“ศักดิ์สยาม” เร่งรัดโครงการแก้ปัญหาจราจรจากกรุงเทพฯ สู่ภาคใต้ ในพื้นที่ 6 จว.

รมว.คมนาคม ลงพื้นที่ราชบุรี ติดตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี เร่งรัดการดำเนินงานเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายทางหลวง – แก้ไขปัญหาจราจรในเส้นทางจากกรุงเทพฯ สู่ภาคใต้ 5 แนวทาง ในพื้นที่กรุงเทพฯ นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ราชบุรี และเพชรบุรี

เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 23 ก.ย. ที่โรงยิมเนเซี่ยมจังหวัดราชบุรี ต.หน้าเมือง อ.เมืองฯ จ.ราชบุรี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ติดตามข้อสั่งการจากนายกรัฐมนตรีในการดำเนินงานเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายทางหลวงและแก้ไขปัญหาจราจร โดยมีนายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วย นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวงม นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายชรัส บุญณสะ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมงาน

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายถนนและการก่อสร้างทางหลวงสายใหม่ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกด้านการคมนาคมขนส่งให้พี่น้องประชาชน และบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด โดยเฉพาะในเส้นทางจากกรุงเทพฯ สู่ภาคใต้ โดยได้ให้นโยบายแก่กรมทางหลวงเร่งรัดดำเนินการพัฒนาและปรับปรุงโครงข่ายทางหลวง พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในเส้นทางสู่ภาคใต้ให้มีความสะดวก รวดเร็ว คล่องตัว และปลอดภัย ผ่าน 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ราชบุรี และเพชรบุรี  สำหรับการพัฒนาและปรับปรุงโครงข่ายทางหลวงในเส้นทางสู่ภาคใต้ที่กรมทางหลวงดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน มีทั้งสิ้น 5 แนวทาง คือ

 1. คลี่คลายปัญหาการจราจรบนถนนพระราม 2 ซึ่งเป็นเส้นทางสายหลักในการเดินทางสู่ภาคใต้ ด้วยการปรับปรุงถนนระดับพื้นดิน ซึ่งได้เริ่มดำเนินการแล้วตั้งแต่เดือน ก.พ. 2561 

2. เร่งรัดก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองทางยกระดับบนถนนพระราม 2 ช่วงบางขุนเทียน – บ้านแพ้ว โดยมีรูปแบบก่อสร้างเป็นมอเตอร์เวย์ยกระดับบนถนนพระราม 2 เชื่อมต่อกับโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันตก ขนาด 6 ช่องจราจร เป็นระบบการเก็บค่าผ่านทางที่ใช้เทคโนโลยี AI ระบบ M-Flow ไร้ไม้กั้น วงเงินลงทุนรวมกว่า 30,000 ล้านบาท โดยช่วงบางขุนเทียน-เอกชัยจะแล้วเสร็จในปี 2565 และคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดถึงบ้านแพ้วภายในปี 2567 

3. โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 8 สายนครปฐม – ชะอำ มีจุดเริ่มต้นโครงการบริเวณชุมทางต่างระดับนครชัยศรี ซึ่งเชื่อมต่อโดยตรงกับทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี เส้นทางมุ่งหน้าลงใต้ถึงทางแยกต่างระดับท่ายาง ระยะทาง 109 กม. มีรูปแบบก่อสร้างเป็นมอเตอร์เวย์ขนาด 4 ช่องจราจร และมีด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางจำนวน 9 แห่ง โดยใช้เทคโนโลยี AI แบบระบบ M-Flow พร้อมมีที่พักริมทาง (Rest Area) จำนวน 5 แห่ง วงเงินลงทุนทั้งสิ้น 79,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาขออนุมัติโครงการในรูปแบบ PPP และมีแผนดำเนินงานก่อสร้างระหว่างปี 2565 – 2568 

4. การเดินหน้าโครงการทางหลวงแนวใหม่ เชื่อมต่อสามแยกวังมะนาว – บรรจบทางหลวงหมายเลข 3510 อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี รวมระยะทาง 36.8 กม. แบ่งช่วงดำเนินการ เป็น 3 ตอน ดังนี้ ตอนที่ 1 ช่วงสามแยกวังมะนาว – บ.หนองลังกา ระยะทาง 14.8 กม. ก่อสร้างเป็นทางแนวใหม่ ขนาด 4 ช่องจราจร รวมทางแยกต่างระดับ ตอนที่ 2 ช่วง บ.หนองลังกา – บ.ห้วยศาลา ระยะทาง 7.1 กม. ตามแนวทางหลวงหมายเลข 3206  ขยายเป็น 4 ช่องจราจร ตอนที่ 3 ช่วง บ.ห้วยศาลา – สี่แยกเข้า อ.หนองหญ้าปล้อง ระยะทาง 14.9 กม. ตามแนวทางหลวงหมายเลข 3510 ขยายเป็น 4 ช่องจราจร ใช้วงเงินงบประมาณก่อสร้างทั้งสิ้น 2,650 ล้านบาท  ได้รับงบประมาณในการออกแบบรายละเอียดในปี 2564 และขอตั้งงบประมาณก่อสร้างในปี 2566 คาดว่าพร้อมเปิดให้บริการในปี 2568 

5. การปรับปรุงก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลองบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 (สะพานสิริลักขณ์) โดยมีรูปแบบการก่อสร้างเป็นสะพานคอนกรีตข้ามแม่น้ำแบบสะพานคู่ กว้างข้างละ 3 ช่องจราจร ได้รับงบประมาณเพื่อสำรวจออกแบบและศึกษา EIA ในปี 2564 คาดว่าจะดำเนินงานก่อสร้างในปี 2566 พร้อมแล้วเสร็จในปี 2568  

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *