ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา มหาชัย ประกาศเปลี่ยนเวลาปิดให้บริการเร็วขึ้นเป็น 2 ทุ่มตรง ตั้งแต่ 21 มี.ค. ลดภาระร้านค้าจากผลกระทบโรคโควิด-19 ผู้บริหารเซ็นทรัลพัฒนาแจงลดค่าเช่าร้านค้าไปแล้ว 10-50% พร้อมเตรียมปรับพื้นที่ช่วยเหลือเกษตรกรและกลุ่มอาชีพที่ได้รับความเดือดร้อนจำหน่ายสินค้าได้ฟรี
เมื่อวันที่ 20 มี.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา มหาชัย บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ประกาศว่า ทางศูนย์การค้าฯ และห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ขอปรับเวลาให้บริการเป็นการชั่วคราว เป็นวันจันทร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น. ตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. 2563 เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ส่วนท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์ เปลี่ยนเวลาเปิดให้บริการเป็น วันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 10.00-21.00 น. วันศุกร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-22.00 น.
ก่อนหน้านี้ โรงภาพยนตร์เอสเอฟ ซีเนม่า เซ็นทรัลพลาซา มหาชัย บริเวณชั้น 3 ปิดให้บริการชั่วคราวตามมาตรการของรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค. ถึง 31 มี.ค. 2563
นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซ็นทรัลพัฒนา ชี้แจงว่า การปรับเปลี่ยนเวลาเปิด-ปิดให้บริการศูนย์การค้าเซ็นทรัล 24 สาขาทั่วประเทศ เพื่อช่วยจำกัดเวลาการทำกิจกรรมต่างๆ ของคนจำนวนมาก และลดภาระให้กับร้านค้าในช่วงที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยยังสามารถให้บริการกับลูกค้าทั่วไปได้อย่างทั่วถึงและเพียงพอตามเวลาที่ต้องการใช้บริการในช่วงปกติ
สำหรับเซ็นทรัล ภูเก็ตฟลอเรสต้า และเฟสติวัล, เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว, เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช, และเซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 เปิดบริการวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ถึง 22.00 น. ส่วนเซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัลพลาซา พระราม 2, เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต, เซ็นทรัลพลาซา บางนา และเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ เปิดบริการวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ถึง 21.00 น.
สำหรับเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ ท็อปส์ เปิดให้บริการตามเวลาปกติของแต่ละสาขา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการซื้อสินค้าที่จำเป็น
บริษัทฯ ยังคงเน้นในเรื่องสุขลักษณะของสถานที่และการปฏิบัติของพนักงานที่ให้บริการอย่างเข้มงวด ด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิ และร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับร้านค้าภายในศูนย์การค้าในการดูแลและคัดกรองพนักงานที่ทำงานในร้านค้า และศูนย์การค้า การทำความสะอาดจุดสัมผัสอย่างสม่ำเสมอ และการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อทั่วทั้งสถานที่หลังเวลาดำเนินการเป็นประจำ รวมทั้งการกำหนดระยะห่าง (Social Distancing) ในศูนย์การค้า
ขณะเดียวกัน ยังช่วยเหลือร้านค้าภายในศูนย์การค้า ด้วยการให้ส่วนลดค่าเช่าของแต่ละร้านค้า ตามความรุนแรงที่ได้รับผลกระทบในแต่ละศูนย์การค้า และในแต่ละช่วงเวลาที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ 10-50% โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีร้านค้าทั้งรายใหญ่และรายเล็กเป็นจำนวนมากทั่วประเทศ ที่จะต้องให้การดูแลอย่างทั่วถึง อีกทั้งยังดูแลเอาใจใส่พนักงานของบริษัทฯ อย่างเต็มที่ และหาแนวทางรักษาการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ดำเนินการเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าประชาชนทั่วไป และคู่ค้าของบริษัทฯ ให้สามารถมาใช้บริการและมีการดำเนินการธุรกิจในศูนย์การค้าฯ ให้เป็นปกติได้ รวมถึงปรับพื้นที่ศูนย์การค้าให้เป็นช่องทางช่วยเหลือเกษตรกร และกลุ่มอาชีพที่ได้รับผลกระทบที่ได้รับความเดือดร้อนให้สามารถนำผลิตภัณฑ์มาจำหน่ายในช่วงวิกฤตนี้ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ