เริ่มแล้วอย่างยิ่งใหญ่! งานปิดทอง ขอพรหลวงพ่อโตวัดหลักสี่ฯ ถึง 4 เม.ย. นี้

เปิดงานอย่างยิ่งใหญ่! งานประจำปีปิดทองขอพรหลวงพ่อโต วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร จ.สมุทรสาคร ระหว่าง 27 มี.ค. – 4 เม.ย. 67 ชาวบ้านแพ้ว-คลองดำเนินสะดวก ร่วมถวายกระเช้าผลไม้นับพัน จัดขบวนเรือนับร้อยร่วมแห่หลวงพ่อโตวัดหลักสี่ฯ ทางน้ำ ผ่าน 3 จังหวัด

เมื่อเวลา 05.29 น. วันที่ 27 มี.ค. 2567 ที่วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร ต.ยกกระบัตร อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ได้มีการจัดพิธีเปิดงานประจำปีปิดทองขอพรหลวงพ่อโต วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร ระหว่างวันที่ 27 มี.ค. – 4 เม.ย. 2567 โดยมีพระพรหมกวี กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค 3 เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร เป็นประธานสงฆ์ ร่วมด้วยพระธรรมวชิรานุวัตร เจ้าคณะภาค 14 เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง พระเทพสาครมุนี ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 14 เจ้าอาวาสวัดเจษฎาราม พระอารามหลวง พระมงคลพัฒนาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร เจ้าอาวาสวัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร และคณะพระสังฆาธิการ

ส่วนฝ่ายฆราวาสมี นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานฯ ร่วมด้วย นายวรณัฎฐ์ หนูรอต และนายชัยวัฒน์ ตุนทกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร นายพิรุณโรจน์ นาคดนตรี นายอำเภอบ้านแพ้ว นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายก อบจ.สมุทรสาคร หัวหน้าส่วนราชการ และคณะศิษยานุศิษย์จำนวนมากของหลวงพ่อโต วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร ที่ได้มาร่วมในพิธีเปิดงานด้วยการตัดริบบิ้นปล่อยผ้าแพรงานประเพณี พร้อมปล่อยลูกโป่งสวรรค์ และในโอกาสนี้หากใครที่เก็บผ้าเปิดงานผืนนี้ได้ ให้นำมารับหลวงพ่อโตบูชา ขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว 1 องค์

ขณะที่ชาวสวนอำเภอบ้านแพ้ว และชาวคลองดำเนินสะดวก ก็ได้นำกระเช้าหรือตะกร้าใส่ผลไม้หลากหลายนานาชนิดนับพันตะกร้า และประทัดนับแสนนัด มาถวายแด่องค์หลวงพ่อโต ตามความเชื่อและความศรัทธาของชาวสวนบ้านแพ้ว รวมถึงผู้ที่พักอาศัยหรือทำมาหากินกับสายน้ำคลองดำเนินสะดวก ซึ่งเชื่อกันว่า หลวงพ่อโต วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร เป็นเทพเจ้าแห่งสายน้ำคลองดำเนินสะดวก เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยดูแลปกปักรักษาทุกคน อีกทั้งยังทำให้ชาวสวนบ้านแพ้วประกอบอาชีพทางการเกษตรได้อย่างราบรื่นและมีผลผลิตที่ดีเสมอมา

จากนั้นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย ประธานฝ่ายฆราวาส และผู้เข้าร่วมพิธี ยังได้ร่วมกันตัดริบบิ้นเปิดป้าย งานเกษตรและของดีอำเภอบ้านแพ้ว ประจำปี 2567 ซึ่งได้จัดขึ้นภายในงานปิดทองขอพรหลวงพ่อโตฯ เพื่อเป็นการเผยแพร่ชื่อเสียงของอำเภอบ้านแพ้ว และเพื่อเป็นการแสดงศักยภาพทางด้านพืชผลการเกษตรและของดีของอำเภอให้เป็นที่รู้จักแก่ประชาชนทั่วไป อาทิ มะพร้าวน้ำหอม องุ่น ชมพู่ ฝรั่ง มะม่วง มะนาว ลำไย กล้วยไม้ น้ำตาลจากมะพร้าว  ปลาสลิด และ สินค้าโอทอปแปรรูป เป็นต้น

ขณะที่ในเวลา 08.09 น.ของวันเดียวกัน พระมงคลพัฒนาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร เจ้าอาวาสวัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร ก็ได้ทำพิธีอัญเชิญองค์หลวงพ่อโต (จำลอง) ลงประทับในขบวนเรือแห่ทางน้ำที่ประดับตกแต่งอย่างยิ่งใหญ่และสวยงามอย่างเช่นทุกปีที่ผ่านมา โดยมีศิษยานุศิษย์จากทั่วสารทิศ นำเรือกว่าร้อยลำมาร่วมในขบวนแห่ไปตามคลองดำเนินสะดวกตลอดสาย ซึ่งมีความยาวผ่าน 3 จังหวัด คือ จังหวัดสมุทรสาคร ราชบุรี และสมุทรสงคราม

สำหรับหลวงพ่อโต วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสรนั้น เป็นพระพุทธรูปโบราณสมัยอู่ทองเนื้อหินทรายแดงฉาบปูน ปางมารวิชัย มีพระพักตร์เอิบอิ่มยิ้มละไม หน้าตักกว้าง 81 นิ้ว สูง 99 นิ้ว เมื่อปี พ.ศ.2470 หลวงพ่อแฟง เจ้าอาวาสวัดหลักสี่ราษฎร์สโมสรในขณะนั้น ได้อัญเชิญพระพุทธรูปโบราณมาประดิษฐานในวิหารหลังคามุงจากหน้าวัดหลักสี่ฯ บริเวณริมคลองดำเนินสะดวก ชาวบ้านเห็นว่าเป็นพระพุทธรูปองค์แรก และองค์โตที่สุดในลุ่มน้ำคลองดำเนินสะดวก จึงพากันขนานนามว่าหลวงพ่อโต วัดหลักสี่ฯ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ด้านความเชื่อนั้น  ในสมัยก่อนพ่อค้าแม่ค้าแม่ค้าล่องเรือบรรทุกผักผลไม้เต็มลำเรือผ่านหน้าวิหาร ก็ไม่ลืมที่จะพนมมือเหนือหัวขอพรให้ขายของดี ๆ แล้วตักน้ำคลองบริเวณหน้าวิหารไปทำน้ำมนต์พรมไปบนสินค้าในเรือ พืชผักในเรือก็ขายดีอย่างเหลือเชื่อมีเท่าไหร่ก็ขายหมด พอขากลับก็ไม่ลืมที่จะซื้อ ผลไม้ พวงมาลัยมาถวายและที่ขาดไม่ได้คือประทัดจุดกันดังสนั่นหวั่นไหว ส่วนผู้ที่ทำสวนก็จะมากราบไหว้ขอหลวงพ่อโตให้พืชผลทางการเกษตรได้ผลดีเช่นกัน ความศักดิ์ของหลวงหลวงพ่อโตแผ่ไพศาลไปไกล จนมีประชาชนเดินทางมากราบไหว้ขอพรและปิดทองจนองค์หลวงพ่อหนานุ่มเป็นสีทองเหลืองอร่ามไปทั้งองค์

ทั้งนี้ พอถึงวันแรม 3 ค่ำ เดือน 4 ของทุกปี ทางวัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร จึงได้มีการจัดงานประจำปีปิดทองหลวงพ่อโตขึ้น ซึ่งก็มีชาวบ้านนำผลไม้ที่เป็นพืชผลทางการเกษตรใส่ตะกร้ามาถวายกันอย่างล้นหลามมากขึ้นในทุก ๆปี และที่ขาดไม่ได้คือ การจัดขบวนเรือแห่หลวงพ่อโตในคลองดำเดินสะดวกอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อให้ชาวบ้านทั้งสองฝั่งคลองดำเนินสะดวกได้กราบไหว้สักการะบูชา

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *