ชาวประมงสมุทรสาคร ทวงถามต่ออายุแรงงานต่างด้าว ตามมาตรา 83 (กรณีพิเศษ)

ชาวประมงสมุทรสาคร รวมตัวที่ศาลากลางจังหวัดฯ ทวงถามกรมประมงผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดฯ กรณีต่อหนังสือ Seabook เล่มสีเหลือง ให้แรงงานต่างด้าวเรือประมง ตามมาตรา 83 (กรณีพิเศษ) หวั่นหมดอายุกลายเป็นแรงงานเถื่อน

วันนี้ (14 มิ.ย.) เวลา 13.00 น. ที่ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร นายมงคล มงคลตรีลักษณ์ นายกสมาคมการประมงสมุทรสาคร พร้อมด้วยตัวแทนชาวประมงใน จ.สมุทรสาคร เดินทางมาเพื่อเข้าพบกับนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อฝากเรื่องผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ไปยังกรมประมงและผู้มีอำนาจในการอนุมัติการต่อหนังสือคนประจำเรือ หรือ Seabook เล่มสีเหลือง ให้กับแรงงานต่างด้าวในเรือประมง ตามมาตรา 83 (กรณีพิเศษ) แห่ง พ.ร.ก.การประมง พ.ศ. 2558 ที่ได้เคยให้ยื่นขออนุญาตทำงานในเรือประมงตั้งแต่เมื่อเดือน มิ.ย. – ก.ย. 63 และมีอายุการทำงานได้ 1 ปี

ขณะนี้มีแรงงานเริ่มทยอยหมดอายุการทำงานแล้ว นับตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. เป็นต้นมา แต่กรมประมงก็ยังนิ่งเฉยกับทิศทางการอนุญาตให้ต่อหนังสือคนประจำเรือที่ทั้งประเทศมีอยู่กว่า 3,000 คน ส่วนที่ จ.สมุทรสาคร มีอยู่ 158 คน ซึ่งหากปล่อยผ่านไปจนถึงวันที่ 28 ก.ย. 64 แรงงานจำนวนนี้จะกลายเป็นแรงงานเถื่อนทั้งหมด และตอนนี้บางคนก็กลายเป็นแรงงานเถื่อนไปแล้ว เนื่องจากหนังสือคนประจำเรือหมดอายุลงตามวันที่ยื่นขออนุญาตเมื่อปีที่แล้ว

โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้มอบหมายให้นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสมุทรสาคร เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียนจากตัวแทนชาวประมงสมุทรสาคร พร้อมกับนำปัญหาต่าง ๆ กลับไปรายงานเพื่อทำเป็นหนังสือหรือข้อสักถามไปยังกรมประมงหรือหน่วยงานที่มีอำนาจฯ ในการอนุมัติตามความประสงค์ของพี่น้องชาวประมงสมุทรสาครและกลุ่มประมงทั้ง 22 จังหวัดทั่วประเทศ

นายศาวงษ์ จุ้ยเจริญ หนึ่งในชาวประมงสมุทรสาครผู้ได้รับผลกระทบ เผยว่า ที่ชาวประมงมารวมตัวกันในวันนี้ก็เพื่อต้องการฝากผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ไปทวงถามกรมประมงและผู้มีอำนาจในการตัดสินใจว่า ทำไมถึงยังไม่ยอมพิจารณาเรื่องของการอนุมัติต่อหนังสือคนประจำเรือให้กับแรงงานต่างด้าวตามมาตรา 83 (กรณีพิเศษ) ทำให้แรงงานต่างด้าว จ.สมุทรสาครที่ได้รับอนุญาตทั้ง 158 คนนั้น จะกลายเป็นแรงงานเถื่อนทั้งหมดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และตอนนี้บางคนก็กลายเป็นแรงงานเถื่อนไปแล้ว เหตุเพราะกรมประมงที่มีอำนาจโดยตรงไม่ยอมออกประกาศให้ยื่นต่อได้ก่อนที่จะหมดอายุลง

ซึ่งทางตัวแทนชาวประมงทั้ง 22 แห่งทั่วประเทศได้เคยยื่นหนังสือไปทวงถามความชัดเจน 3-4 ฉบับ ก่อนหน้าที่หนังสือคนประจำเรือจะหมดอายุตั้ง 2-3 เดือนแล้ว แต่ที่ผ่านมาก็ยังนิ่งเงียบ จนวันนี้มีแรงงานต่างด้าวหลายคนที่หนังสือคนประจำเรือหมดอายุไปแล้ว กลายเป็นแรงงานเถื่อน จะลงเรือทำงานก็ไม่ได้ จะเดินทางกลับมาพักที่จังหวัดต้นทางของนายจ้างก็ไม่ได้ เพราะมีคำสั่งเรื่องห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานผิดกฎหมายเข้าจังหวัดฯ จะให้ขึ้นพักที่บนฝั่งที่เรือจอดเทียบท่าเพื่อรอยื่นต่อหนังสืออนุญาตก็ไม่ได้เช่นกัน ปัญหาเหล่านี้กรมประมงจะแก้ไขให้อย่างไร หรือจะให้ชาวประมงทำอย่างไร อีกทั้งถ้าสามารถนำกลับมายังจังหวัดต้นทางของนายจ้างได้ แต่รัฐบาลยังนิ่งเงียบจะให้นายจ้างดำเนินการอย่างไรเพื่อไม่ให้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

สิ่งเหล่านี้คือเรื่องที่ชาวประมงอยากทวงถามและขอทราบความชัดเจนว่า ทำไมกรมประมงหรือผู้มีอำนาจในการพิจารณาอนุมัติยังนิ่งเฉย ทำไมไม่เห็นใจชาวประมงที่ทุกวันนี้ถูกบังคับทุกทางจนแทบจะล่มสลายแล้ว  ทำไมไม่เห็นความสำคัญของชาวประมงที่เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย และทำไมปล่อยให้แรงงานที่ถูกกฎหมายอยู่แล้วกลายเป็นแรงงานผิดกฎหมาย แต่แรงงานใต้ดินกลับขุดขึ้นมาทำให้ถูกกฎหมายแทน แล้วแบบนี้ชาวประมงจะประกอบอาชีพต่อไปได้อย่างไร หากไม่มีแรงงานทำงานในเรือซึ่งต้องใช้คนทำงานอย่างจำนวนจำกัดตามขนาดของเรือ ถ้าขาดไปคนหรือสองคน ก็ทำให้การทำงานประสบปัญหาได้

ขณะที่นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ตามที่พี่น้องชาวประมงใน จ.สมุทรสาคร ได้เคยไปยื่นหนังสือที่ศูนย์ให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่เรือประมงแบบเบ็ดเสร็จสมุทรสาคร เมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อขอให้กรมประมงและรัฐบาลมีความชัดเจนเกี่ยวกับการต่ออนุญาตหนังสือคนประจำเรือตามที่ทราบกันอยู่แล้ว จนกระทั่งมาในวันนี้กลุ่มพี่น้องประชาวประมงก็ได้เดินทางมาทวงถามความชัดเจนในเรื่องดังกล่าวนั้น เท่าที่ทราบคือ ตอนนี้เรื่องอยู่ระหว่างรอการนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม. เพื่อหาข้อสรุป ซึ่งในส่วนของระดับจังหวัดก็จะนำปัญหาของพี่น้องชาวประมงไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อจะได้ดำเนินการติดตามทวงถามให้ตามความประสงค์ของชาวประมงที่ได้รับความเดือดร้อน จากนั้นก็จะนำมาแจ้งให้ทราบต่อไป

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *