“ศักดิ์สยาม” พอใจการจัดการจราจร โครงการทางยกระดับ ถ.พระราม 2 เร่งเชื่อมต่อถึงบ้านแพ้ว

รมว.คมนาคม “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” ตรวจความคืบหน้าก่อสร้างทางยกระดับ ถ.พระราม 2 ของกรมทางหลวง-การทางพิเศษ พอใจการจัดการจราจรคล่องตัว เล็งขยายไปถึงบ้านแพ้ว พร้อมแก้ปัญหาคอขวดแยกวังมะนาว เผยผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ฝากบูรณาการประชาสัมพันธ์ก่อสร้างให้คนในพื้นที่ทราบ

เมื่อวันที่ 18 ก.ค. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 35 สาย ธนบุรี – ปากท่อ (ถนนพระราม 2) และโครงการทางพิเศษพระราม 3 โดยมี นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม, นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง, นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร, นายชาตรี ตันศิริ รักษาการรองผู้ว่าการฝ่ายก่อสร้างและบำรุงรักษา การทางพิเศษแห่งประเทศไทย รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมต้อนรับ

เริ่มต้นนายศักดิ์สยาม และคณะ เดินทางมาที่สำนักงานควบคุมโครงการก่อสร้างทางยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 35 สาย ธนบุรี – ปากท่อ (ถนนพระราม 2) ตอน ทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน – เอกชัย ตอน 2 จ.สมุทรสาคร เพื่อรับฟังบรรยายสรุปภาพรวมความคืบหน้าของการก่อสร้าง จากนั้นได้เยี่ยมชมศูนย์บูรณาการสั่งการ Single Command Center และลงพื้นที่ก่อสร้างโครงการทางยกระดับฯ ของกรมทางหลวง 2 จุด และการทางพิเศษฯ อีก 1 จุด

นายศักดิ์สยาม เปิดเผยว่า วันนี้ได้มาตรวจในเรื่องของการดำเนินการตามแผนการบริหารการก่อสร้างโครงการทางยกระดับทั้งสองโครงการให้เป็นไปตามแผนการบริหารใน 5 มิติ (มิติการออกแบบ, มิติการประชาสัมพันธ์, มิติการบริหารจราจร, มิติการบริหารและเร่งรัดการก่อสร้าง และมิติการบริหารพื้นที่ร่วม) สิ่งแรกที่มาดูคือพี่น้องประชาชนสามารถใช้พื้นที่การจราจรบน ถ.พระราม 2 หลังจากที่นำเครื่องจักรเข้ามาเมื่อวันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา สภาพการจราจรที่เห็นมีความคล่องตัว อาจจะมีการชะลอตัวบางช่วงเล็กน้อย

ในภาพรวมเป็นที่น่าพอใจ เท่าที่ดูสถิติที่กรมทางหลวงและการทางพิเศษฯ เก็บข้อมูลก่อนนำเครื่องจักรเข้ามา คืนผิวจราจร 14 ช่องจราจร ความเร็วเฉลี่ย 55.9 กม./ชม. หลังจากที่วางแบริเออร์เพื่อเตรียมพื้นที่นำเครื่องจักรเข้ามาก่อสร้าง ความเร็วเฉลี่ยเหลือ 53.7 กม./ชม. ซึ่งลดลงนิดเดียว จะเห็นได้ว่าการจราจรจะมีการเคลื่อนตัวอยู่ตลอดเวลา ตนคิดว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากการที่เราได้วางแผน และความร่วมมือของพี่น้องประชาชน

รวมทั้งได้มาดูว่าการวางแบริเออร์ ป้ายสัญญาณต่าง ๆ มีความชัดเจน หรือมีการบังสายตาผู้ขับขี่หรือไม่ ซึ่งก็ได้วางเป็นระเบียบเรียบร้อย อาจจะมีบางจุดโดนลมอะไรบ้าง ซึ่งนายช่างผู้ควบคุมงาน และอธิบดีกรมทางหลวง ก็ได้กำชับว่าให้มีการตรวจทุกวัน เพื่อที่จะให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมถึงมีการจัดเจ้าหน้าที่ในการอำนวยการจราจร โบกธงแดงให้เห็นว่าตรงนี้ใกล้พื้นที่ก่อสร้าง

ขณะนี้ได้ดำเนินการนำวัสดุเข้าพื้นที่ก่อสร้างช่วงเวลา 21.00 – 04.00 น. หลังจากนั้นจะไม่มีการนำวัสดุเข้า แต่เครื่องจักรจะทำงานไปในพื้นที่ ๆ กันไว้ตลอดเวลา ไม่มีการตั้งเครื่องไว้เฉย ๆ และต้องไม่เป็นภาระในการสร้างปัญหาเรื่องการจราจร และต้องดูเรื่องความปลอดภัย รวมถึงตนได้มอบนโยบายให้กรมทางหลวง และการทางพิเศษฯ สรุปรายงานการก่อสร้างให้ทราบทุกเดือน รวมถึงการบริหารสัญญาก่อสร้างฯ จะต้องเป็นไปตามที่กำหนดตกลงกันไว้ ไม่มีการขยายเวลา ถ้าเกิดตกแผนต้องรีบเร่งกลับมาให้ได้ นอกจากเรื่องของภัยธรรมชาติรุนแรง ก็เป็นเรื่องที่ดำเนินการขยายเวลาตามเงื่อนไขของระเบียบกฎหมายได้

ในเรื่องของการบูรณาการการจราจร ทางกรมทางหลวง และการทางพิเศษฯ ได้รับการประสานงานจากผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการติดตั้งกล้อง CCTV ทั้งหมด 12 จุด ครอบคลุมพื้นที่การก่อสร้าง และส่งสัญญาณภาพไปยังจุดควบคุมที่ศูนย์ควบคุมการก่อสร้าง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่จับตาดูตลอด 24 ชม. เมื่อมีเหตุก็ใช้วิทยุสื่อสารหรือเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่สามารถเข้าถึงได้ทันที

นายศักดิ์สยาม กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการก่อสร้าง ตนได้เห็นการเตรียมเครื่องมือในการขุดเจาะมูลค่า 200 ล้านบาทต่อชุด ซึ่งเป็นเทคโนโลยีโดยใช้การขุดดินแทนการปักเสาตอม่อแบบกลมซึ่งใช้เวลามาก โดยจะมีการนำเข้ามาเพิ่มเติมถึง 12 ชุด เพื่อเร่งรัดการก่อสร้างให้สามารถคืนผิวจราจรให้ได้เร็วที่สุด ทั้งสองโครงการมีเวลาก่อสร้างตามแผนประมาณ 3 ปี

อีกเรื่องที่สำคัญคือการสื่อสาร ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครบอกว่า อยากจะให้บูรณาการการสื่อสารของกรมทางหลวง และการทางพิเศษฯ ให้คนในพื้นที่ได้รับทราบด้วย ตนจึงมอบหมายอธิบดีกรมทางหลวงให้ทางกรมฯ ประสานงานกับเพจต่าง ๆ ในจังหวัด ในเรื่องของการก่อสร้าง สภาพการจราจร ซึ่งเรามีแอปพลิเคชัน Thailand Highway Traffic และ EXAT Portal อยู่แล้ว แต่อยากจะให้ครอบคลุมมากกว่านี้ก็ต้องบูรณาการกับท้องถิ่นในพื้นที่ก่อสร้าง ฝ่ายปกครอง และตำรวจ เพื่อที่จะได้สื่อสารกับพี่น้องประชาชนอยู่ตลอดเวลา

รวมถึงเรื่องของช่วงวันหยุดยาว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทางกระทรวงคมนาคม โดย สนข. เป็นเลขานุการฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็บูรณาการกัน สำหรับวันหยุดยาวที่จะเกิดขึ้น ก็จะไปดูว่าตรงไหนเป็นพื้นที่เสี่ยงก็จะมีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ และห้วงระหว่างวันที่ 24-28 ก.ค. 2563 ก็จะขอให้ผู้รับจ้างหยุดการก่อสร้างทั่วประเทศ เพื่อต้องการคืนผิวจราจรให้พี่น้องประชาชนใช้ในการเดินทางอีกด้วย

นอกจากนี้ กรมทางหลวงจะมีโครงการต่อขยายทางยกระดับ ถ.พระราม 2 ในอนาคต จากเอกชัย-บ้านแพ้ว ระยะทาง 15 กม. เพื่อให้สามารถระบายการจราจรได้ดีมากกว่าเดิม และในส่วนของภาคใต้ ก็ได้มีการตั้งงบประมาณในปี 2564 เพื่อศึกษาในจุดที่เป็นคอขวดบริเวณแยกวังมะนาว จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นสามแยก โดยทำเป็นสี่แยกเพื่อแก้ไขปัญหาคอขวด โดยก่อสร้างถนนระยะทางประมาณ 14 กม. เชื่อมกับทางหลวงหมายเลข 3510 ท่ายาง-หนองหญ้าปล้อง ทะลุเข้าเพชรบุรีได้เลย

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *