สมุทรสาครขับเคลื่อน “เรือประมงสีขาว” แก้ปัญหายาเสพติดแรงงานในเรือ

สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรสาคร ร่วมกับสมาคมการประมงสมุทรสาคร และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องรวม 9 หน่วยงาน เซ็นเอ็มโอยูโครงการ “เรือประมงสีขาว” ร่วมมือป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในแรงงานบนเรือประมง

วันนี้ (8 มี.ค.) เวลา 09.00 น. ที่องค์การสะพานปลาจังหวัดสมุทรสาคร ต.มหาชัย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในพิธีและเป็นสักขีพยาน ในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ความร่วมมือการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในเรือประมง (โครงการเรือประมงสีขาว) อันเป็นการบูรณาการความร่วมมือกันระหว่าง 9 หน่วยงาน พร้อมร่วมมอบธง “เรือประมงสีขาว” ให้แก่เรือประมงที่ดำเนินการตามหลักเกณฑ์การจัดการด้านยาเสพติดตามโครงการฯ จำนวน 4 ลำ ได้แก่ เรือชัยมงคลนำโชค, เรือ ก.ชลธิชานาวี 7, เรือ อ.พรพีรพัฒน์นาวี 11 และเรืออรุณนาวี 4

สำหรับพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในเรือประมง (โครงการเรือประมงสีขาว) ในครั้งนี้ มีผู้ร่วมลงนาม ประกอบด้วย น.ส.สุวดี ทวีสุข สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรสาคร, นายมงคล มงคลตรีลักษณ์ นายกสมาคมการประมงสมุทรสาคร, น.อ.เอกภาพ สายโสภา รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสมุทรสาคร (ศรชล.จว.สค.),

พ.ต.ต.สุภัทรชัย ศิริธรรม สารวัตรสถานีตำรวจน้ำ 4 กองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจน้ำ, นายอาวุธ วิเชียรฉาย ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร, นายนพรัตน์ ไวอัมภา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 7 (ปปส.ภาค 7), นายอำนาจ หนูทอง ประมงจังหวัดสมุทรสาคร, นพ.สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร และนพ.อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร

น.ส.สุวดี ทวีสุข สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ในการลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในเรือประมง (โครงการเรือประมงสีขาว) ในครั้งนี้ ทั้ง 9 หน่วยงานตกลงร่วมมือกันในการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในเรือประมง โดยมุ่งหวังวัตถุประสงค์ 4 ประการ 1. เพื่อบูรณาการประสานความร่วมมือในการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด การบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด เฝ้าระวัง ดูแล และป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดในกลุ่มแรงงานประมง

2. ให้ความช่วยเหลือแรงงานในเรือประมงที่มีปัญหาด้านยาเสพติด และสามารถส่งเสริมให้กลับเข้าทำงานได้โดยปกติ 3. ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของแรงงานในเรือประมงและขับเคลื่อนให้เกิดเรือประมงสีขาวอย่างยั่งยืน และ 4. ให้แรงงานในเรือประมงสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์ต่อตนเองและเจ้าของเรือ และเกิดความปลอดภัยในการทำงาน มีคุณภาพชีวิตที่ดี อันจะทำให้เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของ จ.สมุทรสาคร และประเทศต่อไป

น.ส.สุวดี กล่าวเพิ่มเติมว่า เรือประมงที่แสดงเจตจำนงเข้าร่วมโครงการฯ หลังจากดำเนินการตามหลักเกณฑ์การจัดการด้านยาเสพติดตามโครงการได้ 8 ประการ ได้แก่ 1. การประกาศนโยบาย 2. จัดทำป้ายประกาศการรณรงค์ 3. แต่งตั้งบุคคลรับผิดชอบการดำเนินการ 4. ให้ความรู้ 5. การจัดกิจกรรมต่อต้านยาเสพติด 6. มีการตรวจคัดกรองสุขภาพ หรือแจ้งความจำนงเข้ารับการบำบัด 7. ไม่มีพฤติกรรมใดที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 8. ผ่านการตรวจสอบประเมิน ซึ่งเรือประมงเหล่านี้จะได้รับเกียรติบัตรจากทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และได้รับธงสัญลักษณ์ “เรือประมงสีขาว” ด้วย

ขณะที่นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า เนื่องด้วยสถานการณ์ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาสำคัญของชาติที่บ่อนทำลายความสงบสุขของคนในสังคม และพบว่าผู้เสพส่วนใหญ่มีอายุอยู่ระหว่าง 15 – 50 ปี ซึ่งอยู่ในวัยกำลังแรงงานจึงส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและระบบเศรษฐกิจของประเทศ

รัฐบาลจึงให้ความสำคัญต่อการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของปัญหายาเสพติด โดยให้หน่วยงานที่รับผิดชอบควบคุมสถานบริการ โรงงานและสถานประกอบกิจการ มิให้มีการซุกซ่อนจำหน่ายสารเสพติดอย่างเด็ดขาด รวมทั้งให้มีการนำผู้เสพยาเสพติดเข้ารับการบำบัดโดยทันที และติดตามดูแลช่วยเหลือให้สามารถกลับมาดำรงชีวิตได้ตามปกติ

สำหรับพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ในวันนี้ สะท้อนให้เป็นถึงความใส่ใจในการแก้ปัญหายาเสพติดใน จ.สมุทรสาคร ทั้งในส่วนของภาคราชการและภาคเอกชน ที่จะมีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงงานในเรือประมงทะเล ซึ่งเป็นกลุ่มแรงงานผู้ใช้แรงกายในการทำงาน ย่อมตกเป็นกลุ่มเสี่ยงในการเข้าถึงของยาเสพติดได้ง่าย สมาคมการประมงสมุทรสาคร ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ประกอบการประมงเล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าวจึงได้หารือหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องและก่อให้เกิดโครงการเรือประมงสีขาวขึ้นมา

ทั้งนี้ ความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วนจะช่วยให้ จ.สมุทรสาครของเรามีภูมิคุ้มกันด้านยาเสพติด เป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงานบนเรือประมงให้สามารถทำงนได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความปลอดภัยในการทำงานอันจะส่งผลดีในภาพรวมของเศรษฐกิจของประเทศต่อไป

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *