ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป เผยผลประกอบการไตรมาสแรกปี 63 พบยอดขายเพิ่ม 5.9% เหตุสถานการณ์โควิด-19 ทำคนทั่วโลกจับจ่ายอาหารกระป๋อง ย้ำให้ความสำคัญด้านสุขภาพและความปลอดภัย ผลิตสินค้าให้ผู้บริโภคมั่นใจ พร้อมช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบต่อเนื่อง ทั้งในและต่างประเทศ
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2563 เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ระบุว่า มียอดขาย 31,103 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีก่อนหน้า และนับเป็นยอดขายไตรมาสแรกที่ดีที่สุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา โดยยอดขายเติบโตขึ้นจากปริมาณการขายของธุรกิจอาหารทะเลบรรจุกระป๋องที่เพิ่มขึ้นถึง 24.5% อยู่ที่ 99,599 ตัน เนื่องจากผู้บริโภคทั่วโลกมีการจับจ่ายอาหารกระป๋อง ในช่วงสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า หรือ โควิด-19 ด้านกระแสเงินในไตรมาสแรกของบริษัทมีมากกว่า 1 พันล้านบาท ส่วนกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสแรกอยู่ที่ 1,529 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.9% อัตราค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายอยู่ที่ 11.3% อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิของบริษัทฯ ลดลง 20.2% เนื่องจากผลกระทบจากโควิด-19 ที่มีต่อการลงทุนเชิงกลยุทธ์ของบริษัทและการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา
ยอดขายในไตรมาสแรกปี 2563 นั้น ธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปมียอดขายอยู่ที่ 15,631 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.2% ธุรกิจอาหารแช่แข็งและธุรกิจที่เกี่ยวข้องมีปริมาณการขายลดลง 1.1% อยู่ที่ 61,179 ตัน ขณะที่ยอดขายลดลง 5.1% อยู่ที่ 10,944 ล้านบาท เนื่องจากผลกระทบจากโควิด-19 ที่มีต่อช่องทางจำหน่ายในธุรกิจโรงแรมร้านอาหารต่างๆ ส่วนธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงและผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่ามียอดขายเพิ่มขึ้น 3.3% อยู่ที่ 4,528 ล้านบาท จากกลยุทธ์ที่ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราการทำกำไรสูง ส่วนยอดขายในอเมริกาเหนือ มีสัดส่วน 43% ของยอดขายรวมทั้งหมด ในขณะที่ตลาดยุโรป คิดเป็น 30% ตลาดประเทศไทยมีสัดส่วน 11% และยอดขายตลาดอื่นๆ คิดเป็น 16%
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ในไตรมาสแรกของปีนี้ สถานการณ์ไวรัสโคโรน่าหรือโควิด-19 ส่งผลกระทบรุนแรงทั่วโลก ซึ่งในช่วงวิกฤตดังกล่าว ไทยยูเนี่ยนให้ความสำคัญด้านสุขภาพและความปลอดภัยในการดูแลพนักงานและการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้เราสามารถผลิตสินค้าให้กับผู้บริโภคทั่วโลกในอย่างปลอดภัยและมั่นใจ อีกทั้งยังได้ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโคโรน่าหรือโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ทั้งในสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร ยุโรป จีน เป็นต้น สำหรับประเทศไทย บริษัทฯ ได้บริจาคผลิตภัณฑ์ทูน่า ซาร์ดีน และแมคเคอเรล มากกว่า 150,000 กระป๋อง ให้กับโรงพยาบาลและชุมชนต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบอีกด้วย
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ