นพ.สสจ.สมุทรสาคร ร่วมกับนายอำเภอเมืองสมุทรสาคร สังเกตการณ์ฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุ ร.ร.สมุทรสาครวิทยาลัย รับมือผู้ติดเชื้อโควิดในสถานศึกษา
วันนี้ (18 พ.ย.) นพ.สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายณภัทร เอมอ่อน นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร และคณะเจ้าหน้าที่ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ติดตามและสังเกตการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุ ของโรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย ต.มหาชัย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร โดยมี ดร.ประพจน์ แย้มทิม ผู้อำนวยการโรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย พร้อมคณะผู้บริหารและครู ร่วมให้การต้อนรับ สำหรับการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุในครั้งนี้ เป็นกรณีสมมติพบเด็กนักเรียนติดเชื้อโควิด-19 ในสถานศึกษาจำนวน 2 คน
โดยเริ่มตั้งแต่การตรวจคัดกรองโรค (วัดอุณหภูมิร่างกาย) ที่บริเวณทางเข้าโรงเรียน, การเฝ้าสังเกตความผิดปกติของเด็กนักเรียนในห้องเรียน,การนำตัวเด็กนักเรียนต้องสงสัยเข้าสู่กระบวนการสอบสวนโรคและการตรวจซ้ำเบื้องต้นด้วยชุดตรวจ ATK เพื่อหาเชื้อโควิด-19 อีกครั้ง, การนำส่งนักเรียนเข้าสู่กระบวนการตรวจซ้ำด้วยวิธี RT-PCR และการรักษาของโรงพยาบาล กรณีที่ผลตรวจเป็นบวก, การตรวจประเมินนักเรียนกลุ่มเสี่ยงที่อยู่รอบตัวผู้ติดเชื้อโควิด-19,การคัดแยกกลุ่มเสี่ยงสูงออกจากสถานศึกษา และการทำความสะอาดพื้นที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นต้น
ส่วนแนวทางการปฏิบัติกรณีพบนักเรียน ครู หรือบุคลากรในโรงเรียนติดเชื้อโควิด-19 นั้น จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ หากพบผู้ติดเชื้อ 1-2 ราย ทำการปิดห้องเรียนที่พบผู้ติดเชื้อ 3 วัน นำผู้เสี่ยงสูงเข้าสู่กระบวนการกักตัว 14 วัน ส่วนผู้เสี่ยงต่ำกักตัว 3 วัน หากพบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนปิดโรงเรียน 7 วัน และหากพบผู้ติดเชื้อเป็นวงกว้าง ปิดโรงเรียน 14 วัน โดยทุกกรณีจะต้องมีการทำความสะอาดพื้นที่เพื่อกำจัดเชื้อโรคในสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญคือการตรวจหาเชื้อในกลุ่มเสี่ยงสูงที่สัมผัสกับผู้ติดเชื้ออย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินอาการและความเสี่ยงพร้อมการปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
นพ.สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ชี้แจงว่า ขณะนี้สถานการณ์การระบาดของ จ.สมุทรสาคร พบว่ามีตัวเลขต่ำลงมาอย่างต่อเนื่อง พบผู้ติดเชื้อในหลักสิบมาหลายวันติดต่อกัน แต่บางวันก็อาจมีขึ้นบ้างเล็กน้อยเป็นช่วง ๆ ส่วนเรื่องการเปิดเทอมนั้นก็น่าจะทำให้พบผู้ติดเชื้อมากขึ้นจากช่วงนี้ เพราะว่าทางจังหวัดมีนโยบายว่าจะต้องตรวจ ATK นักเรียน 100 เปอร์เซ็นต์ ทุกคนทุกห้องเรียน ดังนั้นก็มีโอกาสพบผู้ติดเชื้อได้มากขึ้น
แต่การตรวจนั้นก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะพบเร็วได้แยกเร็ว ป้องกันการระบาดในโรงเรียน และเข้าควบคุมที่ครอบครัว ชุมชนได้ด้วย ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อที่จะมาจากกลุ่มสถานศึกษาหากมีการปรับสูงขึ้น ก็น่าจะเป็นเพียงช่วงหนึ่งเท่านั้น หลังจากนั้นก็จะกลับเข้าสู่ตัวเลขปกติ ขณะที่การตรวจหาเชื้อของนักเรียน หากพบผล ATK เป็นบวก จะต้องนำไปตรวจด้วยระบบ RT-PCR ซ้ำอีกเพื่อยืนยันผลที่ชัดเจน เพราะบางครั้ง ATK เป็นบวก แต่ RT-PCR เป็นลบก็มี
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ