ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีน วอนประชาชนเชื่อมั่น

“วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี” ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการให้บริการฉีดวัคซีนที่เซ็นทรัลมหาชัย ย้ำให้ทุกคนเชื่อมั่นในวัคซีนที่ฉีดให้ เพื่อทำให้ผ่านพ้นโควิด-19 ไปด้วยกัน

วันนี้ (8 มิ.ย.) เวลา 11.40 น. นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร นพ.อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร และคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์ให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 โรงพยาบาลสมุทรสาคร ณ บริเวณลานจอดรถ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา มหาชัย ต.นาดี อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร โดยศูนย์แห่งนี้มีผู้มาเข้ารับบริการฉีดวัคซีน ทั้งวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าและวัคซีนของซิโนแวค ประมาณวันละ 1,200-1,500 คน

นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า ภาพรวมของการฉีดวัคซีนที่ จ.สมุทรสาครนั้น ก็มีความพึงพอใจในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังคงพบปัญหาและอุปสรรคอยู่บ้าง เช่น ความไม่เข้าใจเรื่องคุณภาพของวัคซีน ยี่ห้อของวัคซีน และการนัดหมายเข้ารับบริการ เป็นต้น ก็ต้องบอกว่าอยากจะให้ทุกคนมีความเชื่อมั่นในวัคซีนที่ฉีดให้ ไม่ว่าจะเป็นแอสตร้าเซนเนก้าหรือซิโนแวค ภายใต้การพิจารณาความเหมาะสมจากแพทย์แล้วว่า บุคคลแต่กลุ่มประเภทมีความเหมาะสมกับวัคซีนชนิดไหนอย่างไร

พร้อมกันนี้ ก็อยากจะเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนให้เข้าใจและมาเข้ารับบริการฉีดวัคซีน เพราะสิ่งสำคัญที่พวกเราต้องยอมรับเลยคือ สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ส่งผลกระทบต่อความยากลำบากในการดำรงชีวิตประจำวันของทุกคนไม่เพียงแค่ใน จ.สมุทรสาครเท่านั้น แต่เป็นผลกระทบกับคนทั้งประเทศและทั่วโลก ซึ่งวัคซีนเท่านั้นที่จะเป็นตัวช่วยทำให้ทุกอย่างกลับมาดีขึ้นได้ จึงอยากให้ทุกคนมาเข้ารับการฉีดวัคซีน เพื่อที่พวกเราจะผ่านพ้นสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไปด้วยกัน

ส่วนเรื่องปัญหาแรงงานต่างด้าวนั้น นอกจากมาตรการเข้มที่หน่วยงานภาครัฐดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องแล้ว ก็ยังต้องขึ้นอยู่กับความร่วมมือของภาคเอกชนอย่างผู้ประกอบการ และโรงงานทุกแห่งด้วย โดยทางหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้รับปากมาแล้วว่า จะกำชับให้สถานประกอบการทุกแห่ง ไม่รับคนต่างด้าวที่ผิดกฎหมายหรือผู้ที่เดินทางเข้ามาใน จ.สมุทรสาคร อย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เข้ามาทำงานในพื้นที่เป็นอันขาด

ทั้งนี้ จังหวัดสมุทรสาครก็ได้ออกบัตรพิเศษ “วัคซีน ททท” วัคซีนช่วยตัวเรา ช่วยหมอ ช่วยชาติ ซึ่งถ้าใครเข้ารับการฉีดวัคซีนจะได้รับบัตร 1 ใบ สามารถใช้เป็นส่วนลดร้านค้าที่เข้าร่วมรายการได้ 5-10% เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนไปฉีดวัคซีน ควบคู่ไปกับการส่งเสริมธุรกิจของจังหวัดสมุทรสาครด้วย

ทางด้าน นพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์โควิค-19 ของ จ.สมุทรสาคร ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพบผู้ติดเชื้อในกลุ่มคลัสเตอร์โรงงาน โดยได้มีการใช้นโยบาย Bubble & Sealed เพื่อการควบคุมโรค หรือควบคุมการติดเชื้อให้อยู่ในวงจำกัด และให้สถานประกอบการยังสามารถดำเนินการต่อไปได้ 

โดยในช่วง 2-3 วันมานี้ ยอดผู้ติดเชื้อของ จ.สมุทรสาคร ได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติลดลงมาตามลำดับ ซึ่งในส่วนของคลัสเตอร์โรงงานนั้นก็ยังคงต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพราะการกระจายของโรคโควิด-19 เป็นไปได้ทั่ว เริ่มแรกเป็นการกระจายเข้าสู่ชุมชนและครอบครัว ต่อมาก็เป็นการกระจายตัวในสถานประกอบการหรือโรงงาน โดยหลายจังหวัดที่มีทั้งโรงงานและแคมป์คนงาน จึงกลายเป็นจุดเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังที่สำคัญ

และเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จังหวัดสมุทรสาครก็ได้มีการใช้มาตรการ Sealed โรงงานทั้งหมด 3 แห่งด้วยกัน ซึ่งกลุ่มแรงงานที่ถูก Sealed นั้นกว่า 80% เป็นกลุ่มแรงงานต่างด้าว และเป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ ยังคงสามารถทำงานได้ ส่วนผู้ที่พบอาการก็แยกออกมาอยู่ในโรงพยาบาลสนามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่กลุ่มเปราะบางหรือกลุ่มผู้ติดเชื้อที่พบการแสดงอาการอย่างชัดเจน ส่วนใหญ่จะเป็นประชาชนที่อยู่ในชุมชนมากกว่า ดังนั้นในกลุ่มแรงงานจึงไม่ค่อยมีอะไรที่น่าเป็นห่วง

ส่วนประเด็นของการบริการจัดการวัคซีนนั้น นพ.นเรศฤทธิ์ กล่าวว่า ตามที่ จ.สมุทรสาครได้รับการจัดสรรวัคซีนมาตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. 64 จนถึงปัจจุบันฉีดไปแล้วกว่า 1 แสนคน คิดเป็น 16-17% ของจำนวนประชากรทั้งหมดที่ต้องเข้ารับการฉีดวัคซีน โดยยังคงเหลืออีกประมาณ 4 แสนคน แต่เนื่องด้วยมีการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงส่งผลให้การกระจายวัคซีนในขณะนี้ต้องปรับสภาพไปด้วย เพื่อให้รองรับกับสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขได้มุ่งเน้นว่า การฉีดวัคซีนในภาวะเช่นนี้ อย่างน้อยกลุ่มที่ลงทะเบียนหมอพร้อมแล้วเป็นกลุ่มเสี่ยงเช่น ผู้สูงอายุ หรือ ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 โรค ก็จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนก่อน

โดยในเดือน มิ.ย. นี้ จ.สมุทรสาครมีผู้ลงทะเบียนเข้ารับการฉีดวัคซีนจำนวนกว่า 50,000 คน และเราก็ได้รับวัคซีนค่อนข้างใกล้เคียงกับจำนวนนี้ แต่จำนวนวัคซีนที่จัดสรรมานั้น ก็จะมาเป็นแต่ละสัปดาห์และจะไม่เท่ากัน ดังนั้นจึงต้องมีการให้บริการฉีดแก่กลุ่มเสี่ยงก่อนตามลำดับ ส่วนในเดือน ก.ค. ที่จะมาอีกกว่า 330,000 โดส ก็จะสามารถฉีดให้กับประชาชนได้เป็นจำนวนมาก และคาดว่าจะครอบคลุมกับจำนวนประชาชนคนไทยตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *