ผู้ว่าฯวีระศักดิ์ รับแนวทาง สธ. ฉีดวัคซีนเข็ม 2 สลับชนิด ผ่าน 24 ชม. ยังสบายดี

ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ขานรับแนวทางการฉีดวัคซีนโควิด-19 สลับชนิดของกระทรวงสาธารณสุข โชว์ฉีดเข็ม 2 แอสตร้าเซนเนก้า หลังได้รับเข็มแรกซิโนแวคเมื่อครั้งรักษาตัวอยู่ที่ศิริราช ผ่านไปแล้ว 24 ชม. ยังสบายดี

จากกรณีที่กระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งแนวทางการฉีดวัคซีนโควิด-19 สลับชนิดสำหรับประชาชน โดยให้ฉีดเข็มแรกด้วยวัคซีนซิโนแวค และเข็มที่ 2 เป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า โดยมีระยะห่างระหว่างเข็ม 3-4 สัปดาห์ ในกรณีที่ฉีดเข็มแรกเป็นแอสตร้าเซนเนก้า กำหนดให้รับวัคซีนเข็มที่ 2 เป็นแอสตร้าเซนเนก้าเช่นเดิม โดยมีระยะห่างระหว่างเข็ม 12 สัปดาห์

และการฉีดวัคซีนโควิด-19 กระตุ้นภูมิคุ้มกันสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า กำหนดให้บุคลากรฯ ที่ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม ได้รับการกระตุ้นภูมิคุ้มกันโดยการรับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า หรือวัคซีนชนิด mRNA จำนวน 1 เข็ม โดยมีระยะห่างระหว่างเข็มที่ 2 และเข็มกระตุ้นอย่างน้อย 4 สัปดาห์ หากเกินกว่าระยะห่างที่กำหนด ขอให้ฉีดวัคซีนโดยเร็ว เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสให้อยู่ในระดับที่สูงอย่างต่อเนื่อง ส่วนผู้ที่ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ครบ 2 เข็มนั้น เนื่องจากภูมิคุ้มกันยังอยู่ในระดับที่สูงเพียงพอ จึงยังไม่ต้องฉีดเข็มกระตุ้นในระยะนี้

ต่อมา นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร โพสต์ภาพผ่านทางเฟซบุ๊กเพจทางการ เป็นภาพขณะกำลังฉีดวัคซีนทั้ง 2 ชนิด และข้อความระบุว่า “รพ.สมุทรสาคร เร่งฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุ และกลุ่มเสี่ยงต่าง ๆ ทำให้ต้องเลื่อนการฉีดของคนที่นัดไว้ก่อน ถือเป็นการโดนด่าครั้งแรกของคนโดนเลื่อน

พอนโยบายกระทรวงสาธารณสุขออกมา ให้คนได้รับวัคซีนใช้ซิโนแวคเป็นเข็มแรก แอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็มสอง คราวนี้ทัวร์ลงหนัก โดนด่าครั้งสอง ไม่รู้จะอธิบายยังไง นึกได้ว่า ตัวเองฉีดซิโนแวคเข็มแรกที่ รพ.ศิริราช เมื่อ 16 มี.ค.

5 โมงเย็น 16 ก.ค. เลยฉีดแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็มที่ 2 สอง ที่ รพ.สมุทรสาคร หากวิธีการนี้เป็นอันตราย ผู้ว่าตายก่อน”

วันนี้ (17 ก.ค.) นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่เราต้องยอมรับคือ สถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบันรุนแรงมากขึ้น ทั้งจากการติดตามข่าวสาร จากทางแพทย์ และทางสาธารณสุข จึงเป็นที่มาของการปรับเปลี่ยนการฉีดวัคซีนในรูปแบบเดิม โดยกระทรวงสาธารณสุขให้หันมาฉีดวัคซีนแบบเข็มแรกเป็นซิโนแวค ส่วนเข็มสองเป็นแอสตร้าเซนเนก้าตามทรัพยากรที่มีอยู่ ซึ่งจะเป็นแนวทางที่รับมือกับไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลต้าได้ แต่เมื่อต้องนำไปสู่การปฏิบัติจริงก็พบว่ามีคนไม่เห็นด้วยจำนวนมาก

อาจจะเพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วที่กระทบต่อความรู้สึกของประชาชน ทั้งเรื่องของความปลอดภัย ประสิทธิผลที่เกิดขึ้น และการดำเนินการ ซึ่งในส่วนตัวแล้วก็ต้องบอกว่าทางผู้ว่าฯ ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ถ้าเรื่องแบบนี้ไม่เชื่อหมอแล้วจะให้เชื่อใคร อีกทั้งแนวทางนี้ยังได้รับการยืนยันจากกระทรวงสาธารณสุขและผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร ว่าสามารถดำเนินการได้

ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสมุทรสาคร จึงได้คิดว่าให้เอาตนเองเป็นตัวอย่างในการฉีดวัคซีนแบบสลับ คือ เข็มแรกฉีดซิโนแวค ซึ่งฉีดมาแล้วที่โรงพยาบาลศิริราช และเข็มที่ 2 ฉีดแอสตร้าเซนเนก้า ที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร เมื่อเย็นของวันที่ 17 ก.ค. ที่ผ่านมา หากเป็นอันตรายผู้ว่าฯ ก็จะได้รับผลกระทบก่อน แต่นี่ผ่านมา 24 ชั่วโมงแล้วก็ยังคงมีอาการปกติดีทุกอย่าง

ขณะที่ นพ.อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร ได้กล่าวว่า การฉีดวัคซีนในช่วงนี้ต้องใช้หลักได้คุณภาพในเวลาอันรวดเร็ว เพราะตอนนี้สายพันธุ์ที่ระบาดใน จ.สมุทรสาครส่วนใหญ่จะเป็นสายพันธุ์เดลต้า ที่ติดง่าย ระบาดไว เชื้อรุนแรง ดังนั้น การยับยั้งป้องกันโรคต้องทำให้ไว จึงต้องใช้สูตรผสมระหว่าง ซิโนแวค กับแอสตร้าเซนเนก้า เพราะว่าตอนนี้การระบาดมากกว่าช่วงแรก จะใช้ซิโนแวค 2 เข็มก็จะต้านทานโรคไม่อยู่ แต่หากจะใช้แอสตร้าเซนเนก้าทั้ง 2 เข็ม แม้คุณภาพจะสูงแต่ต้องใช้ระยะเวลานาน เพราะการฉีดเข็ม 1 กับเข็ม 2 จะห่างกันถึง 12 สัปดาห์ หลังจากนั้นต้องรออีกประมาณ 2 สัปดาห์ภูมิจึงจะขึ้น

ดังนั้นระยะเวลาการรอคอยที่นานก็อาจจะไม่ทันต่อการระบาดของโรค จึงใช้สูตรเข็ม 1 เป็นซิโนแวค ทิ้งระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ก็ฉีดเข็ม 2 เป็นแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งการปรับฉีดวัคซีนแบบสลับชนิดนี้ ทางโรงพยาบาลสมุทรสาครได้ดำเนินการมาแล้วระยะหนึ่ง ทำการฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มผู้สมัครใจไปแล้วเกือบ 1,000 ราย โดยทุกคนทุกกลุ่มอายุที่ฉีดเข็มแรกซิโนแวค เข็มสองเป็นแอสตร้าเซเนก้า ก็ยังอยู่เป็นปกติดี

ส่วนของโรงพยาบาลกระทุ่มแบนนั้น ขณะนี้ยังคงฉีดวัคซีนแอสตราเซเนก้าเพียงอย่างเดียว แต่จะเริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนผสมในวันที่ 22 – 23 ก.ค. 64 ให้แก่ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงและยังไม่มีใบนัดที่ระบุวันนัด ขณะที่โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) ตอนนี้อยู่ระหว่างการรอความชัดเจนของวัคซีนที่จะจัดส่งมาเนื่องจากมีปัญหาคือเรื่องของการไม่มีวัคซีน โดยจะเปิดจุดฉีดวัคซีนอีกครั้งประมาณวันที่ 30 ก.ค. ทั้งนี้เมื่อทราบความชัดเจนของชนิดวัคซีนที่จะมาและจำนวนทั้งหมดแล้ว จึงจะมีการประชุมเพื่อบริหารจัดการว่าจะมีการฉีดแบบผสมหรือไม่ต่อไป

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *