
กรมทางหลวง ร่วมกับ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าการซ่อมแซมและบูรณะสะพานกลับรถ ถ.พระราม 2 กม.34 ก่อนคืนผิวจราจรเส้นทางหลัก 6 โมงเช้า 4 พ.ย. 65
วันนี้ (3 พ.ย.) นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) พร้อมด้วย นายทวีศักดิ์ รุจิจรรยาวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักก่อสร้างสะพานฯ นายพรชัย ศิลารมย์ ผู้อำนวยการศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 (ปทุมธานี) นายประลองยุทธ์ กสิวงศ์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสมุทรสาคร ลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าการดำเนินงานซ่อมแซมและบูรณะสะพานลอยกลับรถ ถ.พระราม 2 กม.34 บริเวณหน้า ร.พ.วิภาราม ต.บางกระเจ้า อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร

โดยอธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า ทางกรมฯ โดยศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 (ปทุมธานี) ได้เริ่มดำเนินการซ่อมแซมตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยเน้นการดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐานวิศวกรรม ตามข้อสั่งการของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่มีความห่วงใยผู้ใช้ทาง ถึงความกังวลและความเชื่อมั่นในความแข็งแรงของโครงสร้างสะพาน ที่อาจส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพความปลอดภัยในการเดินทาง ขณะนี้ได้ดำเนินการติดตั้งคานรูปตัวที ที่มีลักษณะเป็นคานคอนกรีตอัดแรงสำเร็จรูปจำนวน 5 คาน พร้อมตรวจสอบระดับตำแหน่งที่เหมาะสม ติดตั้งเหล็กเสริมส่วนเชื่อมต่อโครงสร้างสะพาน และติดตั้งราวสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กแล้วเสร็จ พร้อมที่จะเปิดการจราจรบนเส้นทางหลักในวันที่ 4 พ.ย. 65 เวลา 06.00 น. นี้

ทางด้าน รศ.เอนก ศิริพานิชกร ที่ปรึกษาคณะกรรมการสาขาวิศวกรรมโยธา วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) กล่าวว่า จากการตรวจสอบการทำงานทุกขั้นตอนของศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 (ปทุมธานี) กรมทางหลวง ได้ดำเนินการซ่อมแซมตามแบบและแผนงานได้อย่างครบถ้วนและเป็นไปตามแนวทางที่ วสท. กำหนดไว้ หลังจากการซ่อมแซมดังกล่าวแล้วเสร็จ วสท. จะทำการตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้างสะพาน ทั้งการวัดค่าการแอ่นตัวของสะพานในการรับน้ำหนักบรรทุกจริงโดยใช้รถบรรทุกขนาดมาตรฐานวิ่งขึ้นไปเพื่อทดสอบว่าสะพานที่ซ่อมแล้วเสร็จสามารถรับน้ำหนักได้ตามพิกัดน้ำหนักที่กำหนดหรือไม่ ซึ่งตามแผนการดำเนินงานจะทำการทดสอบในวันที่ 10 พ.ย. 65 โดยหลังจากดำเนินการทดสอบแล้ว จะพิจารณาเปิดใช้สะพานลอยกลับรถโดยเร็วที่สุดต่อไป ทั้งนี้ นับเป็นการดำเนินงานที่แล้วเสร็จเร็วกว่าแผนเดิมประมาณ 1 เดือน ซึ่งจะเป็นการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้ทางได้อย่างดียิ่ง



ทั้งนี้ กรมทางหลวง ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ หากประชาชนต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือแจ้งเหตุต่าง ๆ สามารถโทรแจ้งได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ