ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร พร้อม นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ และคณะ ร่วมส่งผู้ติดเชื้อโควิด 3 รายสุดท้ายกลับบ้าน ก่อนปิดโรงพยาบาลสนาม “ศูนย์ห่วงใยคนสาคร” แห่งที่ 8 วัฒนาแฟคตอรี่ หลังดูแลผู้ติดเชื้อทั้งชาวไทยและต่างด้าวมาประมาณ 2 ปี
วันนี้ (17 พ.ค.) เวลา 09.30 น. ที่โรงพยาบาลสนาม “ศูนย์ห่วงใยคนสาคร” แห่งที่ 8 วัฒนาแฟคตอรี่ หมู่ 3 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายวัฒนา แตงมณี นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ ร.ต.ประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร นายบรรพต จันทรวงษ์ นายอำเภอกระทุ่มแบน นพ.สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร รวมถึงคณะแพทย์ พยาบาล ประจำโรงพยาบาลสนามฯ ผู้บริหารและสมาชิกสภา อบต.พันท้ายนรสิงห์ ผู้นำท้องที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันส่งผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 3 รายสุดท้ายกลับบ้าน พร้อมกับทำการปิดโรงพยาบาลสนามฯ แห่งนี้อย่างเป็นทางการ
สำหรับโรงพยาบาลสนาม “ศูนย์ห่วงใยคนสาคร” แห่งที่ 8 ส่วนเพิ่มเติม วัฒนาแฟคตอรี่ (2) หรือ โรงพยาบาลสนาม 1,000 เตียง ก่อสร้างขึ้นเนื่องจากเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างหนักในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร เมื่อประมาณเดือน ธ.ค. 63 ส่งผลให้โรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชนมีจำนวนเตียงไม่เพียงพอในการดูแลผู้ติดเชื้อ ทางจังหวัดสมุทรสาครมีความประสงค์ที่จะจัดหาสถานที่ในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม หรือ “ศูนย์ห่วงใยคนสาคร” ต่อมานายวัฒนา แตงมณี นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ ได้บริจาคที่ดินจำนวน 4 ไร่ เพื่อใช้เป็นโรงพยาบาลสนาม แห่งที่ 8 เป็นอาคารชั้นเดียว 2 หลัง สามารถรองรับผู้ติดเชื้อได้มากกว่า 1,000 เตียง ใช้เวลาก่อสร้าง 22 วัน ด้วยงบประมาณ 22 ล้านบาท หลังจากก่อสร้างแล้วเสร็จ ได้เปิดทำการรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ชุดแรกเข้ามาดูแลรักษา เมื่อ 29 ม.ค. 64 และได้ทำการดูแลผู้ติดเชื้อทั้งชาวไทยและคนต่างด้าวจวบจนมาถึงปัจจุบัน ด้วยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน
นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า หลังจากที่ดูตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร และมีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นในเรื่องการบริหารจัดการโรงพยาบาลสนาม ก็จะค่อย ๆ ปิดตัวลงไป ซึ่งวันนี้ทางอำเภอเมืองสมุทรสาคร จัดกิจกรรมส่งผู้ป่วยชุดสุดท้ายกลับบ้าน สำหรับโรงพยาบาลสนาม “ศูนย์ห่วงใยคนสาคร” แห่งที่ 8 วัฒนาแฟคตอรี่ เปิดรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 มาตั้งแต่ต้นปี 64 จนถึงปัจจุบันเป็นจำนวนนับหมื่นคน
ต้องขอบคุณในความเมตตากรุณาของนายวัฒนา แตงมณี นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ เจ้าของสถานที่ ให้จัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนามเป็นเวลาประมาณ 2 ปี รวมทั้งบุคลากรที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการบริหารจัดการโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฯ อำเภอเมืองสมุทรสาคร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่หมุนเวียนเข้ามาบริการให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวมถึงการรักษาความสงบเรียบร้อยในช่วงที่ผ่านมา
อีกทั้งต้องขอบคุณทาง อสม. เจ้าหน้าที่ รพ.สต. ที่ทุกคนทำงานหนักในการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ถือว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายในการปฏิบัติงาน ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการปิดโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ จะเป็นการปิดแบบถาวร เพราะว่าทางจังหวัดฯ เริ่มที่จะทำกิจกรรมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป ทั้งนี้ ขอฝากไปถึงพี่น้องประชาชนชาวสมุทรสาคร ถึงแม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลง แต่ก็ขอให้ดูแลตัวเองในการป้องกันตามมาตรการ DMHTTA ที่ทาง ศบค. และกระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ด้วย
ขณะที่นายวัฒนา แตงมณี นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ กล่าวว่า ตนเองมีความภาคภูมิใจ และดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมฝ่าฟันวิกฤติโควิด-19 ของ จ.สมุทรสาคร ให้ผ่านพ้นไปได้ ซึ่งก็เป็นไปตามที่เคยพูดไว้ว่าจะยกพื้นที่ตรงนี้ให้ทางจังหวัดฯ ใช้จัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนาม จนกว่าโรคโควิด-19 จะหมดไปจากสมุทรสาคร ตนก็ขอขอบคุณทุกภาคส่วน ที่ได้ร่วมกันเสียสละดูแลผู้ติดเชื้อมาตั้งแต่เริ่มแรก แม้จะรู้ว่าเป็นโรคที่ถูกสังคมต่อต้านและรังเกียจ แต่ทุกคนก็ทำด้วยใจเสียสละความสุขส่วนตัวและการได้อยู่กับครอบครัว
สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง