สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร จับมือโรงพยาบาลสมุทรสาคร และมูลนิธิรักษ์ไทย ดำเนินงานศูนย์ปฏิบัติการค้นหาผู้ป่วยวัณโรคในประชากรข้ามชาติด้วยเทคนิคอณูชีววิทยา นำร่องแห่งแรกในประเทศไทย
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 20 ธ.ค. 65 ที่ห้องประชุมพระนรราชจำนง โรงพยาบาลสมุทรสาคร ต.มหาชัย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การดำเนินงานศูนย์ปฏิบัติการค้นหาผู้ป่วยวัณโรคในประชากรข้ามชาติ โดยใช้เทคนิคอณูชีววิทยา ระหว่างสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร โรงพยาบาลสมุทรสาคร และมูลนิธิรักษ์ไทย จังหวัดสมุทรสาคร โดยมี นพ.สุรวิทย์ ศักดานุภาพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร, นพ.ศุภฤทธิ์ เฮงคราวิทย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร และนายพร้อมบุญ พานิชภักดิ์ เลขาธิการมูลนิธิรักษ์ไทย ร่วมลงนาม ในการนี้ นพ.ธนพัฒน์ พวงเพชร รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร กับ น.ส.อารมณ์ คนชม ผู้อำนวยการภาคกลางและภาคใต้มูลนิธิรักษ์ไทย ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามด้วย
สำหรับพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การดำเนินงานศูนย์ปฏิบัติการค้นหาผู้ป่วยวัณโรคในประชากรข้ามชาติ โดยใช้เทคนิคอณูชีววิทยานี้ นับเป็นความร่วมมือที่จะส่งเสริมกัน เพื่อดำเนินการค้นหาและคัดกรองผู้ป่วยวัณโรคในประชากรข้ามชาติพื้นที่ จ.สมุทรสาคร มีระบบการส่งต่อผู้ที่มีอาการสงสัยไปรักษาที่สถานบริการสาธารณสุข และมีการติดตามอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดผลสำเร็จในการรักษา โดยมุ่งเน้นที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงบริการตรวจวินิจฉัยที่รวดเร็วด้วยเทคนิคอณูชีววิทยา แบบบูรณาการร่วมกัน เพื่อส่งเสริมสุขภาพ เฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคในประชากรข้ามชาติ จ.สมุทรสาคร มีรูปแบบการจัดบริการที่เข้าถึงได้ง่าย เพื่อให้เกิดการดำเนินงานแบบบูรณาการที่มีประสิทธิภาพ บรรลุผลตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ภายใต้โครงการยุติปัญหาวัณโรคและเอดส์ด้วยชุดบริการ RRTTPR คือ “การเข้าถึง (Reach) – การเข้าสู่บริการ (Recruit) – การตรวจ (Test) – การรักษา (Treat) – การป้องกัน (Prevent) – การคงอยู่ในระบบ (Retain)” ตามกรอบแนวคิดของแผนปฏิบัติการเร่งรัดการยุติปัญหาเอดส์และวัณโรคของประเทศไทย
นพ.สุรวิทย์ ศักดานุภาพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ชี้แจงว่า วัณโรคยังเป็นโรคที่พบเจอได้มาก โดยใน จ.สมุทรสาคร นั้นจะพบผู้ป่วยวัณโรคปอดในกลุ่มแรงงานข้ามชาติที่มีอัตราสูงกว่าในคนไทย ดังนั้นหากไม่มีระบบการคัดกรองที่ดีและค้นหาเชื้อโรคได้ในอัตราที่สูงกว่าการตรวจแบบเดิม ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อคนไทยที่อยู่ใน จ.สมุทรสาคร ซึ่งศูนย์ฯ แห่งนี้จะเป็นการร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานสาธารณสุข โรงพยาบาลสมุทรสาคร และมูลนิธิรักษ์ไทย ในการออกไปค้นหาผู้ต้องสงสัยว่าจะติดเชื้อวัณโรค แล้วนำเข้าสู่กระบวนการตรวจหาเชื้อด้วยเทคนิคอณูชีววิทยาที่ประสิทธิภาพสูงและมีความไวหรือความจำเพาะต่อการตรวจค้นหาเชื้อที่สูงกว่าแบบเดิมแม้จะมีเชื้ออยู่เพียงเล็กน้อย และเมื่อหากลุ่มผู้ติดเชื้อได้แล้ว ก็จะนำเข้าสู่ระบบการรักษา ทำให้สามารถควบคุมการกระจายเชื้อโรคได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้การควบคุมวัณโรคในกลุ่มแรงงานต่างด้าวทำได้ดีขึ้น สะดวกขึ้น มีการวางแผนการทำงานที่เป็นระบบ เป็นขั้นตอน มีการลงพื้นที่ค้นหาเชิงรุก มีการตั้งทีมเฝ้าระวังสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว และยังมีการติดตามผลอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
ขณะที่ นพ.ศุภฤทธิ์ เฮงคราวิทย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร บอกว่า ปัจจุบันนี้เราไม่มีทางรู้เลยว่าต้องใกล้ชิดกับผู้ป่วยวัณโรคมากแค่ไหน เพราะหลายคนเป็นแบบไม่รู้ตัว ซึ่งการค้นหาผู้ป่วยด้วยเทคนิคอณูชีววิทยาจะช่วยให้พบผู้ป่วยได้ตั้งแต่ระยะซ่อนเร้น หรือเป็นตั้งแต่เริ่มต้น จากนั้นก็จะเข้าสู่การรักษาที่รวดเร็ว ตามสโลแกน ค้นให้พบ จบด้วยหาย สุดท้ายกลายเป็นศูนย์
ส่วนนายพร้อมบุญ พานิชภักดิ์ เลขาธิการมูลนิธิรักษ์ไทย กล่าวด้วยว่า ความร่วมมือการดำเนินงานศูนย์ปฏิบัติการค้นหาผู้ป่วยวัณโรคในประชากรข้ามชาติโดยใช้เทคนิคอณูชีววิทยาที่ จ.สมุทรสาคร นี้ นับเป็นการดำเนินงานนำร่อง หรือแห่งแรกในประเทศไทย เนื่องด้วยสมุทรสาครเป็นจังหวัดที่มีประชากรแรงงานข้ามชาติอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ หากการดำเนินงานที่สมุทรสาครประสบผลสำเร็จบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ก็จะมีการขยายผลไปยังจังหวัดอื่น ๆ ต่อไป
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ