ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษาให้ใบเหลือง “พิสิฐ สุวรรณชัย” ส.อบจ.สมุทรสาคร อ.เมืองฯ เขตเลือกตั้งที่ 11 หลัง กกต. มีคำวินิจฉัยให้ใบแดง ชี้หลักฐานการซื้อเสียงเชื่อได้ว่าการเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม แต่ไม่มีหลักฐานว่ารู้เห็นเป็นใจ จึงไม่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง และไม่ต้องรับผิดในค่าใช้จ่ายเลือกตั้ง ด้าน ผอ.กกต.จว.สมุทรสาคร เผยต้องจัดการเลือกตั้ง ส.อบจ.สมุทรสาคร ใหม่ภายใน 60 วัน คนเก่ายังสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งใหม่ได้
จากกรณีที่ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ได้มีคำวินิจฉัย ที่ 597/2564 วันอังคารที่ 19 ต.ค. 64 เรื่อง การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) สมุทรสาคร อำเภอเมืองสมุทรสาคร เขตเลือกตั้งที่ 11 โดยมีใจความว่า ตามที่มีประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง กำหนดให้มีการเลือกตั้ง ส.อบจ.สมุทรสาคร และ นายก อบจ.สมุทรสาคร กำหนดวันเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 20 ธ.ค. 63 นั้น หลังประกาศผลการเลือกตั้ง กกต. ได้รับคำร้องว่า นายพิสิฐ สุวรรณชัย ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.อบจ.สมุทรสาคร อ.เมืองฯ เขตเลือกตั้งที่ 11 ผู้ถูกร้องที่ 1 และนางบุญเสริม ทองคุ้ม ตัวแทนหรือหัวคะแนน ผู้ถูกร้องที่ 2 ได้มีการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 65 (1) กล่าวคือ ผู้ถูกร้องที่ 1 ก่อ สนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจให้ผู้ถูกร้องที่ 2 จัดทำ ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเอง
กกต. ได้พิจารณารายงานการไต่สวนตลอดจนพยานหลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องประกอบกันแล้ว จึงมีคำสั่งให้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณ์ภาคเพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนายพิสิฐ สุวรรณชัย และสั่งให้มีการเลือกตั้ง ส.อบจ.สมุทรสาคร อ.เมืองฯ เขตเลือกตั้งที่ 11 ใหม่ แทนนายพิสิฐ สุวรรณชัย ตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 108 วรรคสอง รวมทั้งให้ดำเนินคดีอาญาแก่นายพิสิฐ สุวรรณชัย และนางบุญเสริม ทองคุ้ม ตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 65 (1) ประกอบมาตรา 126
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 มิ.ย. 65) เวลา 10.00 น. ศาลอุทธรณ์ภาค 7 นัดอ่านคำพิพากษาคดีเลือกตั้ง ระหว่าง คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ผู้ร้อง กับ นายพิสิฐ สุวรรณชัย ส.อบจ.สมุทรสาคร อ.เมืองฯ เขต 11 ผู้คัดค้าน โดยบางช่วงบางตอนของคำพิพากษาระบุว่า หลังการประกาศผลการเลือกตั้ง นายอนุรักษ์ หอมแดง ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งดังกล่าวยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งว่า ผู้คัดค้านกระทำการฝ่าฝืนต่อ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 65 (1) กล่าวคือ เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 63 เวลาประมาณ 14.00 น. นายบุญเสริม ทองคุ้ม ให้เงิน 300 บาท แก่นายอนุรักษ์พร้อมบอกว่าเป็นเงินของผู้คัดค้าน เพื่อจูงใจให้ลงคะแนนให้แก่ผู้คัดค้าน
ผู้ร้องดำเนินการไต่สวนแล้วเห็นว่า กรณีมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ผู้คัดค้านก่อ สนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจให้นางบุญเสริมจัดทำ ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่นายอนุรักษ์ เพื่อจูงใจให้ลงคะแนนให้แก่ผู้คัดค้าน ซึ่งทำให้การเลือกตั้งในส่วนที่เกี่ยวกับผู้คัดค้านไม่สุจริตและไม่เที่ยงธรรม ขอให้มีคำสั่งให้ผู้คัดค้านหยุดปฏิบัติหน้าที่ ให้มีการเลือกตั้ง ส.อบจ.สมุทรสาคร อ.เมืองฯ เขตเลือกตั้งที่ 11 ใหม่แทนผู้คัดค้าน ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้คัดค้าน ให้ผู้คัดค้านรับผิดในค่าใช้จ่ายสำหรับการเลือกตั้งเป็นเงิน 445,172.23 บาท ตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 108 วรรคสองและวรรคสี่ และมาตรา 109 วรรคหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้พิจารณาจากหลักฐานคลิปเสียง 4 คลิป และคลิปภาพเคลื่อนไหว 1 คลิป ที่นายอนุรักษ์บันทึกจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ไว้เป็นพยานหลักฐาน เชื่อได้ว่าการเลือกตั้งในส่วนผู้คัดค้านมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม เพราะมีผู้ให้เงินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อจูงใจให้ลงคะแนนแก่ผู้คัดค้าน จึงต้องมีคำสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่สำหรับการเลือกตั้งดังกล่าว และคดีนี้ไม่มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้คัดค้านก่อ สนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจในการกระทำการโดยมิชอบดังกล่าว ทำให้ไม่อาจเพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้คัดค้านได้ ส่วนความรับผิดในค่าใช้จ่ายสำหรับการเลือกตั้งนั้น เมื่อศาลฯ ไม่มีคำสั่งให้เพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ย่อมไม่อาจมีคำสั่งให้ผู้คัดค้านรับผิดในค่าใช้จ่ายสำหรับการเลือกตั้งดังกล่าวได้
“ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษาให้มีการเลือกตั้ง ส.อบจ.สมุทรสาคร เขตเลือกตั้งที่ 11 ใหม่แทนนายพิสิฐ สุวรรณชัย ผู้คัดค้าน คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก”
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายณัฐวรรธน์ วงศ์อิสรภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสมุทรสาคร ชี้แจงว่า คำพิพากษาสรุปคือ ศาลอุทธรณ์ภาค 7 มีคำสั่งให้จัดการเลือกตั้ง ส.อบจ.สมุทรสาคร อ.เมืองฯ เขตเลือกตั้งที่ 11 (ต.บางหญ้าแพรก หมู่ 1 และ 3, ต.โกรกกราก (บางส่วน) และ ต.โคกขาม หมู่ 9) ใหม่ แทนนายพิสิฐ สุวรรณชัย ตามกฎหมาย กกต. ต้องดำเนินการจัดการเลือกตั้งภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ ส.อบจ.สมุทรสาคร พ้นจากตำแหน่ง
โดย ปลัด อบจ.สมุทรสาคร จะทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร ต้องเสนอร่างประกาศให้มีการเลือกตั้ง ส.อบจ.สมุทรสาคร เขตเลือกตั้งที่ 11 ให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสมุทรสาคร พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนประกาศให้มีการเลือกตั้ง กกต. ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 5 ท่าน โดยต้องเป็นข้าราชการใน จ.สมุทรสาครอย่างน้อย 3 คน ทั้งนี้ นายพิสิฐ สุวรรณชัย ยังสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งใหม่ได้
สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง