ลอบเผาร้านดอกไม้สดกลางตลาดมหาชัย วงจรปิดชี้คนลงมือเป็นวัยรุ่น

เกิดเหตุวางเพลิงร้านขายดอกไม้แห่งหนึ่ง ภายในตลาดเทศบาลนครสมุทรสาคร โชคดีสามารถดับไฟได้ทัน เจ้าของร้านดูกล้องวงจรปิด พบมือเพลิงเป็นเด็กวัยรุ่น เชื่อว่ามีใบสั่งให้ลงมือ

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 8 ต.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านดอกไม้กิมเล้ง ซึ่งเป็นร้านขายดอกไม้สด ตั้งอยู่ในตลาดเทศบาลนครสมุทรสาคร เลขที่ 77-80 หลังธนาคารธนชาติ สาขาตลาดมหาชัย ต.มหาชัย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร หลังจากทราบว่าร้านดังกล่าวถูกวางเพลิงเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาและมีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกพฤติกรรมการก่อเหตุไว้ได้

ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนางอัปสร สร้อยอาภรณ์ อายุ 58 ปี เจ้าของร้านขายดอกไม้กิมเล้ง และได้พาไปดูจุดที่ถูกวางเพลิงตรงบริเวณด้านข้างของร้าน ซึ่งเป็นที่จัดเก็บโครงฟางข้าวสำหรับทำพวงหรีด ที่ยังคงมีร่องรอยของไฟไหม้ที่ข้างกำแพง ท่อประปาขนาดใหญ่ สายไฟฟ้า และอุปกรณ์อื่น ๆ อีกเล็กน้อย โดยได้มีการนำเชือกมากั้นพื้นที่เอาไว้ เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง แม้มูลค่าความเสียหายจะไม่มากนัก แต่พฤติการณ์การก่อเหตุเป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก

นางอัปสร เล่าว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 06.30 น. ของวันที่ 8 ต.ค. โดยภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านที่บันทึกไว้ได้นั้น ปรากฎภาพของมือวางเพลิงเป็นเด็กวัยรุ่นอายุราว 14 – 16 ปี ผมยาวรองทรง แต่งกายคล้ายกับชุดพละศึกษาของโรงเรียนแห่งหนึ่ง เดินเข้าไปตรงด้านข้างของร้าน แล้วสักพักใหญ่ก็เกิดเพลิงโหมลุกไหม้ขึ้น ส่วนมือวางเพลิงได้เดินออกมาเฝ้าดูเหตุการณ์จนแน่ใจว่า ไฟติดฟางแล้ว จึงได้เดินหนีหายไป โชคดีที่มีคนเห็นจึงตะโกนร้องเรียกให้คนในตลาดมาช่วยกันดับไฟได้ทัน ก่อนที่จะลุกลามไปจนถึงบ้านเรือนที่พักอาศัยของคนอื่น ๆ

นางอัปสร ยังบอกอีกว่า จากการดูภาพแล้ว ตนเชื่อว่าน่าจะเป็นการจงใจมาวางเพลิงอย่างแน่นอน โดยคาดว่าคงจะมีคนสั่งหรือว่าจ้างมา ซึ่งตนเองก็อยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวมาให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะอยากรู้เหมือนกันว่ามาวางเพลิงเพื่ออะไร ใครสั่งมา ซึ่งตนและคนในครอบครัวนั้น ก็ไม่เคยมีเรื่องกับใครทั้งในตลาดและนอกตลาด

โดยหลังจากเกิดเหตุก็ได้ไปแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร และอยากวอนสื่อให้ช่วยเป็นกระบอกเสียงในการติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด เนื่องจากตนเองเกรงว่าพฤติกรรมของคนร้ายนั้นเป็นเรื่องน่ากลัวกว่าความเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะหากคนร้ายย้อนกลับมาก่อเหตุซ้ำ โดยเฉพาะถ้ายิ่งเป็นตอนกลางคืน ก็จะเกิดความรุนแรงได้มากกว่านี้

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *