หวั่นแบงก์เข้ม “ปล่อยสินเชื่อ” กระทบอสังหาฯ “ดี-แลนด์” แนะบริหารต้นทุนลดเสี่ยง

1457-2

“ดี-แลนด์ กรุ๊ป” เผยภาพรวมตลาดอสังหาฯ โซนพระราม 2 ซบเซา ตามเศรษฐกิจชะลอตัว ระบุสถาบันการเงินเข้มงวดปล่อยสินเชื่อ ระดับล่างถูกปฏิเสธพุ่ง 30% แนะบริการสต็อกบ้าน สกรีนลูกค้า กระตุ้นกำลังซื้อ ยังตั้งเป้ายอดขาย 1.3 พันล้านปีนี้ หลัง 6 เดือนที่ผ่านมาทำยอดขาย 800 ล้าน จัดโปรโมชั่น “อยู่ฟรี 1 ปี” จูงใจ เชื่อโครงการทางยกระดับพระราม 2 ระยะยาวไม่ใช่ทางออกที่ดี ทำรถกระจุกตัวที่ปลายทาง แนะปรับปรุงถนน-ขยายเลนตลอดสาย

นายศิริพงษ์ สมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี-แลนด์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์โซนพระราม 2 – สมุทรสาคร ช่วงครึ่งแรกของปี 2559 พบว่ายอดขาย ยอดโอน และการเปิดตัวลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์ตลาดโดยรวมของประเทศ ที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ รวมทั้งสถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ

“โดยเฉพาะกลุ่มระดับล่าง มีอัตราการถูกปฏิเสธสินเชื่อสูงเกิน 30% จากความไม่มั่นใจเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต และภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง ส่งผลให้ผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต้องมีการขายซ้ำจำนวนมาก” นายศิริพงษ์ กล่าว

นายศิริพงษ์ กล่าวว่า สำหรับในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ยังไม่มีปัจจัยบวกชัดเจนที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นตลาดให้ฟื้นตัว ดังนั้นผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต้องบริหารจัดการสภาพคล่อง โดยเฉพาะการบริหารสต็อกบ้านอย่างใกล้ชิด และเหมาะสมกับอัตราการขายแต่ละโครงการ การบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ

ขณะเดียวกัน ยังต้องควบคุมอัตราการปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคารให้ลดลง ด้วยการสกรีนลูกค้ามากขึ้น การกระจายกลุ่มเป้าหมาย ไม่กระจุกตัวกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง โดยเฉพาะการลดปริมาณสินค้าในตลาดระดับล่าง การใช้งบโปรโมชั่นกระตุ้นกำลังซื้อมากขึ้น รวมถึงการเพิ่มสัดส่วนการใช้สื่อออนไลน์ เนื่องจากเป็นต้นทุนทางการตลาดที่ต่ำ แต่มีประสิทธิภาพสูงมากในยุคปัจจุบัน

ทั้งนี้ ในส่วนของ ดี-แลนด์ กรุ๊ป ได้วางทิศทางโดยปรับสัดส่วนผลิตภัณฑ์ใหม่ แบ่งเป็นกลุ่มที่พักอาศัย 45% กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน (Product for Investment) 45% ที่จะเน้นหนักไปในโซนของศรีราชา และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) 10% เพื่อกระจายการลงทุน บริหารความเสี่ยง ทำให้มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

สำหรับผลประกอบการในปี 2559 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่ 1,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปี 2558 ที่มีรายได้รวม 1,200 ล้านบาท โดยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา สามารถทำยอดขายไปแล้วกว่า 800 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากโซนพระราม 2 – สมุทรสาคร ประมาณ 400 ล้านบาท และโซนศรีราชา จ.ชลบุรี ที่เพิ่งเข้าไปพัฒนาโครงการอีกประมาณ 400 ล้านบาท

โดยบริษัทฯ ยังได้เตรียมแคมเปญและโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นตลาดในช่วงครึ่งปีหลังอย่างต่อเนื่อง เช่น ตลอดเดือนสิงหาคมนี้ได้เริ่มต้นจัดโปรโมชั่น โครงการเดอะพราว พระราม 2 – พันท้ายฯ ได้จัดโปรโมชั่นบ้านเดี่ยว 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ “อยู่ฟรี 1 ปี” พร้อมฟรีค่าใช้จ่ายวันโอนและแอร์ฯ และสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนออนไลน์ผ่าน www.dl.co.th รับส่วนลดเพิ่ม 50,000 บาท ในราคาเริ่มต้นที่ 4.8 ล้านบาท

โครงการเดอะพราว พระราม 2 เปิดโซนใหม่ ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอนและแอร์ ในราคาเริ่มต้นที่ 5 ล้านบาท และโครงการบ้านดี บางโทรัด จัดโปรโมชั่นบ้านเดี่ยว 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ “อยู่ฟรี 1 ปี” พร้อมฟรีค่าใช้จ่ายวันโอนและแอร์ฯ ในราคาเริ่มต้นที่ 3.3 ล้านบาท และทาวน์โฮม “มีบ้านง่าย จ่าย 0 บาท” ผ่อนบ้าน 0 บาท นาน 1 ปี พร้อมฟรีค่าจอง ค่าทำสัญญา และค่าใช้จ่ายวันโอน ในราคาเริ่มต้นที่ 1.7 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โซนพระราม 2 – สมุทรสาครในระยะยาว นายศิริพงษ์ กล่าวว่า จ.สมุทรสาคร มีศักยภาพด้านการลงทุนสูง เนื่องจากความเจริญที่ขยายตัวจากกรุงเทพฯ ต่อเนื่องมาตามถนนพระราม 2 และถนนเพชรเกษม มีศูนย์การค้าเกิดขึ้นหลายแห่ง มีที่พักอาศัยจำนวนมาก เป็นแหล่งนิคมอุตสาหกรรมและโรงงานต่างๆ

นอกจากนี้ยังเป็นทางผ่านไปสู่แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เช่น อัมพวา ชะอำ หัวหิน ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะสามารถเดินทางไป – กลับได้ภายในวันเดียว โดยมีถนนพระราม 2 เป็นเส้นทางหลัก ผู้คนที่สัญจรไปมามีความรู้สึกว่าสมุทรสาครเป็นส่วนหนึ่งของกรุงเทพฯ เช่นเดียวกับบางนา รังสิต และปทุมธานี

ตลอดจนการคมนาคมที่สะดวก ด้วยถนน 10 ช่องจราจร อยู่ใกล้กับกรุงเทพฯ สามารถเดินทางถึงใจกลางกรุงเทพฯ ได้ภายในระยะเวลา 30 นาที เป็นประตูลงสู่ภาคใต้ รวมถึงการเดินทางไปยังภาคตะวันออก ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยผ่านถนนวงแหวนตะวันตกและวงแหวนอุตสาหกรรมที่ตัดผ่านถนนพระราม 2 ซึ่งช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ราคาที่ดินโซนพระราม 2 ปรับตัวสูงขึ้นและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายศิริพงษ์ กล่าวว่า สำหรับโครงการก่อสร้างทางยกระดับบนถนนพระราม 2 โดยส่วนตัวแล้วมองว่าอาจจะไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ดีในระยะยาว เพราะต่อไปก็ยังคงเป็นปัญหาตรงจุดลงที่สิ้นสุดทางอยู่ดี เนื่องจากปริมาณรถมาก แต่มองว่าน่าจะเป็นการปรับปรุงถนนพระราม 2 ให้อยู่ในสภาพพื้นผิวจราจรที่ดี การสร้างเลนคู่ขนานให้ครบตลอดเส้นทาง รวมถึงการเพิ่มเส้นทางลงสู่ภาคใต้เส้นทางใหม่เพื่อกระจายการเดินทางน่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะยาวมากกว่า

“การสร้างทางยกระดับจะทำให้สมุทรสาครถูกจำกัดศักยภาพในการเติบโตไปอีกนาน เนื่องจากผู้คนจะใช้เส้นทางยกระดับจนส่งผลให้การพัฒนาบริเวณถนนพื้นราบช้าลง ราคาที่ดินอาจจะปรับตัวลดลงเพราะศักยภาพในการทำประโยชน์จากที่ดินต่ำลง” นายศิริพงษ์ กล่าว

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ



แสดงความคิดเห็น


เงื่อนไขในการแสดงความคิดเห็น
• กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่สุภาพ โปรดงดเว้นการใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
• การลบความคิดเห็น ที่ไม่เหมาะสม สามารถกระทำได้ทันที โดยไม่ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้

เรื่องก่อนหน้า-ย้อนหลัง