ชาวบ้านตำบลมหาชัยและพื้นที่ใกล้เคียง รวมตัวร้องขอให้เร่งรัดซ่อมสะพานข้ามคลองมหาชัย หรือสะพานวัดเจษ เนื่องจากพบคอนกรีตแตกเสาตอม่อสะพาน หวั่นซ้ำรอยเหตุการณ์สะพานกลับรถ ถ.พระราม 2 ด้านนายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร และนายอำเภอเมืองสมุทรสาคร เดินทางร่วมรับฟังเสียงสะท้อนจากชาวบ้าน
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 7 ส.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านตำบลมหาชัย และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 50 คน ได้มารวมตัวกันที่สะพานข้ามคลองมหาชัย หรือสะพานวัดเจษ ต.มหาชัย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เพื่อเรียกร้องให้ทางเทศบาลนครสมุทรสาคร หรือภาคส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการซ่อมแซมสะพานแห่งนี้โดยเร็วที่สุด เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกับสะพานกลับรถ ถ.พระราม 2 กม.34 (สะพานกลับรถวิภาราม) เนื่องจากบริเวณเสาตอม่อของสะพานพบว่าคอนกรีตแตกจนเห็นเหล็กเส้นขึ้นสนิมโผล่ออกมา อันเกิดจากการใช้งานรองรับปริมาณรถยนต์จำนวนมากในแต่ละวัน โดยเฉพาะรถบรรทุก รวมถึงน้ำเมือกคาวปลาจากรถขนส่ง และน้ำเค็ม ส่งผลถึงโครงสร้างใต้สะพานเกิดการผุกร่อนดังกล่าว
ตัวแทนชาวบ้านรายหนึ่งบอกว่า ด้วยสภาพของสะพานที่เริ่มทรุดโทรมลงเพราะก่อสร้างมานานกว่า 50 ปี และมีการใช้งานอย่างหนัก ประกอบกับเหตุการณ์สะพานกลับรถ ถ.พระราม 2 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ส่งผลทำให้ชาวบ้านหรือผู้ใช้รถใช้ถนนที่ต้องขับรถผ่านสะพานข้ามคลองมหาชัยแห่งนี้ เกิดความกลัวและวิตกกังวลเป็นอย่างมากว่าจะเกิดเหตุซ้ำรอยแบบสะพานกลับรถ ถ.พระราม 2 ดังนั้นจึงได้รวมตัวกันออกมาร้องขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งรีบดำเนินการซ่อมแซมสะพานเส้นนี้ให้มีความมั่นคงแข็งแรง และมีสภาพที่เหมาะสมต่อการรองรับปริมาณรถได้ หรือจะให้ดีที่สุดคือมีการสร้างใหม่
โดยที่ผ่านมาได้มีการร้องเรียนความเดือดร้อนในเรื่องนี้ผ่านไปยังผู้รับผิดชอบหลายครั้งแต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข วันนี้จึงได้ออกมารวมตัวกันเพื่อแสดงออกให้รู้ว่า ทุกคนมีความเดือดร้อนและวิตกกังวลเป็นอย่างมากจากสภาพของสะพานที่เป็นอยู่ในขณะนี้ นอกจากนี้ในช่วงระยะเวลาที่ต้องรอคอยการซ่อมแซมนั้น ก็ขอให้ทางเทศบาลฯ สร้างความมั่นใจให้แก่พี่น้องประชาชนด้วย อาทิ ทำประกาศแสดงหนังสือจากแขวงทางหลวงยืนยันความปลอดภัยของสะพาน ประสานกับตำรวจแก้ไขปัญหาการจราจรที่ติดขัด และ ติดตั้งประกาศห้ามรถบรรทุกน้ำหนักเกินตามที่กฎหมายกำหนดใช้สะพานเส้นนี้ เป็นต้น
ทางด้าน นายชุมพล จันทร์จรัสวัฒนา นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร ที่ได้ลงพื้นที่มาพบกับพี่น้องประชาชน ชี้แจงว่า ปัญหานี้ทางเทศบาลฯ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนมาหลายครั้ง ตนเองในฐานะนายกเทศมนตรีฯ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ แม้ว่าจากการประเมินของแขวงทางหลวงชนบทจะพบว่า ความเสียหายหรือความทรุดโทรมของเสาตอม่อสะพานที่ต้องทำการซ่อมแซมจะมีอยู่เพียงไม่เกิน 20 เปอร์เซ็นต์ แต่เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการสัญจรของพี่น้องประชาชน ก็ควรที่จะต้องเร่งซ่อมให้แล้วเสร็จในช่วงนี้จะได้ไม่ต้องถึงขั้นปิดสะพาน
ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะกับแขวงทางหลวงชนบทสมุทรสาคร มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อขอให้เร่งรัดการออกแบบในการซ่อมแซมเสาตอม่อและคานสะพาน เพราะในส่วนของแบบนั้น ต้องให้กรมทางหลวงชนบทเป็นผู้ออกแบบให้ จากนั้นทางเทศบาลถึงจะนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ เพื่อขออนุมัติและจัดงบประมาณกว่า 10 ล้านบาท มาดำเนินการซ่อมแซมได้ ทั้งนี้ตามที่ได้มีการหารือล่าสุดกับแขวงทางหลวงชนบทสมุทรสาคร ก็ทราบว่าตอนนี้ได้มีการอนุมัติแบบที่จะนำมาซ่อมแซมแล้ว รอส่งมอบให้กับทางเทศบาลฯ ไม่เกินภายใน 2 สัปดาห์นี้ จากนั้นจะเร่งเปิดประชุมสภาฯ เพื่อขออนุมัติและจัดงบประมาณ พร้อมกับประกาศหาผู้จัดซื้อจัดจ้างทันที โดยรวมแล้วอาจจะใช้เวลาอีกประมาณ 2-3 เดือน ก็จะเริ่มลงมือดำเนินการซ่อมแซมตามแบบของกรมทางหลวงชนบทได้
ซึ่งก็ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่า ทางเทศบาลนครสมุทรสาครพร้อมที่จะทำการซ่อมแซมสะพานข้ามคลองมหาชัย เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน ส่วนเรื่องของการสร้างสะพานใหม่เป็นเรื่องที่ต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก และต้องหาพื้นที่ ๆ มีความเหมาะสม ดังนั้นท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครก็ได้มีการประสานกับผู้เชี่ยวชาญให้ทำการสำรวจโครงสร้างทั้งระบบ ไม่ใช่เพียงแค่ตรงสะพานแห่งนี้เท่านั้น เพื่อนำมาวิเคราะห์และจัดสรรว่า ควรที่จะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไปในอนาคต
อีกด้านหนึ่ง ร.ต.ประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ที่ลงพื้นที่ด้วยนั้นก็กล่าวว่า สำหรับปัญหานี้ทางจังหวัดสมุทรสาครก็ได้มีการประชุมหารือเพื่อแก้ไขให้กับพี่น้องประชาชนมาตลอด และจะติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานของทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เร่งรีบทำการซ่อมแซมสะพานให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับสะพานข้ามคลองมหาชัยแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2511 สมัยนายสุรินทร์ เทพกาญจนา เป็นนายกเทศมนตรีเมืองสมุทรสาคร และสร้างใหม่เมื่อปี 2544 โดยกรมโยธาธิการ กระทรวงมหาดไทย ก่อนที่จะส่งมอบให้ทางเทศบาลนครสมุทรสาครเมื่อปี 2545 เพื่อดำเนินการบริหารดูแลบำรุงรักษามาจนถึงปัจจุบัน
สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง