พระอาจารย์อุเทน สิริสาโร เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ เมตตาอุปการะช้างพลายบุญชูจาก อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง หลังเจ้าของเดิมตัดใจประกาศขาย 1 ล้านบาท เพราะดูแลต่อไปไม่ได้ แม้จะผูกพันมานานกว่า 20 ปี ย้ายจากลำปางมาอยู่บ้านใหม่ที่สมุทรสาคร
เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 66 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดท่าไม้ หมู่ 11 ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร หลังจากที่พระญาณวิกรม หรือ พระอาจารย์อุเทน สิริสาโร เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ พร้อมคณะได้เดินทางไปรับช้างพลายบุญชูจาก อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง มาอุปการะเลี้ยงดูไว้ที่วัดท่าไม้ พร้อมกับนายดิฐพงศ์ ท้าวคว้าง หรือพี่ยศ อายุ 45 ปี เจ้าของพลายบุญชู โดยเดินทางมาถึงวัดเมื่อเวลา 21.00 น. วานนี้ (6 ก.ย.) เบื้องต้นเจ้าอาวาสวัดท่าไม้ได้นำพลายบุญชูมาพักผ่อนอารมณ์ที่บริเวณลานธรรมเขาวงกต เพื่อให้ได้อยู่กับต้นไม้ใบหญ้า มีความร่มรื่นสภาพคล้ายคลึงกับป่าที่เคยอาศัยอยู่ โดยมีพี่ยศนั่งดูแลอยู่ไม่ห่างมากนัก
เนื่องด้วยนายดิฐพงศ์ ท้าวคว้าง หรือพี่ยศ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บ้านปงแท่น หมู่ 1 ต.จางเหนือ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ได้ประกาศขายช้างพลายบุญชู อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นช้างงาเดียว ในราคา 1 ล้านบาท ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งพลายบุญชูเคยเป็นช้างชักลากทำไม้มาก่อน หลังรัฐบาลประกาศปิดป่าไม่สามารถทำไม้ได้ จึงนำออกทัวร์รับบริการจ้างนักท่องเที่ยวตามปางช้างและสถานที่ท่องเที่ยวทั้งในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย กระทั่งเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำจากโควิด-19 ระบาด ไม่มีนักท่องเที่ยว จึงไม่มีรายได้ และนำกลับมาเลี้ยงดูที่บ้าน จ.ลำปาง แต่ไม่สามารถดูแลต่อไปได้ สุดท้ายจึงประกาศขายดังกล่าว แม้จะเสียดายเพราะมีความผูกพันที่อยู่ด้วยกันมากว่า 20 ปี
กระทั่งจนกลายเป็นประเด็นที่คนให้ความสนใจ และมีผู้ใจบุญติดต่อขอรับซื้อพลายบุญชู เพื่อนำมาอุปการะเลี้ยงดูต่อจากพี่ยศ ซึ่งก็คือพระญาณวิกรม หรือ พระอาจารย์อุเทน สิริสาโร เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ จ.สมุทรสาคร โดยพระญาณวิกรม ได้เดินทางจาก จ.สมุทรสาคร ไปรับพลายบุญชูมาที่วัดด้วยตนเอง โดยมีพี่ยศ เจ้าของเดิมตามมาส่ง และอยู่เป็นเพื่อนพลายบุญชูด้วยในระยะหนึ่งจนกว่าจะคุ้นถิ่น จึงจะเดินทางกลับไปที่ จ.ลำปาง
สำหรับสภาพของช้างพลายบุญชูที่ย้ายมาอยู่ที่แห่งใหม่ในวันแรกนั้นอยู่ในอาการปกติ ไม่มีตื่นตกใจแต่อย่างใด ไม่ตื่นคน ไม่หงุดหงิด กินได้นอนหลับตามปกติ เดินเล่นไปมา อารมณ์ดี พอมีคนมาให้อาหารก็กินอย่างเอร็ดอร่อย สร้างความสบายใจต่อเจ้าอาวาสวัดท่าไม้ ผู้ที่รับมาอุปการะเลี้ยงดู รวมถึงพี่ยศ เจ้าของเดิม ตลอดจนผู้ที่มาเยี่ยมชมพลายบุญชูที่วัดท่าไม้
นายดิฐพงศ์ ท้าวคว้าง หรือพี่ยศ เจ้าของเดิมของพลายบุญชู บอกว่า หลังจากที่เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ เป็นผู้ขอรับซื้อเพื่ออุปการะเลี้ยงดูพลายบุญชูต่อจากตนนั้น ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้เจ้าของใหม่ที่มีจิตใจเมตตาต่อสัตว์อย่างแท้จริง และจะได้กินอิ่มกินเต็มมีที่อยู่ที่ดีมากกว่าตอนที่อยู่กับตน ประกอบกับเมื่อมาถึงวัดท่าไม้แล้ว ได้เห็นทั้งสภาพของวัด รวมถึงความเอาใจใส่ของเจ้าอาวาส และผู้ที่รับหน้าที่ดูแลหาอาหารให้พลายบุญชูนั้น ก็ยิ่งมั่นใจเป็นอย่างมากว่าพลายบุญชูจะต้องมีความสุขอย่างแน่นอน สำหรับผู้ที่ต้องการจะมาเยี่ยมชมพลายบุญชูก็สามารถมาหาได้ที่วัดท่าไม้ ส่วนอาหารที่พลายบุญชูชอบ ก็จะเป็นผลไม้หลากหลายชนิดทั้ง กล้วย อ้อย สับปะรด และแตงโม แต่สิ่งที่ทำให้พลายบุญชูมักจะเกิดความตกใจได้ง่ายก็คือเสียงดังจากรถยนต์
ทางด้านพระวัดท่าไม้ บอกว่า เหตุที่เจ้าอาวาสวัดรับพลายบุญชูมาอุปการะนั้น มาจากความเมตตาและความสงสารเป็นสำคัญ แต่อีกส่วนหนึ่งท่านยังเห็นว่าพลายบุญชูเป็นช้างที่มีลักษณะบางประการที่ดีและเด่นตรงตามตำราอีกด้วย ขณะที่ขั้นตอนของการดำเนินการเพื่อพาพลายบุญชูมาที่วัดท่าไม้แห่งนี้ ก็ได้ทำทุกอย่างตามกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งทำเรื่องแจ้งทางอำเภอ ปศุสัตว์ เพื่อเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองเจ้าของช้าง และมีการตรวจสุขภาพของช้างก่อนออกเดินทาง พอมาถึงที่วัดท่าไม้ ก็ได้แจ้งให้ปศุสัตว์จังหวัดรับทราบแล้ว คงเหลือให้ทางเจ้าหน้าที่ฯ เข้ามาตรวจสุขภาพช้างอีกครั้งหนึ่ง ส่วนบริเวณที่อยู่ใหม่ของพลายบุญชูนั้น ท่านเจ้าอาวาสได้สั่งให้มีการสร้างที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันกับตรงที่เลี้ยง วัว ควาย และกระทิง แต่ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการสร้างที่อยู่ใหม่ คาดว่าอีกไม่กี่วันก็จะแล้วเสร็จ พลายบุญชูก็จะได้บ้านหลังใหม่เป็นที่อยู่ของตัวเองภายในวัดท่าไม้ต่อไป
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ