ศิริราช เผยแพทย์เจาะคอ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ดูแลการหายใจ เตรียมดูดน้ำในหลอดลมตรวจโควิด-พิจารณาให้ยา

คณบดีศิริราช เผยอาการผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ต้องเจาะคอ เอ็กซ์เรย์ปอดพบเนื้อเยื่อผังพืด เตรียมดูดน้ำจากหลอดลมตรวจหาเชื้อโควิด พิจารณาให้ยาบางอย่าง ลุ้นผล 72 ชั่วโมง

วันนี้ (25 ม.ค. 64) เวลา 14.00 น. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล เปิดเผยถึงอาการของนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (22 ม.ค.) การหายใจมีเสมหะเยอะ บ่อยครั้งที่ดูดเสมหะจะกระตุ้นให้ผู้ป่วยรู้สึกตัว ต้องให้ยาเพื่อให้ผู้ป่วยหลับ ซึ่งเสมหะที่เยอะขึ้นมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่อาจจะรุนแรงมากขึ้น

เมื่อวันที่ 23 ม.ค. เวลา 13.00 น. ก็ได้นำตัวผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ไปเจาะคอ เพื่อการดูแลเรื่องการหายใจง่ายขึ้น ให้ผู้ป่วยไม่เกิดการระคายเวลาใส่ท่อช่วยหายใจ และไม่รู้สึกอึดอัด ดูดเสมหะได้ง่ายขึ้น ทุกอย่างดำเนินการไปเรียบร้อยดี ทางภรรยาและบุตรสาวรับทราบและอนุมัติให้ดำเนินการ

วันที่ 24 ม.ค. พบว่าการติดเชื้อไข้ลดลงหมดแล้ว แต่ยังคงให้ยาปฏิชีวนะเพื่อครอบคลุมเชื้ออยู่ ขณะนี้ทางคณะแพทย์มีการประชุมในเวลา 11.00 น. ทุกวัน ซึ่งในวันนั้นมีคำถามว่า เชื้อโควิด-19 ที่ทำลายปอดไปนั้น ยังเหลือเนื้อปอดให้มากน้อยแค่ไหน และการทำงานของปอดของผู้ป่วยเป็นอย่างไร เวลา 20.00 น. จึงมีการนำตัวผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ไปเอ็กซ์เรย์คอมพิวเตอร์ เพื่อดูสภาพของปอดและสมอง

วันนี้ผลที่ออกมาพบว่าปอดมีการอักเสบ บางส่วนบ่งชี้ว่ามีเนื้อเยื่อพังผืดเกิดขึ้นแล้วในเนื้อปอด ซึ่งเป็นปฏิกิริยาตอบสนองต่อการทำลายเนื้อปอด ส่วนหลอดเลือดในปอด และสมองเรียบร้อยดี ไม่มีอะไรผิดปกติ ที่กังวลใหญ่ ๆ คือเรื่องการทำงานของปอด และความที่ได้ใช้ยาในการรักษาเยอะ ก็ต้องการถอยยาออก

ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทีมแพทย์ประเมินหลังจากดูฟิลม์เอ็กซ์เรย์เรียบร้อย ได้ข้อสรุปในวันนี้ คือ จะมีการดูดน้ำจากหลอดลมด้านล่าง นำไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าเชื้อหมดไปเรียบร้อยแล้ว และจะดูเซลล์ในหลอดลมเพื่อประกอบการตัดสินใจในการให้ยาบางอย่าง ถ้าสามารถตรวจได้ว่าเซลล์แบบนี้ ให้ยาแบบนี้แล้วตอบสนองดี ก็จะดูผลใน 72 ชั่วโมง ซึ่งภายในวันนี้ก็จะตัดสินใจที่จะให้ยาอะไรได้บ้าง

ส่วนคอที่เจาะไว้นั้นไม่ต้องกังวล ปกติถ้าผู้ป่วยหายแล้วดึงออกมา ภายใน 48 ชั่วโมงก็ปิดแล้ว สามารถพูดคุยได้เหมือนเดิม สำหรับกรณีที่บุตรสาวเปิดเผยว่าจะมีเตรียมการปลูกถ่ายปอดนั้น ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องปลูกถ่ายปอด ซึ่งวิธีการดังกล่าวสำหรับกรณีที่ปอดของผู้ป่วยถูกทำลายจนไม่เหลือเนื้อปอดที่จะสามารถหายใจด้วยตัวเองได้ ซึ่งเป็นวิธีการสุดท้าย เพราะตอนนี้ยังมีวิธีอีกหลายอย่าง

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *