“สาธิต” ส่ง 28 แรงงานต่างด้าวกลับสถานประกอบการ หลังกักตัวที่ศูนย์ฯ วัดโกรกกราก ครบ 14 วัน

รมช.สาธารณสุข ลงพื้นที่ศูนย์ห่วงใยคนสาคร แห่งที่ 2 วัดโกรกกราก ส่งตัวแรงงานต่างด้าว 28 คนกลับสถานประกอบการพร้อมใบรับรองฯ หลังกักตัวครบ 14 วัน ชี้คุมโรคโควิด-19 เบ็ดเสร็จ ต้องตรวจเชิงรุกไปพร้อมกับการรอวัคซีน

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 13 ม.ค. 2564 นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์ห่วงใยคนสาคร แห่งที่ 2 วัดโกรกกราก ต.โกรกกราก อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร โดยมี นายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ

โดย รมช.สาธารณสุข และคณะ ได้ร่วมส่งตัวแรงงานต่างด้าวที่กักตัวครบกำหนด 14 วัน ชุดแรก จำนวน 28 คน กลับออกไปใช้ชีวิตตามปกติ ซึ่งทุกคนจะได้รับ “ใบรับรองกักตัว” จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อรับรองว่าได้รับการกักตัวเพื่อควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ศูนย์ห่วงใยคนสาคร 02 (วัดโกรกกราก) จังหวัดสมุทรสาคร ครบตามเกณฑ์ที่กำหนดแล้ว นอกจากนี้ พระครูวิสุทธิ์สิทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดโกรกกราก ได้เมตตาประพรมน้ำมนต์สร้างขวัญและกำลังใจให้แก่แรงงานต่างด้าวทุกคน ก่อนจะขึ้นรถที่สถานประกอบการจัดเตรียมไว้ให้เพื่อนำไปตรวจหาเชื้อในร่างกายซ้ำอีกครั้งที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง แล้วก็ส่งเข้าหอพักเพื่อกักตัวต่ออีก 14 วัน ก่อนจะให้กลับเข้าทำงานตามปกติ

รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า ตั้งแต่วันแรกที่ตนได้มาเยี่ยมศูนย์ห่วงใยคนสาคร แห่งที่ 2 วัดโกรกกราก ก็มีความพร้อมในการกักตัวผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เป็นแรงงานต่างด้าว และมีระบบดูแลที่ดี จนถึงตอนนี้ครบ 14 วันตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดแล้ว ก็จะดำเนินการปล่อยตัวพร้อมเอกสารรับรองให้ติดตัวไปด้วย วันนี้เป็นการปล่อยตัวชุดแรก และจะทยอยครบไปเรื่อย ๆ ตามกำหนดเวลา ดังนั้นพอมีผู้ติดเชื้อคนใหม่ก็มากักตัวที่นี่ พอครบ 14 วันก็ทยอยออกไปแบบนี้เราก็ไม่กังวลเรื่องตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เป็นแรงงานต่างด้าว ซึ่งนอกจากโรงพยาบาลสนามแล้ว ขณะนี้ได้เตรียมให้ผู้ประกอบการหรือโรงงานแต่ละแห่ง จัดการกักตัวแรงงานต่างด้าวผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในพื้นที่ของตนเอง ก็จะเป็นประโยชน์มากในแง่การตรวจเชิงรุก ที่เราสามารถตรวจได้มากขึ้น พบผู้ติดเชื้อจำนวนมากขึ้น และใช้สถานที่จัดการได้เสร็จ

ส่วนแนวทางการรักษาของศูนย์ห่วงใยคนสาครนั้น แรงงานต่างด้าว 80 เปอร์เซ็นต์ เป็นผู้ที่ไม่มีอาการอะไร ให้การดูแลตามปกติ บางคนอาจกินยาบ้างตามอาการ ซึ่งถ้ามีอาการมากขึ้นก็ส่งตัวไปที่โรงพยาบาล สำหรับผลสัมฤทธิ์ในการดำเนินการของจังหวัดสมุทรสาคร รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทั้งบุคลากรทางการแพทย์จากทุกจังหวัด บุคลากรของทางจังหวัด ทหาร ตำรวจ ฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานอื่น ๆ ซึ่งก็ถือว่าทั้งตัวเลขผู้ติดเชื้อที่มีอัตราเพิ่มที่ลดลงด้วย และระบบทั้งหมดมีการจัดการอย่างเป็นระบบแล้ว เพราะฉะนั้นในทุกขั้นตอนตั้งแต่การตรวจเชิงรุก หรือเป็นผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค (PUI) เข้าสู่กระบวนการรักษา หรือบางคนที่ไม่ต้องรักษาตัว ก็มาอยู่ในโรงพยาบาลสนาม และดำเนินการตามขั้นตอนของระบบสาธารณสุข ทั้งหมดนี้ก็ถือเป็นระบบที่ครบถ้วนของดูแลทั้งระบบแล้ว

เพราะฉะนั้นถ้าเราสามารถดูแลอาการติดเชื้อหรือโรคระบาดได้ตามนี้ ก็จะสามารถสอบสวนโรคแล้วก็จัดการกับตัวเลขของผู้ติดเชื้อได้ลดลง รวมทั้งกรณีที่มีการติดเชื้อกระจายตัวไปยังแรงงานต่างด้าวที่มีจำนวนมาก ในส่วนของระบบการจัดการของทางสถานประกอบการก็จะช่วยได้เยอะมาก ซึ่งทั้งนี้เรายังคงต้องตรวจเชิงรุกให้มากที่สุด เพราะยังไม่แน่ว่าจะมีผู้ติดเชื้อที่จะไปซ่อนอยู่ในชุมชนหรือในโรงงานมากน้อยแค่ไหน รวมถึงเดินหน้าไปพร้อมกับเรื่องของวัคซีนที่กำลังรออยู่ เพื่อชะลอการติดเชื้อควบคุมให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งตนมั่นใจว่าทีมของประเทศไทยขณะนี้ในทุกจังหวัด สามารถจัดการในกรณีที่มีการระบาดรอบไหนก็ตาม ค่อย ๆ สู้กันไปจนคุมโรคนี้ได้เบ็ดเสร็จ ซึ่งต้องใช้เวลา


อิพิวเว

ทางด้าน น.ส.อิพิวเว หนึ่งในแรงงานต่างด้าวที่ได้รับการกักตัวจนครบกำหนด เปิดใจว่า หลังจากที่ตนทราบว่าติดเชื้อโควิด-19 ทางโรงงานก็ส่งตัวมาเข้ารับการรักษา และกักกันตัวอยู่ที่ศูนย์แห่งนี้ จนครบกำหนดหายเป็นปกติดีแล้ว ซึ่งตนนั้นได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่ภายในศูนย์ฯ เป็นอย่างดี และต้องขอบคุณทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติ ซึ่งก็อยากจะฝากบอกแรงงานข้ามชาติทุกคนว่า หากเรารู้ว่ามีอาการผิดปกติ สงสัยจะติดเชื้อโควิด-19 ก็ต้องรีบไปให้แพทย์ทำการตรวจ จะได้รักษาได้ สิ่งสำคัญคือ เราต้องไม่ปกปิดความจริง และไม่ไปแพร่เชื้อให้คนอื่น ซึ่งเมื่อรักษาหายแล้วก็จะได้กลับไปทำงานได้ตามปกติ อีกอย่างคือ เราต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยการป้องกันตนเอง สวมแมสก์ ล้างมือ และถ้าติดโควิด-19 ก็ต้องไม่ไปแพร่เชื้อให้ใคร ต้องเปิดเผยข้อมูล แล้วเข้าสู่กระบวนการรักษา

จากนั้น รมช.สาธารณสุข และคณะ ได้เดินทางต่อไปยังบริษัท พัทยาฟู้ด อินดัสตรี จำกัด ต.ท่าทราย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เพื่อดูความพร้อมของบริษัทฯ ในการจัดตั้ง Factory Quarantine (FQ) หรือโรงพยาบาลสนาม สถานที่กักตัวแรงงานที่ติดเชื้อโควิด-19 เพื่อรอดูอาการในสถานประกอบการ จำนวน 600 คน

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *