รอง ผบ.ทรภ. 1 ตรวจศูนย์ PIPO – สะพานปลาสมุทรสาคร หลังถูกร้องเรียนเรื่องรับส่วย

กองทัพเรือ โดย ทรภ. 1 และ ศรชล.เขต 1 ลงพื้นที่ตรวจศูนย์ PIPO สมุทรสาคร หลังมีข่าว จนท. ภายในศูนย์ฯ เรียกรับส่วยเรือประมงผิดกฎหมาย เพื่อเลี่ยงตรวจสอบ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 เม.ย. 2560 พล.ร.ต.เดชดล ภู่สาระ รองผู้บัญชาการ ทัพเรือภาคที่ 1 (ทรภ.1) และรองผู้อำนวยการ ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต 1 (ศรชล.เขต 1) พร้อมคณะ ได้รับมอบหมายจาก พล.ร.ท.สุรศักดิ์ เมธยาภา ผบ.ทร.ภ.1 และ ผอ.ศรชล.เขต 1 ให้เข้าตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า – ออกเรือประมง (PIPO) สมุทรสาคร

พร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำสั่งของกองทัพเรือ ในนามของ ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) กรณีที่มีสื่อนำเสนอข่าวว่ามีเรือประมงแฉเจ้าหน้าที่รับส่วยจับปลาผิดกฎหมาย โดยอ้างว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐภายในศูนย์ PIPO ระบุขนาดเรือให้ต่ำกว่า 30 ตันกรอส ซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริง ทำให้เรือประมงดังกล่าวถูกจัดเป็นเรือขนาดเล็กที่ไม่ต้องแจ้งเข้า – ออก ต่อศูนย์ฯ เป็นการหลีกเลี่ยงกระบวนการตรวจสอบ และมีการร้องขอให้ตรวจวัดขนาดเรือใหม่เพื่อให้ตรงกับสภาพความเป็นจริง

ในการติดตามข้อมูลครั้งนี้ ได้มีการพบกับตัวแทนของเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ PIPO ที่บูรณาการความร่วมมือกันจากหน่วยงานต่างๆ 8 หน่วยงาน โดยได้มีการรับฟังผลการปฏิบัติงาน สภาพปัญหาที่เกิดขึ้นจากการตรวจวัดขนาดเรือใหม่ และให้ข้อแนะนำแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เพื่อปรับแนวทางการทำงานให้มีความละเอียด รอบคอบ และรัดกุมมากยิ่งขึ้น

หลังจากการรับฟังข้อมูลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รอง ผบ.ทร.ภ.1 พร้อมคณะ ยังได้ลงไปดูการปฏิบัติงานจริงในการตรวจวัดขนาดเรือประมงใหม่ทุกลำ ณ องค์การสะพานปลาจังหวัดสมุทรสาคร อีกด้วย โดยในส่วนของ จ.สมุทรสาครนั้น พบว่ามีเรือที่ต้องตรวจวัดขนาด และทำอัตลักษณ์ทั้งหมด 580 ลำ เป็นเรือที่มีใบอนุญาตทำการประมง 482 ลำ เรือที่มีทะเบียนแต่ไม่มีใบอนุญาตทำการประมง 73 ลำ เรือที่ถูกถอนทะเบียนเรือ 7 ลำ และ เรือขนถ่ายสัตว์น้ำ 18 ลำ

ซึ่งผลจากการตรวจวัดขนาดเรือ ตั้งแต่วันที่ 17 – 20 เม.ย. 2560 มีเรือที่มาแจ้งตรวจวัดขนาดและทำอัตลักษณ์ จำนวน 182 ลำ ได้มีการตรวจวัดขนาดเรือไปแล้ว 98 ลำ เรือที่ขนาดเปลี่ยนแปลงเกิน 10% จำนวน 4 ลำ และเรือขนถ่ายสัตว์น้ำ 1 ลำ ส่วนปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานตรวจวัดขนาดเรือใหม่ให้ครอบคลุม 100 % คือ วิธีการวัดขนาดเรือ การนัดหมายเรือ เครื่องมือ กับเจ้าหน้าที่ ในการปฏิบัติงานไม่เพียงพอ และการรายงานตามห้วงเวลาที่กำหนด

ขณะที่ในส่วนของการร้องเรียนจากชาวประมง เกี่ยวกับการตรวจวัดขนาดเรือจะเป็นเรื่องของการจอดเรือ ซึ่งถ้าพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงขนาดเรือเกิน 10% นั้น จะต้องถูกจอดเรืออย่างไม่มีกำหนด ทำให้ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้ออกไปจับปลาอีก ดังนั้นจึงต้องการให้มีความชัดเจนในข้อกำหนดดังกล่าวว่า หากแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ตรงกับขนาดความเป็นจริงแล้วจะสามารถออกเรือได้อีกภายในกี่วัน รวมถึงเรื่องของการนำเรือมาจอดเพื่อรอการตรวจที่อาจจะนานเกินไป เนื่องจากเรือส่วนใหญ่ที่ได้รับการนัดหมายในวันเดียวกันก็จะเข้ามาจอดพร้อมๆ กัน โดยไม่มาตามที่เวลาที่ให้ไว้

ด้าน รอง ผบ.ทร.ภ.1 กล่าวว่า จากการนำคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์ PIPO สมุทรสาคร และติดตามความคืบหน้าการตรวจวัดขนาดเรือ ที่องค์การสะพานปลาจังหวัดสมุทรสาครนั้น เป็นการดำเนินงานตามนโยบาย หลังรัฐบาลประกาศให้เรือประมงขนาดเกิน 10 ตันกรอสขึ้นไป ทำการวัดขนาดเรือเพื่อลงทะเบียนใหม่ให้ถูกต้อง ซึ่งถ้าเรือลำใดไม่ผ่านการตรวจวัด เจ้าของเรือจะต้องให้กรมเจ้าท่าดำเนินการแก้ไขขนาดเรือ และแก้ไขทะเบียนเรือใหม่ให้ถูกต้องกับความเป็นจริงก่อน จึงจะนำเรือออกทำการประมงได้ตามปกติ

โดยการดำเนินการครั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้เรือประมงไทยปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมด จึงขอฝากชาวประมงให้ช่วยกันปฏิบัติตาม เพื่อปลดล๊อคใบเหลืองจาก EU ตามกฎ IUU Fishing เพื่อผลประ โยชน์ของชาวประมงเองและประเทศชาติในการส่งออกสินค้าประมงได้มากขึ้น ซึ่งทาง ศปมผ.โดยเฉพาะ ศรชล. เขต 1 ได้ดำเนินการอย่างถูกต้องยุติธรรมโดยเท่าเทียมกัน

รอง ผบ.ทร.ภ.1 กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนในกรณีที่มีการร้องเรียนว่ามีการจ่ายส่วยหรือสินบนให้เจ้าหน้าที่ ศปมผ. นั้น สามารถตรวจสอบได้ว่ามีจริงหรือไม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่จากข้อมูลที่ได้มาในขณะนี้ ยังไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่ในศูนย์ PIPO เรียกรับเงินหรือสินบนจากชาวประมงในการสนับสนุนให้ทำผิดกฏหมายตามที่เป็นข่าวออกมา อย่างไรก็ตามหากมีการตรวจพบว่ามีการกระทำผิดดังกล่าวจริง ก็จะมีการลงโทษตามกฏหมายอย่างเฉียบขาดต่อไป

สาครออนไลน์ โดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *