สมุทรสาครตรวจเชิงรุก 1,200 แรงงานต่างด้าวตลาดกลางกุ้งฯ ครั้งสุดท้าย

จังหวัดสมุทรสาครดำเนินการตรวจแรงงานต่างด้าวกลุ่มสีขาวที่ไม่พบเชื้อ 1,200 คน อีกครั้ง ก่อนเปิดตลาดกลางกุ้งฯ แยกผู้ติดเชื้อเข้าศูนย์ห่วงใยคนสาคร

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 ม.ค. 64 นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร, นพ.อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร และคณะ ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานตรวจคัดกรองเชิงรุกค้นหาผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ในแรงงานต่างด้าวกลุ่มสีขาวที่ยังไม่เคยพบเชื้อมาก่อน จำนวน 1,200 คน ที่อาศัยอยู่ภายในตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาคร และหอพักศรีเมือง

โดยมีทีมบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขจากโรงพยาบาลสมุทรสาคร สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองสมุทรสาคร ฯลฯ ร่วมดำเนินการ หากพบผู้ติดเชื้อจะได้นำออกมากักตัวที่ศูนย์ห่วงใยคนสาคร ส่วนผู้ที่ไม่พบเชื้อและผู้ที่ผ่านการกักตัวครบ 10-14 วัน ตามระบบสาธารณสุขแล้วนั้น สามารถอาศัยอยู่ในตลาดกลางกุ้งฯ ได้ต่อไป และทำงานได้ตามปกติเมื่อตลาดกลางกุ้งฯ ทำการเปิดค้าขายได้อีกครั้งหนึ่ง

นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า การตรวจหาเชื้อครั้งนี้เป็นรอบสุดท้ายที่ตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อหาผู้ติดเชื้อที่ยังคงหลงเหลืออยู่ หากพบก็จะนำเข้ากักตัวในศูนย์ห่วงใยคนสาคร ที่มีเพียงพอต่อการรองรับผู้ติดเชื้อในตลาดกลางกุ้งฯ ซึ่งก็ยังไม่สามารถที่จะบอกจำนวนที่ชัดเจนได้ แต่คาดการณ์ว่าอาจจะพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจำนวนที่ไม่มากนัก ดังนั้นหลังจากนี้เมื่อเราคัดแยกผู้ติดเชื้อออกไปแล้ว ก็จะมีการพิจารณาให้ตลาดกลางกุ้งสามารถเปิดทำการค้าขายได้ตามปกติ แต่ต้องเป็นไปภายใต้มาตรการและหลักเกณฑ์เข้มข้นตามที่กำหนดไว้ เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดได้อีกครั้ง ส่วนมาตรการภายนอกนั้น ก็ยังคงใช้มาตรการเชิงรุกในการเข้าตรวจพื้นที่หรือกลุ่มเสี่ยง หากพบก็จะนำเข้าสู่การกักตัวเช่นกัน แต่ถ้าส่วนไหนที่มีผู้ติดเชื้อเพียงแค่ 2-3 ราย ก็จะสามารถพิจารณาให้ดำเนินการต่อไปได้ ซึ่งตรงส่วนนี้ทางจังหวัดสมุทรสาคร โดยคณะกรรมการโรคติดต่อฯ จะต้องมีการประชุมพิจารณากันต่อไปเป็นระยะ ๆ

นายธีรพัฒน์ กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญไม่ใช่ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ออกมา แต่เป็นเรื่องของการที่สถานประกอบการหรือกิจการอื่นใดจะเปิดทำการได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตามระบบของมาตรการสาธารณสุขที่วางไว้ ว่าทางสถานประกอบการหรือกิจการแต่ละประเภท สามารถจะทำได้หรือไม่ หากปฏิบัติตามได้อย่างเคร่งครัด ก็ไม่น่าเป็นห่วงที่จะกลับมาทำการค้าขายหรือเปิดให้บริการกันอีกครั้ง อย่างเช่นที่ตลาดกลางกุ้งฯ แห่งนี้ หากเปิดค้าขายได้ก็เชื่อได้ว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของสมุทรสาครให้ดีขึ้นมาได้อีกระดับหนึ่ง เพราะที่นี่เป็นแหล่งค้าขายสัตว์น้ำที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง นอกเหนือจากตลาดทะเลไทย

ด้าน นพ.อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์ในครั้งนี้ คาดว่าอาจจะพบผู้ติดเชื้อไม่มากนัก โดยหลังจากที่ทำการ swab แล้ว ก็จะนำเข้าไปตรวจในแล็บของโรงพยาบาลสมุทรสาคร ทำให้ทราบผลที่รวดเร็วขึ้น ส่วนผลที่ออกมานั้นก็จะทยอยออก แล้วแจ้งให้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฯ รับทราบ คาดว่าภายใน 2 – 3 วัน ก็จะทราบผลครบทั้งหมด ส่วนสิ่งสำคัญหลังจากที่ตลาดกลางกุ้งฯ เปิดได้แล้วคือ การที่พ่อค้าแม่ค้า ลูกจ้าง ผู้ซื้อ ผู้ขายทุกคน จะต้องทำการค้าขายแบบใหม่ภายใต้ระบบสาธารณสุขที่กำหนดไว้

ขณะที่วิธีการตรวจแรงงานต่างด้าวทั้ง 1,200 คน นั้น ได้ใช้วิธีการตรวจ swab โดยมีรถพระราชทานตรวจหาเชื้อชีวนิรภัยจำนวน 1 คัน เข้าร่วม นอกจากนี้ยังมีการเก็บตัวอย่างเลือดของทุกคนไปตรวจหาภูมิคุ้มกันเชื้อโควิด-19 อีกด้วย ซึ่งบรรยากาศภายในนั้น แรงงานต่างด้าวทุกคนต่างมาเฝ้ารอที่จะรับการตรวจหาเชื้อ เพราะทุกคนต้องการที่จะกลับมาทำงานได้อีกครั้งหนึ่ง ส่วนขั้นตอนก็เริ่มจากการยื่นเอกสารพาสปอร์ต ลงทะเบียนเข้ารับการตรวจ Swab ตรวจหาเชื้อโดยเจ้าหน้าที่ฯ จากนั้นลงทะเบียนอีกครั้งเพื่อเข้ารับการตรวจเลือด เสร็จแล้วทำการเจาะเลือดตรวจหาภูมิคุ้มกัน เป็นอันเสร็จสิ้น

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *