ลูกเขยคลั่งบุกยิงบ้านอดีตพ่อตา-แม่ยายดับ ลูกสาวถูกลูกหลงเสียชีวิต เสียใจยิงตัวเองตาย

สลด 4 ศพ! ลูกเขยคว้า 9 มม. บุกยิงอดีตพ่อตา-แม่ยาย แต่กระสุนพลาดถูกลูกสาววัย 5 ขวบดับ รับไม่ได้ยิงตัวตาย สาเหตุคาดถูกกีดกันไม่ให้เอาลูกสาว 2 คนไปเลี้ยง

เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 4 มี.ค. ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรบ้านแพ้วได้รับแจ้งมีเหตุยิงกัน และมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 49 หมู่ที่ 9 ต.หนองบัว อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ดลชัย ปิ่นปัก ผกก.สภ. บ้านแพ้ว และ ร.ต.ประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอบ้านแพ้ว ทราบ พร้อมกับประสาน พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ บุณยะกาญจน์ หัวหน้าหน่วยวิทยาการ กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสมุทรสาคร, พ.ต.อ.จรูญศักดิ์ โต๊ะถม ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.7, ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร, พ.ต.ท.ธีรวุฒิ เกิดจงรักษ์ สารวัตรสอบสวน สภ.บ้านแพ้ว  เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ตำรวจสืบสวนสภ.บ้านแพ้ว เจ้าหน้าที่ พฐ. และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร เข้าตรวจสอบ 

โดยที่บ้านหลังดังกล่าว มีลักษณะเป็นบ้านในสวนลำไย ปลูกสร้างด้วยไม้ชั้นเดียวขนาดใหญ่ ยกพื้นสูงจากใต้ถุนเกือบ 1 เมตร มีรั้วปิดทางเข้าออก ภายในบ้านมีผู้ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เสียชีวิต 2 คน ทราบชื่อต่อมาคือ นายทิม สุขสว่าง อายุ 74 ปี เป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นเจ้าของสวนลำใยรายใหญ่ในพื้นที่ อ.บ้านแพ้ว และยังเป็นไวยาวัจกรวัดหนองบัว มีบาดแผลถูกยิงตามลำตัวทั้งเข้าและออกรวม 11 รู เสียชีวิตอยู่กลางบ้าน ส่วนอีกศพพบในห้องนอน คือ นางกาญจนี  สุขสว่าง อายุ 71 ปี เป็นภรรยาของนายทิม มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศรีษะ 1 นัด ต้นขาอีก 1 นัด ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายธนภัทร หรือนิตย์ ลิ้มชื่น ชาว ต.พังตรุ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี เป็นอดีตลูกเขยของผู้เสียชีวิต โดยหลังจากยิงพ่อตาแม่ยายแล้ว ยังพยายามที่จะบุกเข้าไปในห้องเพื่อยิงอดีตภรรยา กับน้องชาย และน้องสะใภ้ของภรรยาอีกด้วยแต่เข้าไปไม่ได้ ทำให้ทั้ง 3 คน รวมถึงลูกสาวคนโตของมือปืน วัย 12 ปี รอดจากคมกระสุนไปได้อย่างหวุดหวิด แต่ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีไปนั้น ก็ได้พา ด.ญ.น้ำมนต์ สุขสว่าง หรือ น้องมายด์ อายุ 5 ขวบ ลูกสาวคนเล็กที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกลูกหลงเพราะนอนอยู่กับตายายหลบหนีไปด้วย ส่วนบนพื้นบ้านพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. 7 ปลอก ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจพิสูจน์หลักฐานในที่เกิดเหตุ ก็ได้รับแจ้งจากญาติผู้เสียชีวิตว่า พบเห็นรอยเลือดบนคันดินเปื้อนเป็นทางยาวไปถึงโรงเก็บอุปกรณ์ทางการเกษตรของเพื่อนบ้าน ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสวนลำไยของผู้เสียชีวิต ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุมาประมาณ 300 เมตร จึงคาดว่านายธนภัทรฯ คนร้าย น่าจะหลบซ่อนตัวอยู่ในนั้น ส่วนรอยเลือดก็น่าจะเป็นของน้องมายด์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้กระจายกำลังกันปิดล้อมทั้ง 4 ด้าน และรอจังหวะที่จะเข้าประกบตัวคนร้าย แต่ก็ต้องระมัดระวังกันอย่างสุดชีวิต เพราะนอกจากจะทำงานลำบากเนื่องจากเป็นช่วงกลางคืนแล้ว คนร้ายยังมีเด็กอยู่ด้วย หากจู่โจมเข้าไปอาจจะทำให้ทั้งตำรวจและเด็กเป็นรับอันตรายได้

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้พยายามตะโกนเจรจาต่อรองให้คนร้ายยอมมอบตัว แต่ปรากฏว่าเพียงแค่ไม่กี่นาทีก็มีเสียงปืนดังมา 1 ครั้ง จากทางจุดที่คนร้ายหลบซ่อนตัวอยู่ เมื่อสิ้นเสียงปืนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รุกเข้าไปใกล้แล้วก็ส่องไฟไปทางโรงเก็บอุปกรณ์ จึงเห็นว่ามีร่างของนายธนภัทร มือปืนนอนจมกองเลือด และมีอาวุธปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ทางปลายมือขวา 1 กระบอก ส่วนทางซ้ายมือในอ้อมกอดมีศพ ด.ญ.น้ำมนต์ ถูกพันร่างด้วยผ้าขาวม้าเปื้อนเลือด  ซึ่งจากการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นพบว่าถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่ด้านหลังทะลุหน้าท้อง 1 นัด และที่หน้าแข้งข้างซ้ายอีก 1 นัด โดยน่าจะถูกลูกหลงมาจากในบ้านและทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตกลางทางขณะที่พ่ออุ้มพาหลบหนีมาทางในสวน ส่วนนายธนภัทร มือปืนมีรอยถูกกระสุนปืนยิงเข้ากลางหน้าอก 2 นัดซ้อน ซึ่งเกิดจากการฆ่าตัวตายเอง โดยคาดว่าเมื่อนายธนภัทรพาลูกหนีออกมาแล้ว เห็นว่าลูกเสียชีวิตจึงเกิดความเสียใจและรับไม่ได้ที่ตนเองทำให้ลูกต้องตาย จึงฆ่าตัวตายตาม

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายธนภัทร อดีตลูกเขยรายนี้แต่งงานกับนางมนต์ทิพย์ สุขสว่าง เมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมา จนมีลูกด้วยกัน 2 คน เป็นผู้หญิงทั้งคู่ ซึ่งลูกสาวคนโตอายุ 12 ปี ส่วนคนเล็กที่เสียชีวิตอายุ 5 ปี แต่ทั้งสองคนมีปัญหากันจึงเลิกกันไปได้เกือบ 4 ปีแล้ว แต่เมื่อไม่นานนี้นายธนภัทรพยายามที่จะโทรมาหาพ่อตา แม่ยายและภรรยา เพื่อขอลูกสาวทั้ง 2 คนกลับไปเลี้ยงดู แต่ทางอดีตพ่อตากับแม่ยายไม่ยอมให้เอาไปอยู่ด้วยเพราะเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กจึงรักหลานทั้งสองคนมาก แต่ก็ไม่ได้ห้ามหรือกีดกันอดีตลูกเขยที่จะไปมาหาสู่กับหลาน ๆ เพราะอย่างไรก็เป็นสายเลือดเดียวกัน จึงไม่มีใครคาดคิดว่าจะมาก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งศพของผู้เสียชีวิตทั้ง 4 คน ไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช พร้อมกันนี้ก็จะได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับทั้ง 2 ฝ่ายมาสอบปากคำ เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนของการก่อเหตุสะเทือนขวัญและเศร้าสลดใจที่เกิดขึ้นต่อไป

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *