ในถุงบิ๊กแบ็กและในถังพลาสติกสีฟ้าเป็นเพียงเศษตะกอนทรายดำที่ทางเจ้าของโกดังเก็บมาทำการคัดแยกหาสารโลหะหนักนำไปสกัดขายเท่านั้น โดยในทรายดำไม่พบสารแคดเมียม ขณะที่การตรวจวัดคุณภาพน้ำรอบโรงงาน กากตะกอนจากรางน้ำทิ้ง และคุณภาพอากาศ เบื้องต้นไม่พบการปนเปื้อนของกากแคดเมียม แต่ต้องรอผลยืนยันที่ชัดเจนจากห้องปฏิบัติการอีกครั้ง
แต่เมื่อมีการนำเครื่องตรวจวัดโลหะหนักของกรมควบคุมมลพิษ มาตรวจฝุ่นที่พื้นโกดังในจุดต่าง ๆ ซึ่งเคยเป็นที่เก็บกองกากแคดเมียมนั้น บางจุดยังคงมีค่าแคดเมียมสูงเกินมาตรฐาน ทางผู้นำตรวจสอบฯ จึงได้มีการสั่งให้เจ้าของโกดังดำเนินการขัดล้างพื้นที่ภายในสถานที่เก็บกองใหม่ จนกว่าจะมีการตรวจแล้วไม่พบการปนเปื้อนของสารแคดเมียม พร้อมติดประกาศคำสั่งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร ขยายระยะเวลาระงับการใช้พื้นที่ดังกล่าวต่อไปอีก 1 เดือน โดยจะมีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 8 ส.ค. 2567 จากเดิมที่คำสั่งแรกจะสิ้นสุดลงในวันที่ 8 ก.ค. 2567 ที่จะถึงนี้
จากนั้นชุดปฏิบัติการฯ ได้เข้าตรวจที่บริษัท ซิน หงส์ เฉิง อินเตอร์เทค (2008) จำกัด ก็ได้มีการขนย้ายกากแคดเมียมจำนวน 1,005 ตัน ออกไปจนหมดแล้วเช่นกัน ส่วนที่พบเห็นเป็นเพียงกากอุตสาหกรรมที่ทางโรงงานรับซื้อมาเพื่อคัดแยกโลหะต่าง ๆ เช่น อลูมิเนียม ทองแดง นิกเกิล ไทเทเนียม ตะกั่ว เหล็ก เป็นต้น จากการตรวจวัดด้วยเครื่องตรวจวัดโลหะหนักในจุดต่างๆ ทั้งวัตถุที่อยู่ในถุงขนาดใหญ่ ในบ่อน้ำ อากาศ และพื้นอาคารโรงงาน ซึ่งเคยเป็นที่เก็บกองกากแคดเมียมนั้นไม่พบการปนเปื้อน
แต่เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและตามกระบวนการขั้นตอนในการพิจารณาคืนพื้นที่นั้น ทางกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร จึงได้ออกคำสั่งประกาศ ขยายระยะเวลาห้ามมิให้บุคคลใด ๆ เข้าไปอยู่อาศัยหรือดำเนินกิจการใดในพื้นที่ใกล้จะเกิดสาธารณภัย คือ ขยายระยะเวลาระงับการใช้พื้นที่ไว้ก่อนเป็นระยะเวลาอีก 1 เดือน เช่นเดียวกับโกดังไม่มีชื่อ ต.คลองมะเดื่อ แต่ด้วยทางบริษัทฯ ตรวจไม่พบการปนเปื้อนของสารแคดเมียม ดังนั้นหากยื่นเรื่องขอเปิดใช้พื้นที่ ๆ ถูกระงับก่อนสิ้นสุดระยะเวลาที่ประกาศไว้ ประกอบกับเอกสารยืนยันผลที่ชัดเจนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาแล้ว ก็จะได้รับการพิจารณาคืนพื้นที่ เพื่อให้สามารถประกอบกิจการได้ตามปกติ
ส่วนบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด ซึ่งเป็นสถานที่ขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยใช้ในการเก็บกากแคดเมียม รวมจำนวน 6,868 ตัน ทางชุดปฏิบัติการด้านสารเคมีและวัตถุอันตราย กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร จะได้เข้าตรวจสอบในวันพรุ่งนี้ (2 ก.ค.)
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ