ยอดโควิดสมุทรสาคร 1,279 ราย ผู้ว่าฯ ประกาศคำสั่ง เข้มมาตรการป้องกัน-ควบคุมโรค

สถานการณ์โควิด-19 สมุทรสาคร ติดเชื้อรายใหม่ 1,279 ราย ตาย 7 ราย ด้านผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เซ็นคำสั่งจังหวัดฯ สั่งปิดสถานที่เสี่ยงชั่วคราว 32 ประเภท พร้อมมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอื่น ๆ ตั้งแต่ 3 ส.ค. เป็นต้นไป

วันนี้ (5 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ใน จ.สมุทรสาคร ยังคงพบผู้ติดเชื้อรายวันจำนวนหลักพันอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร เมื่อเวลา 24.00 น. วันที่ 4 ส.ค. 64 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 1,279 ราย จำแนกเป็นพบผู้ติดเชื้อจากการค้นหาเชิงรุก 402 ราย (คนไทย 291 ราย, ต่างด้าว 111 ราย) พบจากตรวจหาเชื้อในโรงพยาบาล 877 ราย จำแนกเป็นคนในจังหวัด 641 ราย (คนไทย 533 ราย, ต่างด้าว 108 ราย) และคนนอกจังหวัด 236 ราย (คนไทย 220 ราย, ต่างด้าว 16 ราย) ด้านผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมดรวม 54,762 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 31,925 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 22,672 ราย และมีผู้เสียชีวิต 7 ราย สะสมอยู่ที่ 165 ราย

ขณะเดียวกัน ทางจังหวัดสมุทรสาคร ได้มีการเผยแพร่คำสั่งจังหวัดฯ ฉบับที่ 77 เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ลงนามโดย นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร และผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดสมุทรสาคร มีผลตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค. เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น สำหรับเนื้อหาในคำสั่งฯ สาระสำคัญระบุว่า ให้ปิดสถานที่ซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นการชั่วคราว ดังต่อไปนี้

1. สถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานประกอบกิจการอาบน้ำ สถานประกอบกิจการอาบอบนวด หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน, 2. สถานรับเลี้ยงเด็กทุกประเภท หรือสถานที่อื่นในลักษณะเดียวกัน ยกเว้นสถานที่รับเลี้ยงเด็กในโรงพยาบาล 3. สถานประกอบกิจการอาบน้ำ สถานประกอบกิจการอบไอน้ำ อบสมุนไพร, 4. สนามชนไก่ และสนามซ้อมชนไก่, 5.สนามชนโค สนามกัดปลา หรือสนามแข่งขันอื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน, 6. โรงมหรสพ โรงภาพยนตร์ โรงละคร, 7. สวนน้ำ สวนสนุก, 8. สนามเด็กเล่น เครื่องเล่นสำหรับเด็ก,

9. สถานที่เล่นสเก็ต หรือโรลเลอร์เบลด หรือการเล่นอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน, 10. สถานที่เล่นสนุกเกอร์ บิลเลียด, 11. สถานที่เล่นโบว์ลิ่งหรือตู้เกม, 12. ร้านเกม และร้านอินเทอร์เน็ต, 13. สถาบันลีลาศหรือสอนลีลาศ, 14. ศูนย์พระเครื่อง พระบูชา และสนามพระเครื่อง พระบูชา, 15. สถานที่แสดงมหรสพ หรือสถานที่มีการแสดงหรือการละเล่นสาธารณะ, 16. สนามกีฬาของรัฐและเอกชนทุกแห่ง รวมถึง สถานที่เพื่อการออกกำลังกาย ยิม ฟิตเนส ยกเว้นการใช้สถานที่เป็นที่เอกเทศตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะโดยได้รับอนุญาต จากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร,

17. สนามมวย โรงเรียนสอนมวย ทั้งของรัฐและเอกชน, 18. สถานประกอบการนวดแผนไทย (รวมทั้งบริการนวดฝ่าเท้า) นวดเพื่อสุขภาพ นวดเพื่อเสริมความงาม สปา สถานเสริมความงาม สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ, 19. ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุมหรือสถานที่จัดนิทรรศการ, 20. สระว่ายน้ำ สวนน้ำ หรือกิจการอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน, 21. สถานที่ให้บริการสปา อาบน้ำ ตัดขน รับเลี้ยงหรือรับฝากสัตว์, 22. ร้านเสริมสวย แต่งผมหรือตัดผม และห้ามให้บริการตามบ้านหรือสถานที่อื่น ๆ, 23. สถานที่บริการสักผิวหนังหรือเจาะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย, 24. สนามกอล์ฟ หรือสนามฝึกซ้อมกอล์ฟ,

25. บ่อตกปลา บ่อตกกุ้ง, 26. ร้านค้าวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ซึ่งมีลักษณะคล้ายห้างสรรพสินค้า รวมทั้งห้ามขายผ่านระบบออนไลน์และบริการจัดส่งสินค้าถึงบ้าน, 27. สถานที่พักผู้สูงวัย เว้นแต่ การเข้าพักอาศัยเป็นประจำ, 28. ศูนย์การเรียนรู้ หรือศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา อุทยานวิทยาศาสตร์ ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม หรือหอศิลป์, 29. ห้องสมุดสาธารณะ ห้องสมุดชุมชน ห้องสมุดเอกชนและบ้านหนังสือ, 30. พิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑสถาน พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น รวมถึงพิพิธภัณฑ์ในลักษณะเดียวกัน แหล่งประวัติศาสตร์ หรือโบราณสถาน, 31. ร้านทำเล็บ และ 32. สวนสาธารณะ สวนพฤกษศาสตร์ต่าง ๆ

หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม เป็นความผิดตามมาตรา 35 (1) มีโทษตามนัยมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ ในคำสั่งฯ ฉบับดังกล่าว ได้กำหนดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เฉพาะในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร โดย 1. โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาทุกประเภท ให้งดใช้อาคารหรือสถานที่ เพื่อการจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือการทำกิจกรรมใด แต่สามารถทำกิจกรรมการเรียนการสอนแบบทางไกล ให้ความช่วยเหลือตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ จัดกิจกรรมของทางราชการ-เพื่อประโยชน์สาธารณะ และเป็นโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาขนาดเล็ก มีจำนวนนักเรียนไม่เกิน 120 คน,

2. ห้ามการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลมากกว่า 5 คน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ

3. การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มในร้าน ให้เปิดได้จนถึงเวลา 20.00 น. โดยห้ามบริโภคในร้าน เฉพาะการนำกลับไปบริโภคที่อื่นเท่านั้น,

4. ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร,

5. ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดให้บริการได้เฉพาะแผนกซูเปอร์มาร์เก็ต แผนกยาและเวชภัณฑ์ พื้นที่ซึ่งจัดให้เป็นการให้บริการฉีดวัคซีนหรือบริการทางการแพทย์และการสาธารณสุขอื่น ๆ ของภาครัฐเท่านั้น โดยให้เปิดดำเนินการได้จนถึงเวลา 20.00 น. ส่วนร้านอาหาร-เครื่องดื่มที่ตั้งอยู่ภายในสถานที่ดังกล่าว ให้เปิดได้จนถึงเวลา 20.00 น. เฉพาะการจำหน่ายในรูปแบบการสั่งผ่านการบริการขนส่งอาหาร (Food Delivery Service) เท่านั้น ไม่มีการจำหน่ายแก่ผู้บริโภคโดยตรง,

6. โรงแรม ให้เปิดได้ตามเวลาปกติ โดยให้งดกิจกรรมจัดการประชุม การสัมมนาหรือการจัดเลี้ยง

7. ร้านสะดวกซื้อ ให้เปิดดำเนินการได้จนถึงเวลา 20.00 น. สำหรับร้านสะดวกซื้อที่เปิดให้บริการในช่วงเวลากลางคืน ให้ปิดให้บริการในระหว่างเวลา 20.00-04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น

8. ตลาด ตลาดสด ตลาดนัด ตลาดน้ำ ตลาดค้าส่ง ตลาดโต้รุ่ง ถนนคนเดิน หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ให้ทุกตลาดเปิดทำการได้ 6 ชั่วโมง ส่วนตลาดนัด เปิดเฉพาะส่วนที่ขายอาหารหรือวัตถุดิบเพื่อการบริโภคเท่านั้น

สำหรับการดำเนินการของโรงพยาบาล สถานพยาบาล คลินิกแพทย์รักษาโรค ร้านขายยา ร้านค้าทั่วไป โรงงาน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกรรมการเงิน ธนาคาร ตู้เอทีเอ็ม ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ไปรษณีย์และพัสดุภัณฑ์ ร้านจำหน่ายอาหารสัตว์ ร้านขายยาและเวชภัณฑ์ ร้านจำหน่ายเครื่องมือช่างและอุปกรณ์ก่อสร้าง ร้านจำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ดอันจำเป็น สถานที่จำหน่ายแก๊สหุงต้ม เชื้อเพลิง ปั๊มน้ำมัน ปั๊มแก๊สรวมทั้งบริการส่งสินค้าและอาหารตามสั่ง (delivery online) ยังคงเปิดดำเนินการได้ ตามความจำเป็น โดยให้ผู้เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด

อีกทั้งมีการลดและจำกัดการเคลื่อนย้ายการเดินทาง ให้ประชาชนในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เลี่ยง จำกัด หรืองดเว้นภารกิจที่ต้องเดินทางออกนอกเคหสถานหรือที่พำนักโดยไม่จำเป็น และชะลอการเดินทางออกนอกเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดเพื่อเดินทางไปยังพื้นที่อื่น ยกเว้นการเดินทางในบางกรณีที่จำเป็น

ส่วนการขนส่งสาธารณะ ให้ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะ รถโดยสารสาธารณะทุกประเภทในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และการขนส่งสาธารณะทุกประเภทระหว่างจังหวัดทั่วราชอาณาจักร ให้เป็นไปตามแนวทาง ที่ ศปก.ศบค. กำหนด

สำหรับมาตรการเพื่อการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานก่อสร้าง ให้ผู้ประกอบการหรือผู้รับผิดชอบฯ ดำเนินมาตรการป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ (Bubble and Seal) และเมื่อเกิดการระบาดในพื้นที่ต้องมีการปรับระดับความเข้มข้นของมาตรการ ทั้งนี้ ยังคงให้ดำเนินกิจการต่อไปภายใต้มาตรการการเดินทางเคลื่อนย้ายระหว่างที่ พักและสถานที่ ทำงานภายใต้การกำกับควบคุม (Sealed Route)

รวมถึงการเคลื่อนย้ายแรงงานเพื่อทำงานข้ามเขตจังหวัดสมุทรสาคร โดยให้ผ่านเข้าออกได้เฉพาะแรงงานที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเพื่อการทำงานข้ามจังหวัดจากผู้ว่าราชการจังหวัดต้นทางและจังหวัดปลายทาง ทั้งนี้ สำหรับการเดินทางข้ามเขตจังหวัดฯ ของประชาชนทั่วไป ให้ดำเนินการเท่าที่จำเป็นเพื่อมุ่งเน้นความปลอดภัยทั้งต่อประชาชนและพนักงานเจ้าหน้าที่ และต้องไม่เป็นการก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ

ทั้งนี้ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม เป็นความผิดตามมาตรา 34 (6) มีโทษตามนัยมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *