“จอมขวัญ” อภิปรายในสภา หนุนร่างแก้ไขกฎหมาย ช่วยพี่น้องชาวประมง

“จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ” อภิปรายในสภา สนับสนุนร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.การประมง ปี 58 ทั้ง 7 ร่าง หลังพี่น้องชาวประมงร้องขอให้ช่วยผลักดัน แก้ปัญหาเดือดร้อน แต่สุดท้ายสภาล่ม ส.ส. แสดงตน 93 คน ไม่ครบองค์ประชุม

เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 9 ก.พ. 66 ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง เป็นพิเศษ ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. …. ในวาระที่หนึ่ง ขั้นรับหลักการ ซึ่งมี นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยมี ส.ส. จากหลายพรรคทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านร่วมอภิปราย หนึ่งในนั้น น.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส. สมุทรสาคร เขต 3 ก็ได้อภิปรายสนับสนุนร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. … ทั้ง 7 ร่าง

โดย น.ส.จอมขวัญ กล่าวว่า เนื่องจากจังหวัดสมุทรสาครเป็นจังหวัดที่มีอุตสาหกรรมมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศ อุตสาหกรรมหลักคืออุตสาหกรรมอาหารทะเลแปรรูปที่มีมากกว่า 5 พันโรงงาน ธุรกิจอาหารทะเลนี้ก็เกี่ยวข้องโดยตรงกับอาชีพประมง ซึ่งมีทั้งประมงพาณิชย์และประมงพื้นบ้านชายฝั่งทะเล พี่น้องชาวประมงกลับประสบปัญหาความเดือดร้อน เผชิญวิกฤตปัญหาการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด และในปัจจุบันนี้การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวประมงก็ยังไม่คืบหน้า จากที่สมาคมประมงแห่งประเทศไทย และสมาคมการประมงสมุทรสาคร รวมทั้งเครือข่ายพี่น้องชาวประมง 22 จังหวัด ได้เข้ายื่นหนังสือต่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตั้งแต่ปี 2562 จนถึงปัจจุบันปี 2566 ปัญหาก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข พี่น้องชาวประมงก็ได้รับความเดือดร้อนอยู่เช่นเดิม

เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 66 ตนได้รับการประสานงานจากนายมงคล มงคลตรีลักษณ์ นายกสมาคมการประมงสมุทรสาคร ขอให้ตนเข้าประชุมและรับหลักการร่างกฎหมายประมงด้วย ตนจึงได้ตอบไปว่ายินดีและเต็มใจเป็นอย่างยิ่ง ดังที่ประธานสภาฯ ได้กล่าวว่า การมาประชุมไม่ใช่ความดี แต่เป็นการทำหน้าที่ ส.ส. ซึ่งในช่วงเช้าวันนี้พี่น้องชาวประมงและเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหากฎหมายประมง ก็ได้มาที่หน้ารัฐสภาและตนก็เข้าไปพูดคุย ก็ได้รับปากมาว่าวันนี้ตนจะอยู่ร่วมเป็นองค์ประชุม และก็จะรับหลักการกฎหมายประมงด้วย เพื่อแก้ปัญหาให้กับพี่น้องชาวประมงที่จะได้สามารถประกอบอาชีพได้ อาชีพประมงจะได้ไม่เลือนหายไป ก็ขอฝากเพื่อน ๆ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกท่าน ทุกพรรค ได้ให้ความสำคัญ เห็นใจพี่น้องชาวประมง ช่วยกันรับหลักการร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวด้วย

หลังจากที่ที่ประชุมได้อภิปรายแล้วเสร็จเมื่อเวลาประมาณ 18.10 น. นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานการประชุมได้สั่งให้ตรวจสอบองค์ประชุม พบว่ามีปัญหาต่อองค์ประชุม มีสมาชิกมาแสดงตนเพียง 89 คน รวมกับขานชื่ออีก 4 คนเป็น 93 คน ซึ่งไม่ถึงกึ่งหนึ่งขององค์ประชุมคือ 210 คน จากจำนวน ส.ส. 420 คน จากนั้นประธานฯ ได้สั่งปิดการประชุมโดยไม่มีการลงมติ

ก่อนหน้านี้ในช่วงเช้าวันเดียวกัน น.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส. สมุทรสาคร เขต 3 เปิดเผยว่า ได้พบปะพูดคุยกับพี่น้องชาวประมงจากสมาคมการประมงสมุทรสาคร และเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากกฎหมายประมง 22 จังหวัดทั่วประเทศ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาการจับสัตว์น้ำ ปัญหาแรงงาน ปัญหาความไม่ชัดเจนของกฎหมาย ปัญหาข้อกฎหมายประมงที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติมต้องแบกรับโทษสูงเกินไปจนขาดความเป็นธรรม ทั้งเรือประมงพาณิชย์ และเรือประมงพื้นบ้าน ส่งผลกระทบให้อาชีพประมงสูญเสียรายได้ จึงเดินทางมาเรียกร้องให้การพิจารณาร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. … ที่ได้รับการบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมในวันดังกล่าว

น.ส.จอมขวัญ จึงได้ประสานกับนายอรรถกร ศิริลัทยากร เลขาวิปพรรคร่วมรัฐบาล จากนั้นได้พูดคุยชี้แจงให้พี่น้องชาวประมงรับทราบว่าการประชุมวิปพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 66 พรรคร่วมรัฐบาลมีมติรับหลักการ และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 25 คน สัดส่วน ครม. 5 คน ส.ส. 20 คน เพื่อพิจารณาร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว สำหรับการประชุมสภาฯ จะมี ส.ส. เข้าร่วมครบองค์ประชุม และสามารถลงมติได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับสำนึกรับผิดชอบในหน้าที่ของ ส.ส. ทุกคนทุกพรรค ส่วนตนเองจะเข้าร่วมประชุม และจะลงมติรับหลักการแน่นอน

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *