
ตำรวจนำตัวหนุ่มใหญ่วัย 52 ปี มือยิงดับหนุ่มวัย 43 ปี ช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ ทำแผนฯ ในที่เกิดเหตุย่านอ้อมน้อย สมุทรสาคร หลังก่อเหตุหลบหนีซุกตัวในป่าที่ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี แต่อยู่ไม่ถึงวันถูกตามรวบตัวไว้ได้ รับสิ้นไส้ปมหึงโหด อ้างแฟนมีสัมพันธ์กับผู้ตายทั้งที่ยังไม่เลิกกัน ด้านหัวอกพ่อ-แม่ผู้ตายแทบขาดใจ เสียเสาหลักครอบครัว
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 ต.ค. 2567 พ.ต.อ.ธีระเดช อธิภัคกุล รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พร้อมด้วย พ.ต.อ.สร ซื่อตรงพานิช ผกก.สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายนพดล ดวงเดือน อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ประกบยิงนายขวัญชัย น้อยเจริญ อายุ 43 ปี ช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ ที่กำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน พร้อมกับมีหญิงสาวซ้อนท้ายมาด้วย นายขวัญชัยถูกยิง 3 นัด เสียชีวิตบริเวณทางสามแพร่งชุมชนบ้านแถว 1 ภายในซอยเพชรเกษม 97 หมู่ 4 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 00.30 น.ของวันที่ 24 ต.ค. ที่ผ่านมา หลังก่อเหตุนายนพดล ได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฯ สืบสวนจนกระทั่งทราบว่าผู้ต้องหาเดินทางหลบหนีด้วยรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าแจ๊ส สีขาว ทะเบียน ฎส 1045 กรุงเทพมหานคร เข้าไปกบดานอยู่ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี จึงร่วมกันติดตามจับกุมตัวไว้ได้ที่บริเวณชายป่าบ้านดงพง หมู่ 5 ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลา 17.40 น. ของวันเดียวกัน รวมถึงตรวจยึดรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีขาวแดง ทะเบียน 1 กฆ 5324 นครปฐม ซึ่งเป็นยานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุได้ที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 3 ต.กระทุ่มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม


นายนพดล ดวงเดือน อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนเองกับผู้ตายรู้จักกัน โดยตนอยู่กินกับหญิงสาวที่ผู้ตายพาซ้อนท้ายมาวันเกิดเหตุ ซึ่งก็อยู่ด้วยกันมานานนับปีแล้ว ต่อมาทั้ง 2 คนเริ่มมีพฤติกรรมแปลก ๆ ตนเคยถามว่าทั้งสองคนมีอะไรกันหรือไม่ แต่ก็ได้รับคำตอบว่าไม่มีอะไรกัน อีกทั้งยังเคยถามผู้หญิงด้วย ว่าจะทิ้งตนไปนั้น ตนผิดอะไร ตนก็อายุมากแล้วไม่มีใคร และรักผู้หญิงคนนี้มาก แต่ก็ยังปฏิเสธเหมือนเดิมว่าไม่มีอะไรกัน ตนจึงพยายามตามจับผิดทั้งสองคน

จนถึงวันเกิดเหตุตนไปแอบดูก่อนจนเห็นว่าผู้ตายไปรับผู้หญิงนั่งซ้อนท้ายกันเข้ามาในซอย จึงขับรถจักรยานยนต์ตามมา พอช่วงใกล้จะถึงทางแยกก็ตะโกนเรียกผู้หญิงให้ลงจากรถมาหา ผู้ตายจึงจอดรถจักรยานยนต์ ส่วนผู้หญิงก็ก้าวลงจากรถไปยืนอยู่ด้านข้าง จากนั้นตนกับผู้ตายก็มีการตะโกนว่ากันอยู่ 2-3 ประโยค ก่อนที่ผู้ตายจะเดินลงจากรถแล้วทำท่าเหมือนจะปรี่เข้ามาหาตนพร้อมกับอาวุธมีดในมือ ตนจึงชักอาวุธปืนที่ถือพกติดตัวมายิงไปที่ผู้ตายหลายนัด ทำให้ผู้ตายล้มลงพร้อมกับรถจักรยานยนต์เสียชีวิตทันที ซึ่งหลังก่อเหตุตนได้รีบขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ส่วนผู้หญิงก็ยังยืนตกใจอยู่ตรงที่เกิดเหตุ ขณะที่สาเหตุนั้น ตนยอมรับว่ามาจากความหึงหวงเพราะตนรักผู้หญิง และก็ยังไม่เลิกกัน แล้วจะมาทิ้งกันด้วยเหตุผลอะไร

ทางด้าน พ.ต.อ.ธีระเดช อธิภัคกุล รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร รรท.ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร เปิดเผยว่า เหตุดังกล่าวนับเป็นเหตุอาชญากรรมที่สำคัญ ซึ่งผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้เร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาให้ได้โดยเร็วที่สุด โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการกระจายกำลังกันติดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี และได้สนธิกำลังร่วมกับตำรวจในพื้นที่อื่น จนกระทั่งทราบว่าหลังก่อเหตุคนร้ายขับรถจักรยานยนต์กลับไปที่พัก แล้วเปลี่ยนเป็นรถยนต์ขับหลบหนีไปที่ จ.กาญจนบุรี เพื่อที่จะไปแอบซ่อนตัวอยู่ในป่าหนีการจับกุม แต่สุดท้ายก็ถูกควบคุมตัวไว้ได้ โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาก็ให้การตามที่บอกกล่าวไปแล้วว่ามาจากความหึงหวง

ทั้งนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจฯ นำตัวผู้ต้องหาทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้ว ก็ได้ให้ผู้ต้องหาเข้าไปไหว้ขอขมากับทางพ่อแม่ของผู้เสียชีวิตด้วย ซึ่งพ่อที่แก่ชราและเป็นอัมพฤกษเดินไม่ค่อยได้ กับแม่ที่อายุมากแล้วต่างก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะมีลูกชายเพียงคนเดียว เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงและเป็นคนที่คอยอุ้มพ่อเข้านอน โดยเมื่อเสียลูกชายไปก็ไม่มีใครจะคอยดูแลคนแก่ทั้งสองอีกแล้ว จากนั้นได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เพื่อดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์และไม่มีเหตุอันสมควร ต่อไป
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ