ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ไม่นิ่งนอนใจ เรียกหน่วยงานรัฐ – ผู้แทนโครงการฯ เคลียร์ปมบ้านพัง เจ้าของประชดขาย

ผู้ว่าฯ นริศ เปิดห้องประชุมเชิญทุกฝ่ายร่วมหารือ กรณีลูกบ้านในโครงการแห่งหนึ่งย่าน ต.ท่าทราย จ.สมุทรสาคร อยู่อาศัยไม่ถึงปีเกิดชำรุดเสียหาย 30 หลังคาเรือน จนต้องโพสต์คลิปประชดขายบ้านกลายเป็นกระแส มีภาครัฐ-ตัวแทนโครงการฯ เข้าร่วมประชุม แต่ไร้เงาทางฝ่ายลูกบ้าน ยืนยันทางจังหวัดไม่นิ่งนอนใจ

จากกรณีมีผู้โพสต์คลิปวีดิโอบนโลกออนไลน์ เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.ท่าทราย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ระบุว่า “แล้วใครจะซื้อ” โดยเป็นภาพของบ้านนับสิบหลังที่ติดป้ายประกาศขายสีแดงเด่นชัด พร้อมข้อความ ขายด่วน ขายตามสภาพ บ้านทรุด บ้านร้าว ปูนเปื่อย หลังคาน้ำรั่วไหลลงฝ้า ห้องน้ำชั้นบนน้ำขังหยดมาชั้นล่าง บ้านจะเอียงนิดหน่อย ฟุตติ้งแตก … โปรโมชั่น ฟรีปลวก ฟรีห้องครัว (ไม่พร้อมใช้งาน) ฟรีที่จอดรถหน้าบ้านทรุดแน่นอน ฟรีระบบสายไฟที่คุณไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่เพื่อนบ้านน่ารัก รวมถึงภาพลักษณะความเสียหายของบ้านแต่ละหลัง

รวมถึงมีการให้เสียงบรรยายในคลิประบุว่า ที่เราทำคลิปนี้มาประกาศขายบ้าน เพราะว่าทางโครงการยังคงสร้างบ้านขาย ถ้าสภาพบ้านแบบนี้โครงการยังขายได้ บ้านของพวกตนก็ต้องขายได้ด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้เคยทำเรื่องร้องเรียนไปยังหลายหน่วยงานแล้ว หลังจากที่หน่วยงานเข้ามาตรวจสอบแล้ว บอกว่า ซ่อมได้ อยู่ได้ แต่ชาวบ้านจะอยู่ได้อย่างไร เมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเกิดกับฐานรากของตัวบ้าน…….” จนกลายเป็นกระแสขึ้นมาบนโลกออนไลน์นั้น

ความคืบหน้าของกรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 6 พ.ค. 2568 ที่ห้องประชุมมหาชัย (501) ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้เรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าหารือเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการหมู่บ้านดังกล่าว โดยมี นายประหยัด ตะคอนรัมย์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสมุทรสาคร ผู้แทนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ผู้แทน สคบ. ปลัด อบต.ท่าทราย ตัวแทนของโครงการหมู่บ้านที่เกิดปัญหาและวิศวกรผู้ควบคุมก่อสร้าง รวมถึงตัวแทนของฝ่ายผู้เสียหายซึ่งเป็นลูกบ้านหรือผู้ที่มาซื้อบ้าน เข้ามาเจรจาหารือร่วมกัน แต่ปรากฏว่าทางด้านของฝ่ายลูกบ้านไม่มีใครมาเข้าร่วมประชุมด้วย ดังนั้นจึงเป็นการหารือในเบื้องต้น โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ตามที่มีชาวบ้านร้องเรียนกรณีที่ซื้อบ้านของโครงการหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แล้วปรากฏภายหลังว่าเกิดการชำรุดเสียหายหลายอย่าง ทั้ง ๆ ที่ซื้อมายังไม่ถึง 1 ปี หรือบางคนก็ซื้อมาแค่ปีกว่า ๆ  เช่น ตอม่อหรือฟิตติ้งปูนยุ่ย พื้นทรุด ผนังแตก บ้านบางหลังเริ่มเอียงจากแรงดึงรั้ง และอื่น ๆ ตามที่เป็นข่าวนั้น ในฐานะหัวหน้าส่วนราชการของจังหวัด ขอยืนยันว่าทางหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาในเรื่องดังกล่าวไม่ได้นิ่งนอนใจ และไม่ได้เพิกเฉยต่อข้อร้องเรียนของพี่น้องประชาชน โดยได้เข้าไปตรวจสอบหลายครั้งตามกระบวนการทุกขั้นตอนแล้ว ซึ่งทางหน่วยงานราชการพร้อมที่จะรับเรื่องราวร้องทุกข์ของพี่น้องประชาชนและพร้อมที่จะให้การแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่

ขณะที่ปัญหาในเรื่องบ้านที่เกิดขึ้น จากการรายงานทราบว่า นอกจากเจ้าหน้าที่ฯ จะลงไปตรวจสอบแล้วนั้น ยังได้มีวิศวกรผู้เชี่ยวชาญของสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย เข้ามาตรวจประเมินความเสี่ยงด้วย และผลออกมาว่า สามารถทำการปรับปรุงซ่อมแซมแก้ไขได้ ดังนั้นในส่วนของการดำเนินงานขั้นตอนต่อไปคือ ทางโครงการและชาวบ้านจะต้องหารือร่วมกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพื่อเป็นการยุติปัญหาที่เกิดขึ้น แต่น่าเสียดายที่การหารือในครั้งนี้ไม่มีตัวแทนของลูกบ้านมาเข้าร่วมด้วย จึงอาจจะต้องมีการจัดประชุมหารือร่วมกันอีกครั้ง เพื่อให้ได้ข้อยุติที่ชัดเจนระหว่างฝ่ายลูกบ้านกับฝ่ายเจ้าของโครงการฯ

ด้านตัวแทนของโครงการหมู่บ้าน บอกว่า ทางโครงการฯ นั้นยอมรับปัญหาที่เกิดขึ้นทุกอย่าง และพร้อมที่จะดำเนินการแก้ไขให้กับลูกบ้านทั้ง 30 หลังคาเรือน โดยก่อนหน้านี้ก็ได้มีการประชุมร่วมกันไปแล้วเมื่อปลายเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งทางลูกบ้านบอกว่าต้องการให้ผู้ที่มีความน่าเชื่อถือจากหน่วยงานภาครัฐหรือองค์กรที่เชี่ยวชาญฯ เข้ามาตรวจสอบเท่านั้น ไม่ให้ช่างของโครงการฯ ตรวจประเมินเพราะขาดความเชื่อมั่นไปแล้ว ดังนั้นจึงได้มีการประสานกับผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย เข้ามาตรวจประเมินความเสี่ยงแล้ว ก็ได้รับการยืนยันว่าโครงสร้างบ้านสามารถพักอาศัยได้ ซึ่งทางโครงการฯ ก็ยินดีจะรับผิดชอบค่าปรับปรุงซ่อมแซมทุกหลัง พร้อมกับทำประกันความเสียหายให้อีกหลังละ 10 ปีด้วย แต่ยังไม่มีแนวคิดที่จะรับซื้อคืนหรือทุบทิ้งแล้วสร้างใหม่ มีเพียงแค่การปรับปรุงซ่อมแซมให้แก่ลูกบ้านทุกหลัง ซึ่งโครงการก็ทำตามความเห็นที่ทางวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย ได้ออกหนังสือแจ้งให้ทราบเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ส่วนที่การดำเนินการล่าช้าจนลูกบ้านบอกว่าโครงการนิ่งเฉยนั้น ก็ยืนยันว่า โครงการไม่ได้นิ่งเฉย แต่แค่รอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือลูกบ้าน แนะนำหรือจัดหาบริษัทผู้รับเหมาที่มีความชำนาญในการปรับปรุงซ่อมแซมแก้ไขสภาพบ้านตามที่เป็นข่าว เข้ามาดำเนินการ เพราะทางโครงการฯ ไม่สามารถจัดหาบริษัทฯ มาดำเนินการได้เอง เนื่องจากลูกบ้านไม่ให้ความเชื่อถือแล้ว ซึ่งหากลูกบ้านหาบริษัทผู้รับเหมาได้เร็ว โครงการก็จะให้ลงมือทำทันที ส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมดโครงการจะเป็นผู้รับผิดชอบเอง ขณะที่ปัจจัยที่ส่งผลต่อการทรุดตัวของบ้าน หรือสภาพของฟิตติ้งตามที่ปรากฏ สาเหตุก็มาได้จากหลายอย่าง เช่น ความหนาแน่นของดินที่ยังน้อยเกินไป  ปูนที่ยังไม่เซ็ตตัวดี การทรุดตัวและการเหนี่ยวรั้งของบ้านจนเกิดรอยร้าว เป็นต้น

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *