ชาวตำบลอำแพงออกโรงค้าน ใช้ “พุทธมณฑลสมุทรสาคร” กักคนกลุ่มเสี่ยงโควิด-19

ชาวบ้านตำบลอำแพง จ.สมุทรสาคร ประมาณ 30 คน รวมตัวคัดค้านทางจังหวัดฯ ที่จะใช้ “พุทธมณฑลสมุทรสาคร” เป็นสถานที่พักพิงชั่วคราวเฝ้าระวังผู้เดินทางกลับประเทศกลุ่มเสี่ยงแพร่ระบาด “โควิด-19” ด้าน ผวจ.สมุทรสาคร เผยตัวเลขบุคคลกลุ่มเสี่ยงอยู่ที่ 5 คน

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 9 มี.ค. ชาวบ้านในตำบลอำแพง อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ประมาณ 30 คน ออกมารวมตัวกันที่พุทธมณฑลจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อคัดค้านการใช้พุทธมณฑลจังหวัดสมุทรสาคร เป็นสถานที่พักพิงชั่วคราวเพื่อเฝ้าระวังและสังเกตอาการ 14 วัน สำหรับผู้ที่เดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข โดยมี นพ.อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร ในนามผู้แทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร และ ร.ต.ประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอบ้านแพ้ว ลงพื้นที่เข้าชี้แจงกับชาวบ้าน

ภาพจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก : Win Ampang

โดยผู้แทนชาวบ้านตำบลอำแพงให้เหตุผลว่า พุทธมณฑลจังหวัดสมุทรสาครเป็นสถานที่ไม่เหมาะสมในการเป็นสถานที่พักพิงเพื่อกักกันโรค เนื่องจากอยู่ใกล้ชุมชน เป็นพื้นที่ออกกำลังกาย และมีศูนย์เด็กเล็กอยู่ภายใน อาจทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบ จึงอยากให้ทางจังหวัดพิจารณาย้ายไปตั้งในพื้นที่อื่น ทางด้านนายอำเภอบ้านแพ้วชี้แจงว่า สถานที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่รองรับผู้ที่เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงซึ่งยังไม่มีอาการของโรค แต่จำเป็นต้องกักตัวอยู่ในพื้นที่เป็นเวลา 14 วัน โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขคอยดูแลอย่างเต็มที่ ซึ่งสถานที่ดังกล่าวมีที่พัก มีสิ่งอำนวยความสะดวกและมีรั้วรอบขอบชิด ป้องกันการติดต่อไปยังผู้คนภายนอกได้ แต่สุดท้ายชาวบ้านยังยืนกรานที่จะจะไม่ให้มีการใช้พื้นที่พุทธมณฑลสมุทรสาคร เป็นที่พักพิงเพื่อกักกันโรคอย่างเด็ดขาด

อีกด้านหนึ่ง นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางจังหวัดยังไม่ฟันธงว่าจะใช้สถานที่ดังกล่าวเป็นสถานที่พักพิงเพื่อกักกันโรค ตอนนี้ตัวเลขบุคคลกลุ่มเสี่ยงที่มีภูมิลำเนาในสมุทรสาครมีเพียง 5 คน และไม่ใช่คนที่มีอาการป่วยจากโรคโควิด-19 สำหรับผู้ที่เข้ากักตัวในสถานที่พักพิง จะเป็นผู้ที่ไม่มีอาการใด ๆ มีการตรวจร่างกายแล้วยังมีผลเป็นลบ แต่จำเป็นต้องกักตัวตามมาตรการเท่านั้น ซึ่งการเตรียมความพร้อมเรื่องสถานที่พักพิงหรือกักตัวจำเป็นต้องเตรียมไว้ เพราะหากมีผู้ที่เดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงมากขึ้น ก็ต้องมาพักยังสถานที่ดังกล่าว เพราะไม่ต้องการเพิ่มจำนวนบุคคลในโรงพยาบาลที่จะใช้สำหรับรักษาผู้ที่ป่วยแล้วเท่านั้น ทั้งนี้ ทางจังหวัดจะจัดหาสถานที่เหมาะสมทางด้านสภาพแวดล้อม สิ่งอำนวยความสะดวก และห่างไกลชุมชน เพื่อรองรับบุคคลกลุ่มเสี่ยงดังกล่าวต่อไป

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *