“ศักดิ์สยาม” ติดตามคืบหน้ายกระดับพระราม 2 ทั้ง 3 โครงการ ช่วง บางขุนเทียน-เอกชัย คาดเสร็จปีหน้า

รมว.คมนาคม ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางยกระดับบนถนนพระราม 2 และทางพิเศษพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนฯ แก้ไขปัญหาจราจรเส้นทางหลักขาล่องใต้ เผยโครงการช่วง “บางขุนเทียน-เอกชัย” ภาพรวมรุดหน้ากว่า 61 เปอร์เซ็นต์ คาดแล้วเสร็จปี 66 ส่วนช่วง “เอกชัย-บ้านแพ้ว” เพิ่งเริ่มสัญญาก่อสร้างด้วยมูลค่ากว่า 1.8 หมื่นล้านบาท สิ้นสุดสัญญาปี 68 และทางพิเศษพระราม 3 สร้างไปแล้ว 24 เปอร์เซ็นต์  

เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2565 เวลา 13.30 น. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางยกระดับบนถนนพระราม 2 และโครงการทางพิเศษพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก โดยมี นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายสราวุธ ทรงศิวิไล อริบดีกรมทางหลวง นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย กทพ. คณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม กรมทางหลวง และ กทพ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ พร้อมคณะ ร่วมรับฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินงาน ณ ศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีงานทาง (Central Lab) ถนนพระราม 2 กม.6+500 เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ก่อนเดินทางลงพื้นที่ตรวจโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สาย ทางยกระดับบางขุนเทียน – บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย -บ้านแพ้ว (ตอน 1-10) ณ ปั้มน้ำมันบางจาก ถนนพระราม 2 กม.13 ขาเข้ากรุงเทพฯ ปิดท้ายด้วยการตรวจเยี่ยมโครงการทางพิเศษพระราม 3 ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก บริเวณใต้สะพานพระราม 9 เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายให้กระทรวงคมนาคมเร่งแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่ถนนพระราม 2 ซึ่งเป็นเส้นทางหลักที่เชื่อมสู่ภาคใต้ของประเทศให้ลุล่วงโดยเร็ว ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง โดยมีผลงานการปรับปรุงทางหลวงหมายเลข 35 สายธนบุรี – ปากท่อ ตอนทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เอกชัย ระยะทาง 11.7 กม. ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จทั้ง 3 ตอน เมื่อปี 2564 ส่วนโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการในปัจจุบันมีความคืบหน้าดังนี้ 

1. โครงการก่อสร้างทางยกระดับทางหลวงหมายเลข 35 สายธนบุรี – ปากท่อ ตอนทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน – เอกชัย ช่วง กม.11+959 ถึง กม.20+295 ของกรมทางหลวง เป็นการก่อสร้างทางยกระดับจำนวน 6 ช่องจราจร ไป – กลับ (ทิศทางละ 3 ช่องจราจร) ภาพรวมโครงการมีความคืบหน้า 61 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2566 โดยแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 3 ตอน ระยะทาง 8.2 กม. คือ ตอนที่ 1 ระยะทาง 2.575 กม. รวมทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน ปัจจุบันมีความคืบหน้า 62.61 เปอร์เซ็นต์, ตอนที่ 2 ระยะทาง 4.1 กม. ปัจจุบันมีความคืบหน้า 46.75 เปอร์เซ็นต์ และตอนที่ 3 ระยะทาง 1.6 กม. ปัจจุบันมีความคืบหน้า 74.84 เปอร์เซ็นต์

2. โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว มีแนวสายทางเชื่อมต่อกับโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก บริเวณด่านบางขุนเทียนของ กทพ. แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 10 สัญญา บนถนนพระราม 2 ตั้งแต่ กม. 20+295 ถึง กม.36+645 ระยะทาง 16.4 กม. มูลค่า 18,759.230 ล้านบาท เริ่มต้นสัญญาวันที่ 1 ก.พ. 2565 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 15 ม.ค. 2568

3. โครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ของ กทพ. เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดของทางพิเศษเฉลิมมหานคร ช่วงบางโคล่ – สะพานพระราม 9 – ดาวคะนอง ที่มีปริมาณการจราจรเฉลี่ยสูงถึง 150,000 คันต่อวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาเร่งด่วนอย่างยั่งยืน กระทรวงคมนาคมจึงได้มีนโยบายให้พัฒนาระบบการคมนาคมขนส่งที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะโครงข่ายถนนและทางพิเศษในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ และช่วยยกระดับคุณภาพซีวิตของประชาชน

ขณะนี้โครงการฯ อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ภาพรวมโครงการมีความคืบหน้า 24.32 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2567 ประกอบด้วย 5 สัญญา คือ สัญญาที่ 1 ระยะทาง 6.4 กม. มีความก้าวหน้า 0.82 เปอร์เซ็นต์ สัญญาที่ 2 ระยะทาง 5.3 กม. มีความก้าวหน้า 34.33 เปอร์เซ็นต์ สัญญาที่ 3 ระยะทาง 5 กม. มีความก้าวหน้า 1.48 เปอร์เซ็นต์ สัญญาที่ 4 ระยะทาง 2 กม. มีความก้าวหน้า 68.88 เปอร์เซ็นต์ และสัญญาที่ 5 งานระบบจัดเก็บค่าผ่านทาง ระบบควบคุมจราจร และระบบสื่อสาร อยู่ระหว่างการจัดซื้อจัดจ้าง

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า สำหรับตัวชี้วัดผลการดำเนินงาน (KPI) ในการบริหารจัดการก่อสร้างและการจราจร ซึ่งมีการพัฒนาใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาบริหารจัดการก่อสร้างอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดผลกระทบต่อการจราจร ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการเชื่อมต่อระบบคมนาคมสู่ภาคใต้ให้มีความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย 

โดยมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมให้กรมทางหลวง และ กทพ. คำนึงถึงปัจจัยเรื่องอุทกภัยด้วยในการออกแบบและบริหารจัดการโครงการ และเพิ่มความถี่ในการประชาสัมพันธ์โครงการให้เข้าถึงประชาชนให้มากที่สุด โดยเฉพาะช่องทางโซเชียลมีเดีย การใช้อินฟลูเอนเซอร์เข้ามาช่วยในการสื่อสารและการทำกิจกรรมของโครงการ เพื่อสร้างการรับรู้ความเข้าใจให้เป็นวงกว้างและเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น รวมถึงบูรณาการในการวางแผนเคลื่อนย้ายระบบสาธารณูปโภคกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

นอกจากนี้การพัฒนาโครงการขนาดใหญ่จะต้องวางแผนการพัฒนาแบบจำลองธุรกิจที่ชัดเจน เพื่อให้หน่วยงานมีรายได้เลี้ยงตัวเองอันจะเป็นการลดภาระด้านงบประมาณของภาครัฐในระยะยาว รวมถึงต้องคำนึงถึงการพัฒนา TOD (Transit-Oriented Development) และโอกาสในการพัฒนาพื้นที่อสังหาริมทรัพย์ใหม่ ๆ ที่โครงการสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้

ทั้งนี้ นายศักดิ์สยาม ได้สั่งการให้กรมทางหลวง และ กทพ. บูรณาการร่วมกัน 6 มิติ ได้แก่ มิติบริหารพื้นที่ร่วม มิติการออกแบบ มิติการเร่งรัดงานก่อสร้าง มิติการบริหารจราจร มิติการประชาสัมพันธ์ และมิติการช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น การบริหารการใช้พื้นที่ร่วมกันโครงการที่มีพื้นที่ซับซ้อน การใช้พื้นสะพานแบบหล่อสำเร็จรูป (Precast Box Segment) การกำกับดูแลติดตามให้การก่อสร้างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ การก่อสร้างในพื้นที่เฉพาะที่กั้นไว้ 

การประชาสัมพันธ์สื่อสารข้อมูลด้วยป้าย VMS (ป้ายปรับเปลี่ยนข้อความ) MVMS (ป้ายปรับเปลี่ยนข้อความแบบเคลื่อนที่ได้) และติดตั้งกล้อง CCTV ตรวจสภาพการจราจรเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือทันทีที่เกิดอุบัติเหตุ พร้อมจัดตั้งศูนย์บริหารและบูรณาการเพื่อควบคุมการในโครงการก่อสร้างแบบ Real-Time เพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด ลดปัญหาการจราจรติดขัดบนท้องถนน และอำนวยความสะดวก ความปลอดภัยให้ประชาชนผู้ใช้ทางระหว่างการก่อสร้าง

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *