“ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส” ปรับแผนธุรกิจใหม่ หลังราคาถ่านหินร่วง ร่วมมือกับชิดลม มาร์รีน เซอร์วิสเซส แอนด์ ซัพพลายส์ ให้บริการส่งออกและนำเข้าครบวงจร มีทั้งท่าเรือ เรือบรรทุกสินค้าล่องตามแม่น้ำ คลังสินค้า และที่ดินให้เช่า ขนส่งสินค้าขึ้นลงจากเรือใหญ่ บริการรถบรรทุกสำหรับขนส่งสินค้าไปยังจุดหมายที่ลูกค้าต้องการ พร้อมรับช่วงต่อดูแลการขนส่งล่องไปตามแม่น้ำ

นายวิชาย ชื่นสุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส หรือ UMS เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงนามในข้อตกลงทางการตลาดร่วมกับ บริษัท ชิดลม มาร์รีน เซอร์วิสเซส แอนด์ ซัพพลายส์ จำกัด (CMSS) ซึ่งเป็นบริษัทที่ บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ หรือ TTA ถือหุ้นอยู่ 100% ในการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกัน เพื่อนำเสนอเป็นบริการในลักษณะวัน สตอป เซอร์วิส โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่ต้องการส่งออกและนำเข้าผลิตภัณฑ์ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ซีเมนต์ ผลิตภัณฑ์ปาล์ม ไม้สับ และผลิตภัณฑ์เหล็ก เป็นต้น โดยทั้งสองบริษัทจะนำเสนอบริการทางด้านขนส่ง ทั้งทางเรือ ทางบก รวมถึงการบริการฝากสินค้าและเช่าพื้นที่คลังสินค้าให้กับลูกค้า ซึ่งจะทำให้ลูกค้าของทั้งสองบริษัทมีทางเลือกในการใช้บริการที่หลากหลายขึ้น ในการขยายทำเลให้ครอบคลุมมากขึ้น เสมือนเป็นการเพิ่มทั้งจำนวนคลังสินค้าและบริการต่างๆ โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ธุรกิจหลักของ UMS คือ ประกอบธุรกิจการนำเข้าถ่านหินจากต่างประเทศ และจัดจำหน่ายถ่านหินให้กับโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ แต่ในช่วงที่ผ่านมา ราคาถ่านหินได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตัดสินใจปรับแผนธุรกิจด้วยการใช้ท่าเรือ เรือบรรทุกสินค้าล่องตามแม่น้ำ คลังสินค้า และที่ดินให้เช่า รวมถึงระบบโลจิสติกส์ในโรงงาน การรับจ้างผลิต-สนับสนุนกระบวนการผลิต โดยมีโรงงาน, คลังสินค้า และที่ดินให้เช่า ในจังหวัดสมุทรสาครและพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นเขตอุตสาหกรรมที่มีผู้ประกอบการที่ต้องการใช้บริการเหล่านี้อยู่อย่างหนาแน่น ขณะที่ CMSS ให้บริการจัดหาอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับธุรกิจเรือ รับขนถ่ายสินค้าทางเรือ บริการรถบรรทุกขนส่งสินค้า รับฝากสินค้าและให้เช่าพื้นที่คลังสินค้า รวมทั้งการให้บริการด้านโลจิสติกส์ อยู่ในเขต อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งครอบคลุมพื้นที่สำหรับการส่งออก-นำเข้าสินค้าในแถบบริเวณเกาะสีชัง และนิคมอุตสาหกรรม ท่าเรือกรุงเทพฯ ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือมาบตาพุด และเขตอ่าวไทย

โดยเมื่อร่วมเป็นพันธมิตรกันแล้ว CMSS จะเป็นผู้ดูแลเรื่องของการขนส่งสินค้าขึ้นลงจากเรือใหญ่ บริการรถบรรทุกสำหรับขนส่งสินค้าไปยังจุดหมายที่ลูกค้าต้องการ บริการศุลกากร แรงงาน และโลจิสติกส์ต่างๆ ในขณะที่ UMS สามารถช่วยรับช่วงต่อดูแลการขนส่งล่องไปตามแม่น้ำ เพื่อไปยังจุดหมายปลายทางที่เป็นสถานประกอบการของผู้ผลิต ผู้นำเข้าและส่งออกสินค้าทั่วทั้งเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล สำหรับลูกค้าที่อยู่ในจังหวัดชลบุรี จะเป็นกลุ่มลูกค้าที่นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ เช่น เหล็กรูปพรรณชนิดต่างๆ แร่ทองแดง ถั่วเหลือง กากถั่ว ปุ๋ยเคมี เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่สินค้าจำพวกนี้จะส่งถึงโรงงานลูกค้าปลายทางที่เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งมีท่าเรือที่เรือขนส่งสินค้าสามารถเข้าเทียบท่าได้

ส่วนลูกค้าที่อยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร จะเป็นกลุ่มลูกค้าจำพวกสินค้าเกษตรสำหรับส่งออกต่างประเทศ ตามจังหวัดในโซนภาคตะวันตก เช่น นครปฐม สุพรรณบุรี ราชบุรี และกาญจนบุรี ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นพวก ข้าวสาร น้ำตาล มันเส้น รวมถึงอาหารทะเลแช่แข็ง เป็นต้น ส่วนลูกค้าที่อยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะเป็นกลุ่มลูกค้าจำพวกสินค้าเกษตรสำหรับส่งออกต่างประเทศเช่นเดียวกับลูกค้าในจังหวัดสมุทรสาคร ตามจังหวัดในโซนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นพวก ข้าวสาร ยางพาราแผ่น มันเส้น แร่ยิปซั่ม เป็นต้น และสินค้าอุตสาหกรรมจำพวก ปูนซีเมนต์ และปูนเม็ด เป็นต้น

“ในขณะที่ UMS มีพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่มีความได้เปรียบในจังหวัดสมุทรสาครและพระนครศรีอยุธยา CMSS ก็มีพื้นที่ยุทธศาสตร์ในฝั่งตะวันออก นั่นคือ ศรีราชา แหลมฉบัง และสีชัง ซึ่งเมื่อเราเล็งเห็นว่า ทั้งสองบริษัทมีธุรกิจบางส่วนที่เกื้อหนุนกัน แต่มีพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ต่างกัน การจัดการให้เกิดความร่วมมือระหว่างกันจึงจะนำมาซึ่งการใช้ประโยชน์ร่วมกันได้มากขึ้น เราเชื่อว่า หลังจากนี้ กลุ่มผู้ประกอบการที่นำเข้าและส่งออกผลิตภัณฑ์พวก ข้าว มันสำปะหลัง ซีเมนต์ และยาง หรือแม้กระทั่งกลุ่มลูกค้าที่ต้องการบริการด้าน cold chain services มีทางเลือกที่หลากหลายและครบวงจรมากขึ้น ครอบคลุมบริการและพื้นที่กว้างขึ้น นำมาซึ่งรายได้และโอกาสทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้น แต่ที่สำคัญกว่านั้น คือ การใช้ศักยภาพจากทรัพยากรที่มีอยู่ของบริษัทย่อยที่ TTA เข้าไปลงทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด” กรรมการผู้จัดการ UMS กล่าว

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ