ทางหลวงชนบทสมุทรสาคร เล็งขยาย “ถนนสายสวนส้ม” เป็น 4 เลน คาดเริ่มก่อสร้างในปี 2565

ผู้ว่าฯ วีระศักดิ์ ร่วมกับทางหลวงชนบทสมุทรสาคร สำรวจถนนสายสวนส้มเตรียมขยายเป็น 4 ช่องจราจร รองรับปริมาณรถ ถ.พระราม 2 เพิ่มประสิทธิภาพขนส่งในพื้นที่โดยรอบนิคมอุตสาหกรรม เผยหากไม่ติดขัด เริ่มก่อสร้างได้อย่างเร็วที่สุดปี 2565

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 มิ.ย. นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายแก่นวิทย์ วงศ์ชูศิริ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสมุทรสาคร และคณะ ร่วมกันสำรวจทางหลวงชนบทหมายเลข สค.2037 หรือถนนสายสวนส้ม ซึ่งเชื่อมต่อระหว่าง ถ.พระราม 2 ถึงสะพานดำเนินสะดวก 2 ใกล้กับประตูน้ำบางยาง ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร ซึ่งมีแผนที่จะยกระดับมาตรฐานชั้นทางจาก 2 เป็น 4 ช่องจราจร (ไป-กลับ) เพื่อรองรับปริมาณจราจรจาก ถ.พระราม 2 และบรรเทาปัญหาการจราจรบริเวณพื้นที่โดยรอบนิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร รวมถึงเชื่อมต่อโครงข่ายการคมนาคม เพิ่มประสิทธิภาพของการขนส่งในพื้นที่โดยรอบให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

จากการสำรวจพื้นที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครและคณะ พบว่าบริเวณพื้นที่ริมคลองมีการปลูกเพิงขายของรุกล้ำพื้นที่กันเป็นจำนวนมาก บางเพิงปลูกเป็นลักษณะที่อยู่อาศัยอย่างถาวร อีกทั้งฝั่งตรงกันข้ามกันมีอาคารพาณิชย์ตั้งอยู่หลายจุด ซึ่งการก่อสร้างขยายถนนสายดังกล่าวต้องใช้พื้นที่เขตทางกว้างประมาณ 30 เมตร โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครเผยว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสำรวจออกแบบโดยกรมทางหลวงชนบทและบริษัทที่ปรึกษา หากไม่มีอะไรติดขัด อย่างเร็วที่สุดก็จะได้ดำเนินการก่อสร้างขยายถนนสายสวนส้มภายในปี 2565

สำหรับความเป็นมาของโครงการดังกล่าว เนื่องจากกระทรวงคมนาคม มอบหมายให้ กรมทางหลวงชนบท พิจารณาดำเนินการ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม โดย การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย แจ้งว่า พื้นที่โดยรอบนิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร ปัจจุบันการสัญจรโดยรอบพื้นที่มีความหนาแน่น ติดขัด โดยเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วน จึงขอความอนุเคราะห์ ให้เร่งดำเนินการบรรเทาปัญหาการจราจร โดยเสนอแนะให้ทำการเพิ่มช่องจราจรเป็น 4 ช่องจราจร เนื่องจากจำนวนช่องจราจรไม่เพียงพอที่จะรองรับ กรมทางหลวงชนบทจึงมีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการสำรวจออกแบบ ถนนสาย สค.2037 แยก ทล.35 – บ.บางยาง อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร

แต่ลักษณะโครงการดังกล่าวมีความซับซ้อน เนื่องจากเป็นการสำรวจออกแบบเพื่อปรับปรุงความกว้างผิวจราจรของถนนเดิม ซึ่งผ่านพื้นที่อยู่อาศัยของประชาชน จำเป็นต้องมีการประชาสัมพันธ์และการทำส่วนร่วมประชาชน และแนวถนนเดิมอยู่ติดคลองชลประทาน มีเขตทางในการก่อสร้างจำกัดจึงต้องประสานงานกับเจ้าของพื้นที่ถึงรูปแบบโครงการอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งพื้นที่โครงการมีลักษณะเป็นดินเลน ดินเหนียว และเนื้อดินเค็มจัดเนื่องจากได้รับอิทธิพลจากน้ำทะเล ทำให้ต้องออกแบบเพื่อปรับปรุงคุณภาพคันทางให้มีเสถียรภาพเพียงพอ และคำนวณหาค่าการทรุดตัวของถนน

รวมทั้งออกแบบป้องกันการเสื่อมสภาพของคอนกรีตเนื่องจาก เกลือซัลเฟต และการเกิดสนิมของเหล็กเสริมเนื่องจากเกลือคลอไรด์ พร้อมศึกษาผลกระทบด้านเศรษฐกิจ สังคม และจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (IEE) พร้อมทั้งทำการวิเคราะห์และคาดการณ์ปริมาณจราจรบริเวณพื้นที่โครงการ ซึ่งต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในการดำเนินการ จึงได้มีการว่าจ้างบริษัท บุญปัญญา เทคโนโลยี จำกัด ดำเนินการสำรวจออกแบบเป็นเวลา 270 วัน ตั้งแต่ 13 เม.ย. 2563 – 7 ม.ค. 2564 ทั้งนี้ จะมีการประชุมชี้แจงและรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1 (ปฐมนิเทศโครงการ) ในช่วงเดือน ก.ค. นี้

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *