ไทยยูเนี่ยน และ ไอ-เทล ร่วมกับ สมุทรสาครพัฒนาเมือง เดินหน้าลดขยะทะเลด้วยพลังอาสา

“ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป” และ “ไอ-เทล” ร่วมกับ “สมุทรสาครพัฒนาเมือง” และภาคีเครือข่าย ร่วมจัดโครงการเก็บขยะทะเลฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เนื่องในวันมหาสมุทรโลก ณ ศูนย์วิจัยทรัพยากรป่าชายเลนที่ 2 สมุทรสาคร จัดการขยะทะเลได้มากกว่า 2.4 ตัน

เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2568 บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท สมุทรสาครพัฒนาเมือง (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสาคร และภาคีเครือข่าย จัดโครงการ “โครงการเก็บขยะทะเลเพื่อฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เนื่องในวันมหาสมุทรโลก” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ณ ศูนย์วิจัยทรัพยากรป่าชายเลนที่ 2 สมุทรสาคร ต.บางหญ้าแพรก อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร โดยมี นายปราชญ์ เกิดไพโรจน์ ผู้อำนวยการด้านความยั่งยืน ธุรกิจ Pet Feed และ Marine Ingredient บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) น.ส.ศุภวดี สิทธิจำเริญคุณ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ดร.สุวันชัย แสงสุขเอี่ยม ประธานกรรมการบริษัท สมุทรสาครพัฒนาเมือง (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด

ร่วมด้วย นายพิทูร สุวรรณชัย นายกเทศมนตรีตำบลบางหญ้าแพรก นางขนิษฐา พรเกียรติกุล ประธานสภา อบจ.สมุทรสาคร นางสุภาพ ศรีจันทร์ ผู้อำนวยการส่วนสิ่งแวดล้อม รักษาราชการแทน ผอ.สนง.ทสจ.สมุทรสาคร รวมถึงสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 8 สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร สำนักงาน ปภ.สมุทรสาคร เครือข่าย ทสม. จังหวัดสมุทรสาคร กลุ่มอาสาพัฒนาเมือง คณะครู-นักเรียนจากสถานศึกษา ประกอบด้วย โรงเรียนวัดบางหญ้าแพรก โรงเรียนเทศบาลวัดช่องลม (เปี่ยมวิทยาคม) และโรงเรียนเทศบาลวัดแหลมสุวรรณาราม (วัฒนรวมวิทยา) เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 350 คน เก็บขยะทะเลได้ปริมาณทั้งหมด 2,401 กก.

นายปราชญ์ เกิดไพโรจน์ ผู้อำนวยการด้านความยั่งยืน ธุรกิจ Pet Feed และ Marine Ingredient บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในฐานะบริษัทอาหารทะเลชั้นนำระดับโลก ไทยยูเนี่ยนมองว่าความยั่งยืนคือหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ดังนั้นเราจึงมุ่งปกป้องดูแลทรัพยากรในมหาสมุทรและระบบนิเวศ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้อุตสาหกรรมอาหารทะเลโลก ปัจจุบันมีขยะพลาสติกเกือบ 200 ล้านตันในท้องทะเล ที่เกิดจากการทิ้งขยะพลาสติกลงสู่ท้องทะเล ท่อระบายน้ำ และการกำจัดขยะที่ไม่ถูกต้อง โดยหนึ่งในพันธกิจของไทยยูเนี่ยน ภายใต้กลยุทธ์ SeaChange®2030 คือ จัดการขยะพลาสติกกว่า 1,500 ตัน ไม่ให้ปนเปื้อนสู่แม่น้ำลำคลองและท้องทะเล ภายในปี 2573 โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าชายเลนซึ่งเป็นพื้นที่กักเก็บขยะทะเล 

ซึ่งตลอด 4 ปีที่ผ่านมา (2564-2567) โครงการเก็บขยะทะเลของไทยยูเนี่ยน ได้ระดมพลังอาสาสมัครของบริษัทฯ และพันธมิตรจากทั่วทุกมุมโลก ร่วมเก็บขยะได้มากถึง 25,171 กก. หรือกว่า 25 ตัน สะท้อนให้เห็นถึงปริมาณขยะจำนวนมากที่อยู่ในท้องทะเล ซึ่งการดำเนินการอย่างต่อเนื่องนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดปริมาณขยะในทันที แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมสร้างจิตสำนึกที่ดีเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งภาครัฐและภาคเอกชน

ในปีนี้ โครงการเก็บขยะเนื่องในวันมหาสมุทรโลกของไทยยูเนี่ยนได้ขยายเครือข่ายความร่วมมือไปสู่ 11 ประเทศใน 4 ทวีป ได้แก่ ไทย สหรัฐอเมริกา กานา เซเชลส์ สหราชอาณาจักร นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลี โดยเน้นการเก็บขยะในพื้นที่สำคัญ เช่น ป่าชายเลน แม่น้ำ ชายหาด และบริเวณใกล้เคียงกับโรงงานของไทยยูเนี่ยน การขยายขอบเขตการดำเนินงานในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของไทยยูเนี่ยนในการแก้ไขปัญหามลพิษทางทะเลในระดับโลก และการสร้างการมีส่วนร่วมจากชุมชนท้องถิ่นในแต่ละประเทศ

ทางด้าน น.ส.ศุภวดี สิทธิจำเริญคุณ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไอ-เทล ในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครมาอย่างยาวนาน และให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและชุมชนมาโดยตลอด โดยเฉพาะการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาขยะทะเลอย่างยั่งยืน เพราะเราเชื่อมั่นว่าการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนมาจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน ตลอดจนอาสาสมัคร โดยกิจกรรมในวันนี้ไม่เพียงเป็นการเก็บขยะทะเล แต่ยังเป็นการส่งต่อแรงบันดาลใจและสร้างความตระหนักรู้ให้กับคนในชุมชนและสังคม เพื่อร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่อย่างยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไป

ทั้งนี้ ขยะที่เก็บรวบรวมได้จากโครงการทั้งหมดจะถูกนำไปคัดแยกและจดบันทึกตามแนวทางของ International Coastal Cleanup (ICC) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลในการเก็บข้อมูลขยะทะเล ขยะที่สามารถรีไซเคิลได้จะถูกส่งมอบให้บริษัทจัดการขยะในพื้นที่เพื่อนำไปแปรรูปอย่างเหมาะสม ส่วนขยะที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้จะถูกส่งต่อผ่านหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวของส่งไปยังบริษัทที่รับแปรสภาพขยะเพื่อนำไปทำเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นกระบวนการที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรอบด้าน ความร่วมมือครั้งนี้ ไม่เพียงสะท้อนความมุ่งมั่นของ ไทยยูเนี่ยนและไอ-เทล ในการสร้างความยั่งยืน แต่ยังเป็นแบบอย่างที่ดีของการผนึกกำลังระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในการร่วมกันดูแลรักษามหาสมุทร ซึ่งเป็นแหล่งทรัพยากรสำคัญของโลก เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *