“เฉลิม” นำทีมเพื่อไทยปราศรัยใหญ่ หนุน “เชาวรินทร์” ชิงนายก อบจ.สมุทรสาคร

พรรคเพื่อไทย เปิดเวทีปราศรัยใหญ่หาเสียงเลือกตั้ง อบจ.สมุทรสาคร “เฉลิม” ชูนโยบายพัฒนา 6 ด้าน ส่วน “พงศ์เทพ” ตอก “ประยุทธ์” ยึดอำนาจงดเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นครั้งแรก ดัน “เฮียโต้” เชาวรินทร์ ชาญสายชล นั่งนายก อบจ.

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 28 พ.ย. ที่บริเวณริมเขื่อนศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร พรรคเพื่อไทย จัดการปราศัยใหญ่ช่วยนายเชาวรินทร์ (โต้) ชาญสายชล ผู้สมัครนายก อบจ.สมุทรสาคร หมายเลข 1 และผู้สมัครสมาชิกสภา อบจ.สมุทรสาคร สังกัดพรรคเพื่อไทย สมุทรสาคร ทั้ง 29 เขตเลือกตั้ง นำโดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกรัฐมนตรี, นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี, ดร.อดิศร เพียงเกษ อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์, นายพิชัย นริพกะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน, นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส. สมุทรปราการ, นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, ผศ.ดร.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย รวมถึง นายพลภวัฒน์ ชำนาญวาด อดีตผู้สมัคร ส.ส. สมุทรสาคร พรรคไทยรักษาชาติ โดยมีประชาชนร่วมฟังปราศัยจำนวนมาก

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง กล่าวปราศรัยว่า พรรคเพื่อไทยมีกรอบในการพิจารณาผู้สมัครนายก อบจ. โดยกรรมการบริหารพรรคได้ตรวจสอบและคัดเลือกผู้ที่มีความเหมาะสม เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรค จำนวน 25 จังหวัด ซึ่งนายเชาวรินทร์ ชาญสายชล มีความเหมาะสม จึงขอให้ประชาชนช่วยลงคะแนนเสียงให้นายเชาวรินทร์เข้ามาเป็นนายก อบจ.สมุทรสาคร รวมถึงเลือกสมาชิกสภา อบจ.สมุทรสาคร จากพรรคเพื่อไทย สมุทรสาคร แบบยกทีม หากนายเชาวรินทร์ ชนะการเลือกตั้ง ตนจะมาปราศรัยขอบคุณพี่น้องประชาชนอีกครั้ง

สำหรับนโยบายมี 6 ด้าน ในการพัฒนาจังหวัดสมุทรสาคร ได้แก่ นโยบาย “ระบบขนส่งคุณภาพใกล้บ้าน” เชื่อมท้องถิ่นเป็น “เส้นเลือดฝอยการคมนาคม” ของประเทศ, นโยบาย “สุขภาพดีใกล้บ้าน” เน้นให้คนในท้องถิ่นมีสุขภาพที่ดีขึ้น และต้องมีอนามัยใกล้บ้าน, นโยบายการศึกษา ที่ตั้งเป้าให้เด็กที่หลุดจากระบบการศึกษาเพราะยากจนเข้าสู่ระบบการศึกษา ภายใต้แนวคิด “ลูกคุณเราดูแล ลูกเราต้องเท่ากัน” และ “การศึกษาระดับโลกใกล้บ้าน”, นโยบาย “เกษตรปลอดภัยใกล้บ้าน สู่ครัวโลก ปลูกในถิ่น กินไปทั่วโลก”, นโยบาย “SMEs ระดับชุมชุน ใกล้บ้าน สู่การค้าระดับโลก” และนโยบาย “แหล่งท่องเที่ยวชุมชน สร้างงาน สร้างรายได้ ใกล้บ้าน”

ทางด้าน นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ก็ได้กล่าวปราศรัยว่า สมัยก่อนพ่อของตนเคยเป็นนายกเทศมนตรี แม้จะมีการยึดอำนาจหลายครั้งก็มีการเลือกตั้งท้องถิ่นทุก 4 ปีไม่เคยหยุด แต่สมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นครั้งแรกที่ยึดอำนาจแล้วองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหลายไม่ต้องเลือกตั้ง อีกทั้งมหาชัยซบเซาทุกวันนี้ก็มาจากฝีมือการทำงานของรัฐบาล ดังนั้นถ้าจะส่งเสียงดังไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ฯ ว่าคนสมุทรสาครไม่เอาแล้ว ในวันที่ 20 ธ.ค. 2563 ให้เลือกนายก อบจ.สมุทรสาคร และสมาชิกสภา อบจ.สมุทรสาคร พรรคเพื่อไทย

นายพงศ์เทพ กล่าวต่อว่า งบประมาณปีหนึ่งของ อบจ.สมุทรสาคร ที่ได้จากการเก็บภาษีประมาณ 1,000 ล้านบาท ใช้เป็นรายจ่ายประจำประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ เหลืองบที่ใช้ในการพัฒนาจังหวัดประมาณ 600-700 ล้านบาท แต่เดิม อบจ. นำเงินส่วนนี้ไปทำอะไรก็ขึ้นอยู่กับ นายกฯ และสมาชิกสภา อบจ. เป็นผู้พิจารณา โดยประชาชนไม่เคยมีส่วนร่วมและไม่ทราบว่าเป็นโครงการอะไร หากพรรคเพื่อไทย สมุทรสาคร ได้รับการเลือกตั้ง จะนำเงิน 1 ใน 3 ประมาณ 200 ล้านบาทต่อปี แบ่งให้สมาชิกสภา อบจ. 30 เขต จะได้เขตละประมาณ 7 ล้านบาท ให้ประชาชนในเขตเหล่านั้นไปทำอะไรให้ไปคิดร่วมกัน เช่น พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ทำเขื่อนป้องกันน้ำท่วม โดยอาศัยเทคโนโลยีในการแสดงความเห็นและลงคะแนน  

นายพงศ์เทพ กล่าวทิ้งท้ายว่า การเลือกตั้งในวันที่ 20 ธ.ค. 2563 มีผลถึงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน 4 ปีเป็นอย่างน้อย พรรคเพื่อไทยได้สรรหาทีมที่เชื่อว่าจะสามารถรับใช้ประชาชนได้ ทีมผู้สมัคร ส.อบจ.สมุทรสาคร หลากหลายมาจากคนรุ่นใหม่ ไม่เคยลงการเมืองเลยก็มี เป็นผู้มีประสบการณ์หลาย ๆ ด้าน นายเชาวรินทร์ฯ เองมีประสบการณ์ด้านการบริหาร ตนถือว่าเรื่องใจซื่อมือสะอาดสำคัญที่สุด ซึ่งนายเชาวรินทร์ฯ รับปากมั่นเหมาะว่าในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตถือเป็นหัวใจ เพราะเป็นคนทำธุรกิจ ไม่มีความจำเป็นต้องหาประโยชน์จากการทำงานการเมือง และพร้อมที่จะให้ประชาชนตรวจสอบอย่างโปร่งใส ถึงเวลาที่ชาวสมุทรสาครจะมีส่วนร่วมกันขับเคลื่อนจังหวัดไปพร้อมกับพรรคเพื่อไทย

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *