เจ้าของเต็นท์รถเตือนภัย ต่างด้าวเถื่อนย่องเบา 2 ครั้งซ้อน เจอพลเมืองดีแจ้งตำรวจรวบตัว

เจ้าของเต็นท์รถยนต์มือสองย่าน ต.นาดี จ.สมุทรสาคร เจอคนร้ายเป็นแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาลักทรัพย์ช่วงเช้ามืด โชคดีพลเมืองดีมาพบเข้าจึงแจ้งตำรวจมารวบตัว คนร้ายเผยก่อเหตุเพราะไม่มีงานทำ ต้องการหาเงินเลี้ยงลูก

วันนี้ (5 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ น.ส.ศิระประภา ปฏิมากรตระกูล อายุ 34 ปี เจ้าของเต็นท์รถ เอพลัส ออโต้คาร์ ตั้งอยู่เลขที่ 60/2 ถ.พระราม 2 หมู่ 3 ต.นาดี อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ภายหลังจากที่รับทราบว่ามีคนร้ายเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์สินภายในเต็นท์รถ แต่โชคดีที่มีพลเมืองดีมาพบคนร้ายขณะที่กำลังจะหลบหนี พร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร เข้าจับกุมตัวไว้ได้

น.ส.ศิระประภา เล่าว่า เมื่อ 2-3 วันก่อนหน้านี้ เวลาประมาณ 04.00 น. มีคนร้ายเป็นชายรูปร่างผอม สูง ผิวดำคล้ำ เข้ามาทางด้านข้างของเต็นท์รถ จากนั้นก็ไปยกล้อแม็กซ์รถยนต์มือสองที่วางไว้ด้านในใส่กระสอบปุ๋ยแบกออกไป ซึ่งหากนำไปขายเป็นเศษเหล็กก็จะได้ราคาประมาณกิโลกรัมละ 70 บาท ซึ่งล้อแม็กซ์ 1 ล้อ มีน้ำหนักอยู่ที่ราว 7-10 กิโลกรัม คิดเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 500 บาท แต่แล้วขณะที่คนร้ายกำลังเดินหนีไปนั้น ก็มีพลเมืองดีที่มาวิ่งออกกำลังกายยามเช้าพบเข้าพอดี จึงได้รวบตัวคนร้ายไว้ ซึ่งทีแรกเหมือนคนร้ายจะยอมจำนน แต่สักพักคนร้ายก็ฮึดสู้ชักมีดที่พกไว้ด้านหลังออกมาจะแทงพลเมืองดี ทางพลเมืองดีจึงใช้ท่อนเหล็กตีไปที่แขนคนร้าย จนคนร้ายเห็นว่าสู้ไม่ได้ก็รีบหลบหนีไป

ต่อมาเมื่อวานนี้ (4 พ.ย.) คนร้ายรายเดิมยังก่อเหตุลักตะแกรงฝาท่อระบายน้ำ แต่ก็โชคร้ายซ้ำสองเพราะมาถูกพลเมืองดีคนเดิมพบเข้า จึงจับกุมตัวไว้แล้วประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร เข้าจับกุมตัวไปดำเนินคดี ทั้งนี้ ตนจึงอยากฝากเตือนสังคมให้ช่วยกันเฝ้าระวังโจรผู้ร้ายที่มักลักลอบเข้ามาก่อเหตุเช่นนี้ในยามวิกาล เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด 19  เป็นจำนวนมาก ส่วนตัวเองนั้นหลังจากนี้ก็คงจะต้องระมัดระวังมากยิ่งขึ้น และต้องสร้างระบบความปลอดภัยของเต็นท์รถให้แน่นหนาขึ้นไปอีก เนื่องจากเชื่อว่าคงไม่ได้มีคนร้ายคนนี้เพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่จ้องจะก่อเหตุ แต่ยังคงมีคนร้ายอีกจำนวนไม่น้อยที่แฝงตัวอยู่ในสังคม รอสบโอกาสก่อเหตุเช่นนี้อีกอย่างแน่นอน

ทางด้านนายมานพ ศรัทธาผล อายุ 45 ปี ชาว ต.นาดี อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ซึ่งพลเมืองดีเล่าว่า ทุกวันช่วงเช้ามืดตนเองจะมาวิ่งออกกำลังกาย ซึ่งตนพบคนร้ายรานี้ครั้งแรกเมื่อ 2-3 วันที่แล้ว โดยพบคนร้ายมีท่าทางลุกลี้ลุกลนเดินอยู่ริม ถ.พระราม 2 พร้อมกับแบกถุงกระสอบปุ๋ย ตนจึงเรียกให้หยุดแล้วขอดูกระสอบปุ๋ย ก็พบว่าเป็นล้อแม็กซ์ 3 ล้อ และเหล็กท่อนอีก 1 ท่อน พอถามว่าเอามาจากไหนคนร้ายก็ยอมรับว่าก่อเหตุขโมยมา ตนจึงบอกว่าให้เอาไปคืนเจ้าของ แต่คนร้ายต่อรองขอล้อแม็กซ์ 1 ล้อ ตนก็บอกว่าไม่ได้ คนร้ายจึงโบ้ยขอท่อนเหล็กตนก็บอกอีกว่าไม่ได้ ทีนี้คนร้ายก็เลยจะชักมีดพกที่เหน็บไว้ข้างหลังออกมาพุ่งแทงตน แต่ว่าตนเองหลบได้พร้อมกับใช้ท่อนเหล็กฟาดลงไปที่แขนทำให้คนร้ายสู้ไม่ไหวจึงหลบหนีไป

ต่อมาเมื่อเช้าวานนี้ (4 พ.ย.) ก็พบคนร้ายคนเดิมเวลาเดิมอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นฝาท่อระบายน้ำ ตนจึงรีบเข้าจับตัวไว้แล้วประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร มานำตัวไปดำเนินคดี ซึ่งจากการสอบถามคนร้ายให้การยอมรับว่า ที่มาก่อเหตุเพราะเป็นแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายหลบหนีเข้ามา ทำให้ไม่มีงานทำ จึงต้องมาก่อเหตุขโมยสิ่งของเพื่อนำไปชั่งกิโลขายหาเงินมาเลี้ยงลูก ดังนั้นตนเองจึงอยากจะฝากเตือนให้ทุกคนช่วยกันเฝ้าระวังภัยสังคม ช่วยกันเป็นหูเป็นตาหากพบเห็นการกระทำความผิด ก็ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *