ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร บูรณาการหลายภาคส่วน ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานคัดแยกและหลอมโลหะแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.นาโคก หลังมีประชาชนร้องเรียนได้รับผลกระทบจากฝุ่นละออง กลิ่น และควัน
วันนี้ (13 ม.ค.) เวลา 10.00 น. นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสมุทรสาคร และรองผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมฯ สำนักงานจังหวัดสมุทรสาคร, ปลัดอำเภอเมืองสมุทรสาคร รับผิดชอบงานศูนย์ดำรงธรรมอำเภอฯ, รองปลัด อบต.นาโคก, นายตรวจอุตสาหกรรมจังหวัดฯ, ผอ.ส่วน สนง.ทสจ.สมุทรสาคร, จนท.สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 5 (นครปฐม) และตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.)
เข้าตรวจสอบโรงงานคัดแยกและหลอมโลหะแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 6 ต.นาโคก อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในละแวกใกล้เคียงว่า ได้รับผลกระทบจากฝุ่นละออง กลิ่น และควัน ของการประกอบกิจการโรงงานดังกล่าว และประชาชนในพื้นที่และครู นักเรียน ในบริเวณใกล้เคียงและเขตติดต่อ จ.สมุทรสงครามได้รับความเดือดร้อน ศูนย์ดำรงธรรมสมุทรสาคร จึงบูรณาการหน่วยงานในจังหวัดฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบโรงงานในละแวกที่ร้องเรียนมีโรงงานตั้งอยู่ในพื้นที่ จำนวน 3 โรงงาน คือ 1. โรงงานคัดแยกและหลอมโลหะ 2. โรงงานคัดแยกพลาสติก และ 3. โรงงานแปรรูปไม้ ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่ามี 2 ใน 3 โรงงาน ที่คาดว่าน่าจะก่อให้เกิดผลกระทบตามที่ร้องเรียน จึงได้เข้าทำการตรวจสอบ ดังนี้
1. โรงงานคัดแยกและหลอมโลหะ จากการตรวจสอบพบว่ามีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (รง.4 )ประเภท ลำดับที่ 105 และ 106 มีการประกอบกิจการปกติ แต่จากการตรวจสอบสภาพภายในโรงงานพบว่ามีจำนวนวัสดุที่ที่กองอยู่ภายในและภายนอกโรงงานจำนวนมาก มีกระบวนการล้างคัดแยก และมีการหลอม โดยวัสดุที่นำมาคัดแยกนั้นส่วนใหญ่เป็นแผ่นวงจรคอมพิวเตอร์ ทองเหลือง นั้น ขอดูเอกสารในการนำเข้ามาในการดำเนินการคัดแยก เจ้าของโรงงานไม่สามารถแสดงแหล่งที่มาของวัสดุได้ ไม่มีเอกสารใบกำจัดกากอุตสาหกรรม
มีกระบวนการล้าง โดยน้ำที่ผ่านกระบวนการล้างนั้นไหลลงไปสู่บ่อพัก ที่มีลักษณะที่รั่วไหลออกนอกโรงงาน โดยมีลำรางขนาดเล็กจากโรงงานเชื่อมต่อไปยังคลองสาธารณะ ซึ่งอยู่ติดกับแปลงทำนาเกลือของชาวบ้านในพื้นที่ และเตาหลอม มีระบบบำบัดกลิ่นและควันที่ไม่มีประสิทธิภาพ การปล่อยให้ผงฝุ่นจากการหลอมร่วงลงไปกองที่พื้นที่ โดยไม่มีภาชนะหรือถุงรองรับและจากการตรวจสอบย้อนหลังพบเคยถูก อบต.นาโคก ฟ้องดำเนินคดีฐานไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
2. โรงงานแปรรูปไม้ จากการตรวจสอบพบว่ามีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (รง.4) ประเภทลำดับที่ 37 มีใบประกอบกิจการอันเป็นอันตรายต่อสุขภาพ (อภ.2) ใบประกอบอนุญาตแปรรูปไม้ และเมื่อช่วง 2-3 เดือนทางเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาตรวจโรงงาน แล้วพบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่แจ้งขออนุญาต ซึ่งทางอุตสาหกรรมจังหวัดฯ ได้ออกคำสั่ง ตามมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 โดยห้ามประกอบกิจการในส่วนที่ยังไม่ได้รับอนุญาต และดำเนินการสั่งปรับตามกฎหมายไปแล้ว
และจากการเข้าตรวจสอบในครั้งนี้ พบว่าบริเวณห้องอบไม้ ซึ่งเป็นส่วนที่มีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ยังพบว่ามีการประกอบกิจการอยู่ซึ่งสังเกตได้เนื่องจากยังมีความร้อนจากเตาอบ และบริเวณหออบไม้ดังกล่าว มีระบบบำบัดกลิ่นและควัยอยู่ในสภาพชำรุด ไม่สามารถบำบัดกลิ่นและควันได้ ทางเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดฯ ได้ออกคำสั่งดำเนินคดีตามมาตรา 37 วรรคสอง คือมีการสั่งผูกตราเครื่องจักร พร้อมออกคำสั่งตามมาตรา 39 ระงับการประกอบกิจการบางส่วน เนื่องจากมีการฝ่าฝืนมาตรา 37
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ