สมุทรสาครยอดผู้ป่วย “โควิด-19” พุ่ง 8 รายแล้ว – ผลแล็บยัน “ดาบตำรวจ” สภ.โคกขามไม่พบเชื้อ

สมุทรสาครพบผู้ติดเชื้อ “โควิด 19” วันเดียวเพิ่ม 3 ราย ยอดผู้ป่วยรวม 8 รายแล้ว เตือนสร้างข่าวเท็จถูกจับปรับแน่ ส่วนดาบตำรวจ สภ.โคกขาม ผลตรวจยืนยันไม่พบเชื้อ หลังข่าวลือแพร่สะพัดหนัก

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 25 มี.ค. นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ถึงสถานการณ์โรคโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 ของจังหวัดสมุทรสาคร โดยเปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มเติมจากเมื่อวาน (24 มี.ค. 2563) อีก 3 ราย รวมเป็นจำนวน 8 ราย ทั้งหมดนั้นอยู่ในอาการขั้นปลอดภัย โดยรายแรกมีไข้ต่ำยังคงตรวจพบเชื้อ ส่วนที่เหลืออาการปกติ แต่ยังคงต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ต่อไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งผู้ป่วยทั้ง 8 รายนั้น ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยที่รับเชื้อมาจากสนามมวยในกรุงเทพฯ โดยทั้งหมดพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สมุทรสาคร 4 ราย รพ.กระทุ่มแบน 3 ราย และ รพ.บ้านแพ้วอีก 1 ราย

• เผยข้อมูลผู้ป่วย “โควิด-19” ชาวสมุทรสาครทั้ง 8 ราย ส่วนใหญ่ติดเชื้อจากสนามมวย

สำหรับผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวใน จ.สมุทรสาคร ทั้งหมด 8 รายนั้น ประกอบด้วย ผู้ป่วยรายแรก เพศชาย เป็นนักพนัน ติดเชื้อจากปอยเปต กัมพูชา รักษาตัวอยู่ที่ รพ.สมุทรสาคร, ผู้ป่วยรายที่ 2 เพศหญิง อาชีพแม่บ้าน ชาว ต.โคกขาม ติดเชื้อจากนายจ้าง รักษาตัวอยู่ที่ รพ.สมุทรสาคร, ผู้ป่วยรายที่ 3 เพศชาย เจ้าของโรงงาน ติดเชื้อจากสนามมวยในกรุงเทพฯ รักษาตัวอยู่ที่ รพ.กระทุ่มแบน, ผู้ป่วยรายที่ 4 เพศหญิง ติดเชื้อจากการสัมผัสโดยตรงกับผู้ป่วยรายที่สอง รักษาตัวอยู่ที่ รพ.สมุทรสาคร,

ผู้ป่วยรายที่ 5 เพศชาย อาชีพขับรถแท็กซี่ ติดเชื้อจากสนามมวยในกรุงเทพฯ รักษาตัวอยู่ที่ รพ.กระทุ่มแบน, ผู้ป่วยรายที่ 6 เพศชาย ชาว ต.อ้อมน้อย ติดเชื้อจากสนามมวยในกรุงเทพฯ รักษาตัวที่ รพ.กระทุ่มแบน, ผู้ป่วยรายที่ 7 ชาว ต.มหาชัย ติดเชื้อจากการพูดคุยกับคนงานชาวมาเลเซีย ตรวจพบเชื้อจากส่วนกลาง ถูกส่งตัวมารักษาที่ รพ.บ้านแพ้ว และผู้ป่วยรายที่ 8 เพศชาย ชาว ต.คลองมะเดื่อ ติดเชื้อจากสนามมวยในกรุงเทพฯ รักษาตัวอยู่ที่ รพ.กระทุ่มแบน นอกจากนี้ยังมีผู้ที่อยู่ในระยะเฝ้าระวัง 14 วัน จำนวน 29 ราย แบ่งเป็น อ.เมืองสมุทรสาคร 15 ราย อ.กระทุ่มแบน 4 ราย และ อ.บ้านแพ้ว 10 ราย

• ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ฮึ่ม! ใครปล่อยข่าวเท็จ เจอปรับ – จำคุกแน่ วอนประชาชนหาข้อเท็จจริงก่อนโพสต์

นายวีระศักดิ์ เปิดเผยอีกว่า ด้วยสถานการณ์ของโรคโควิด19 นั้น ขอให้พี่น้องประชาชนชาวสมุทรสาคร รับฟังข่าวสารที่เป็นจริงจากทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครเท่านั้น ซึ่งการรายงานทุกเรื่อง ทุกข้อมูล ยืนยันได้ว่าไม่มีการปกปิดข้อเท็จจริงแต่อย่างใดทั้งสิ้น เป็นการรายงานตามความเป็นจริง ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง  ขณะที่ข่าวลือว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 400 – 500 คน ในสมุทรสาครแต่มีการปกปิดข่าวไว้นั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งโดยอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และอำนาจของประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาครในสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้ จะได้ให้เจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบว่าใครเป็นผู้สร้างข่าวด้านลบ จนทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความตื่นตระหนกตกใจ สำหรับผู้ที่กระทำการสร้างข่าวโคมลอย หรือสร้างข่าวเท็จขึ้นมา จะต้องถูกดำเนินคดีมีโทษจำคุก 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงขอให้ทุกคนก่อนที่จะโพสต์ข้อความต่าง ๆ ผ่านทางเฟซบุ๊กหรือโซเชียลมีเดียทุกรูปแบบนั้น โปรดหาข้อเท็จจริงก่อน การโพสต์ข่าวลวงอาจนำมาซึ่งการรับโทษทางกฎหมายขั้นสูงสุดได้

• หยุดลือกันได้แล้ว! เคส “ดาบตำรวจ” สภ.โคกขาม ผลแล็บฯ ออกแล้ว ไม่ติดเชื้อโควิด-19

ต่อมาเมื่อเวลา 17.30 น. นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 5 สมุทรสงคราม เกี่ยวกับการยืนยันผลการตรวจเชื้อโควิด-19 ของดาบตำรวจชุดสืบสวนนายหนึ่ง สังกัด สภ.โคกขาม ว่า ไม่พบเชื้อโควิด-19 ซึ่งดาบตำรวจผู้นี้มีประวัติลงพื้นที่ปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนของ สภ.โคกขาม และ กองบังคับการสืบสวนภูธรจังหวัดสมุทรสาคร รวมกว่า 20 นาย จากนั้นก็มีอาการคล้ายกับผู้ป่วยด้วยโรคโควิด-19

ต่อมาเข้ารับการตรวจหาเชื้อจากโรงพยาบาล 2 แห่ง แล้วผลไม่ตรงกัน ทำให้ต้องส่งไปตรวจหาเชื้อที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 5 สมุทรสงคราม โดยขณะที่รอผลยืนยันการตรวจเชื้อนั้น ทางผู้บังคับบัญชาได้มีการออกหนังสือคำสั่ง ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ปฏิบัติงานร่วมกับดาบตำรวจนายนั้น หยุดปฏิบัติงานในหน้าที่และทำการกักตัวทันที จนทำให้เกิดข่าวลือแพร่สะพัดหนักในโลกโซเชียล

กระทั่งมีผลออกมายืนยันเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าไม่พบเชื้อโควิด-19 อย่างไรก็ตามทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ก็ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายเฝ้าระวังและดูแลตนเองในขณะปฏิบัติหน้าที่ เพื่อความปลอดภัยจากโรคโควิด-19 หากใครมีอาการที่ต้องสงสัยขอให้รีบเข้ารับการตรวจอาการทันที เนื่องจากงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องเข้าไปสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ นั้น มีความเสี่ยงสูงต่อการรับเชื้อโควิด-19 ได้

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *