สาวแสบตุ๋นเพื่อน-คนสนิทนับสิบราย แอบอ้าง บ.เก่า ขายกระสอบทิพย์ คาดสูญไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท

ทนายความผู้แทนบริษัทผลิตกระสอบพลาสติกแห่งหนึ่ง นำหลักฐานแจ้งความร้องทุกข์ สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ถูกสาวแสบอดีตพนักงานเปิดบิลหลอกขายกระสอบเกรด B ต้มตุ๋นเพื่อนสนิทและคนใกล้ชิด ด้านผู้เสียหายกว่า 10 รายเข้าแจ้งความเอาผิดด้วย คาดสูญเงินไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ส่วนสาวแสบถูกรวบตัวได้แล้ว อยู่ระหว่างสอบสวน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 15 ก.ย. 65 ที่สถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร นายชุนห์ อาจหาญ ทนายความประจำบริษัท นิธิกรอุตสาหกรรม จำกัด ซึ่งผลิตบรรจุภัณฑ์ประเภทกระสอบพลาสติกสาน ผ้าใบพลาสติกสาน ได้รับมอบหมายจากผู้บริหารบริษัทฯ ให้นำหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ.เสรีฐกาญจน์ จันทร์ด้วง ผกก.สภ.กระทุ่มแบน ภายหลังจากทราบว่ามีอดีตพนักงานบริษัทฯ คนหนึ่ง ลักลอบนำใบส่งของจากบริษัทไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต และปลอมแปลงลายเซ็นผู้มีอำนาจในการออกใบส่งของ จนก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางบริษัทฯ

ทนายชุนห์ อาจหาญ ผู้แทนบริษัท นิธิกรอุตสาหกรรม จำกัด เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ก.ย. ที่ผ่านมา ทางบริษัทฯ ได้รับทราบว่ามีผู้เสียหายจำนวนมากถูก น.ส.แขก (นามสมมติ) อายุ 31 ปี อดีตพนักงานบริษัทฯ ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย ซึ่งได้ลาออกไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 64 ลักลอบนำไปส่งของที่มีตราประทับของบริษัทฯ ไปออกใบส่งของเพื่อแสดงรายการขายกระสอบเกรด B ต่อผู้เสียหาย หวังหลอกลวงตุ้มตุ๋นเอาเงินจากผู้เสียหายหลายราย ซึ่งการกระทำดังกล่าวนั้นก่อให้เกิดความเสียหายต่อบริษัทฯ เป็นอย่างมาก

ทางผู้บริหารของบริษัทฯ จึงมอบหมายให้ตนเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินคดีกับอดีตพนักงานรายดังกล่าว 3 ข้อกล่าวหาคือ 1. ลักทรัพย์นายจ้างเป็นใบส่งของจำนวน 2 เล่ม (100 แผ่น), 2. ปลอมแปลงเอกสาร ด้วยการปลอมลายเซ็นกรรมการผู้จัดการบริษัทฯ และ 3. ใช้เอกสารปลอมเพื่อหลอกลวงบุคคลภายนอกให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งทางบริษัทฯ นั้นได้ขอให้ทางตำรวจดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวอย่างถึงที่สุด และทราบว่าตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวอดีตพนักงานรายนี้ไว้แล้ว โดยได้นำตัวไปสอบสวนหาข้อเท็จจริง พร้อมกันนี้ยังจะได้คัดค้านการประกันตัวในชั้นศาลไว้ด้วย เนื่องจากในคดีนี้มีผู้เสียหายหลายราย

ขณะเดียวกัน ได้มีผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ราย เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน พร้อมนำหลักฐานมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนฯ โดย พ.ต.อ.เสรีฐกาญจน์ จันทร์ด้วง ผกก.สภ.กระทุ่มแบน ก็ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ประกิต  ต้นไม้ทอง รอง ผกก.สส.สภ.กระทุ่มแบน เป็นหัวหน้าชุดสอบสวนรับผิดชอบคดีดังกล่าว ซึ่งก็ได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายแต่ละรายที่เข้ามาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนี้ก็จะรอผู้เสียหายรายอื่น ๆ ที่จะเข้ามาแจ้งความต่อไป แล้วถึงจะมีการตั้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ถูกแจ้งความ

พ.ต.อ.เสรีฐกาญจน์ จันทร์ด้วง ผกก.สภ.กระทุ่มแบน บอกกับผู้สื่อข่าวในเบื้องต้นว่า ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากทางบริษัท นิธิกรอุตสาหกรรม จำกัด ว่ามีอดีตพนักงานคนหนึ่งนำทรัพย์สินของทางบริษัทฯ เป็นใบส่งของพร้อมปลอมแปลงลายเซ็น ไปก่อเหตุฉ้อโกงทรัพย์บุคคลอื่น ด้วยการหลอกให้ซื้อใบบิลส่งของที่แสดงรายการขายสินค้าประเภทกระสอบเกรด B ของทางบริษัทฯ ดังกล่าว โดยมีผู้เสียหายหลายรายหลงเชื่อตกลงซื้อขายแล้วโอนเงินเข้ามาในบัญชีของหญิงสาวรายนี้ ตามจำนวนที่แสดงในรายการใบบิลส่งของ ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมหลักฐาน เพื่อออกหมายจับหญิงสาวรายนี้พร้อมกับนำตัวมาสอบปากคำ โดยขณะนี้ได้ควบคุมตัวไว้ที่ สภ.กระทุ่มแบน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างขั้นตอนการสอบปากคำของพนักงานสอบสวนฯ ก่อนที่จะส่งตัวไปยังศาลจังหวัดสมุทรสาครในวันพรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ซึ่งทางหญิงสาวรายดังกล่าวก็ยังไม่ยอมเปิดเผยเส้นทางการเงินว่ารับมาแล้วนำไปใช้จ่ายอะไร หรือมอบให้ใคร จึงกลายเป็นผู้ต้องหาเพียงรายเดียว

ส่วนประเด็นของแชร์ลูกโซ่นั้น จากการตรวจสอบยังไม่พบว่าเป็นรูปแบบแชร์ลูกโซ่ เพราะผู้ที่แจ้งความทั้งหมดเป็นผู้เสียหายที่ไม่มีการกล่าวโทษไปยังบุคคลอื่นมีเพียงกล่าวโทษหญิงสาวรายนี้รายเดียวเท่านั้น ซึ่งแต่ละคนบอกว่าได้รับการติดต่อจากหญิงสาวรายนี้ที่เข้าไปชักชวนโดยตรงแบบตัวต่อตัว โดยอาศัยความสนิทสนมจากความเป็นเพื่อน เป็นญาติ และเป็นบุคคลใกล้ชิดกัน ยังไม่มีการสร้างขบวนการหรือเครือข่ายแบบแชร์ลูกโซ่เพื่อให้บุคคลอื่นหลงเชื่อแต่อย่างใด   ส่วนทางด้านคดีนั้นเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตั้งข้อกล่าวหาไว้ก่อว่า ลักทรัพย์นายจ้าง กับ ฉ้อโกงทรัพย์ (ผู้เสียหาย) แต่จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกหรือไม่ ก็ต้องรอผลสรุปจากการสอบปากคำผู้เสียหายและหลักฐานที่รวบรวมได้ทั้งหมดเสียก่อน

ทางด้านผู้เสียหายเล่าว่า พวกตนรู้จักกับ น.ส.แขก ในฐานะเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่อนุบาล และ ประถมศึกษาเรื่อยมา จนกระทั่งมาถึงวัยทำงาน โดยก่อนหน้านี้ น.ส.แขก ได้ติดต่อมาหาเพื่อน ๆ แต่ละคนในรูปแบบต่าง ๆ กัน บางคนก็ใช้คุยผ่านโทรศัพท์ บางคนก็คุยผ่านแชทไลน์ หรือทางเฟซบุ๊ก เป็นต้น ซึ่งได้ชักชวนให้เพื่อน ๆ จาก 1 คน เป็น 2 คน จาก 2 คนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ รวมกว่า 10 คน ให้มาร่วมลงทุนซื้อขายกระสอบเกรด B จากบริษัทฯ ที่ น.ส.แขก ทำงานอยู่ โดยตอนที่มาหลอกชวนซื้อขายกระสอบนั้น ทางเพื่อน ๆ ก็ไม่ทราบว่าเพื่อนสาวก็ได้ลาออกมาแล้ว ทุกคนยังคงคิดว่าเพื่อนสาวยังคงทำงานที่เดิม เพราะมีใบส่งของมาแสดงให้เพื่อน ๆ ดู จึงทำให้เกิดความน่าเชื่อเป็นอย่างมาก โดยชักชวนให้เพื่อน ๆ นำเงินมาลงทุนซื้อกระสอบเกรด B ตามที่แสดงในใบส่งของ แล้วเพื่อนสาวจะเป็นคนขายต่อให้กับลูกค้าที่มาหาซื้อ เพื่อนำกำไรมาแบ่งกันได้ร้อยละ 10 บาท

ซึ่งจากความเชื่อใจเพื่อนที่เรียนมาด้วยกัน ก็เลยมีการร่วมลงทุนด้วย ตอนแรกก็เป็นเงินไม่มากนัก และได้กำไรตามที่เพื่อนบอกไว้จริง จากนั้นก็มีการชักชวนให้ลงทุนเพิ่ม ก็ยังได้ส่วนแบ่งกำไรคืนเหมือนเดิม ยิ่งเพิ่มความเชื่อใจให้มากขึ้นไปอีก เมื่อเพื่อนสาวชวนให้ลงทุนมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงไม่ได้ระแวงแต่อย่างใด เพราะบางทีก็ได้เงินก้อนกลับมาแต่ได้มาก็ส่งคืนกลับไปบางครั้งยังเติมเพิ่มเข้าไปอีก เพราะเพื่อนบอกมียอดเงินที่ต้องซื้อเพิ่ม อีกทั้งบางคนยังไปชักชวนญาติพี่น้องของตนเองให้เอาเงินมาซื้อขายกระสอบตามใบส่งของที่เพื่อนสาวแสดงมาให้ดูแต่ละวันด้วย โดยเพื่อนสาวมักจะเอาคนนี้ไปอ้างให้คนนั้นฟังว่าคนเพื่อนคนนี้ก็ร่วมลงทุนด้วย ทำให้หลายคนเชื่อสนิทใจ

จนในที่สุดเริ่มพบพิรุธสงสัยว่า ทุกคนอาจจะถูกหลอกเพราะเริ่มไม่ได้เปอร์เซ็นต์ตามที่ตกลงกันไว้ เมื่อถามถึงทั้งเงินกำไรและเงินลงทุนก็ถูกบ่ายเบี่ยงต่าง ๆ นานา อ้างว่าบริษัทยังไม่จ่ายของบ้าง เงินไม่พอหมุนกับสินค้าที่ต้องจ่ายเพิ่มบ้าง จึงทำให้มีการหาหลักฐานจนพบว่า ทุกคนถูก น.ส.แขก หลอกต้มตุ๋นจริง ด้วยการออกใบส่งสินค้าปลอม และไม่เคยมีการนำกระสอบเกรด B จากทางบริษัทฯ ออกมาขาย รวมถึง น.ส.แขก ไม่ใช่พนักงานของบริษัทฯ มานานเกือบ 1 ปีแล้ว จึงได้รวมตัวกันมาแจ้งความที่ สภ.กระทุ่มแบน แล้วก็ทำให้ทราบอีกว่าไม่ใช่เพียงแค่ในกลุ่มเพื่อนและญาติของเพื่อน ๆ เท่านั้นที่ถูกหลอก แม้แต่ญาติ ๆ ของชายหนุ่มที่เป็นแฟนกับ น.ส.แขกเองก็ถูกหลอกด้วย

โดยทุกคนมั่นใจว่าหญิงสาวรายนี้หลอกใช้แฟนหนุ่มซึ่งเป็นคนตั้งใจทำมาหากินมาเป็นเครื่องมือชวนพ่อ แม่และญาติ ๆ ให้ซื้อขายใบส่งของกระสอบเกรด B เช่นเดียวกัน จนบางคนสูญเงินหลายล้านบาท และบางคนด้วยความที่ต้องการหารายได้เสริมให้กับครอบครัว ประกอบกับความไว้ใจและสงสารหลานชายที่เป็นแฟนของนางสาวแขกต้องการให้หลานชายมีรายได้มากขึ้น  ถึงลงทุนเพิ่มไปเรื่อย ๆ จนยอมจำนองบ้านเพื่อนำเงินมาช่วยเพิ่มยอดการซื้อขาย จนกลายเป็นหนี้ที่ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เงินคืนหรือไม่ ส่วนมูลค่าความเสียหายนั้นโดยรวมแล้วคาดว่าไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *