รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เผยมอบหมายยุติธรรมจังหวัดสมุทรสาคร ช่วยเหลือสาวเจ้าของร้านชำ ในซอยประกันสังคมเก่า หลังถูกชายฉกรรจ์ 4 คน ทำร้ายลูกค้าที่นั่งดื่มสุราหน้าร้าน และบุกเข้าไปในบ้านโดยใช้ปืนปลอมข่มขู่ ด้านคดีจับกุมผู้ก่อเหตุพร้อมน้องชาย ส่วนอีก 2 คนยังหลบหนี
เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า กระทรวงยุติธรรม ได้ให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายกรณีชายฉกรรจ์ยกพวกรุมทำร้ายร่างกายในร้านขายของชำที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยมอบหมายให้ยุติธรรมจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วยพนักงานคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพและนิติกร ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ น.ส.บุญรัตน์ กวางแก้ว ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายของชำที่เกิดเหตุ โดยให้คำแนะนำในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม และหลักเกณฑ์การฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนที่กำหนดไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 44/1 รวมทั้งแจ้งสิทธิผู้เสียหายในคดีอาญาให้แก่ผู้เสียหายที่โดนทำร้ายร่างกาย ทั้ง 3 คน ตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2559 ให้ได้ทราบ พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้ร้องทราบว่า หากมีการข่มขู่ ให้ผู้ร้องไปแจ้งความดำเนินคดีได้ ประกอบกับหากจะต้องไปเบิกความเป็นพยานในศาล ซึ่งหากผู้ร้องเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย สามารถยื่นเรื่องขอคุ้มครองพยานในคดีได้
นอกจากนี้ กระทรวงยุติธรรม ได้จัดทำแนวทางการช่วยเหลือผู้เสียหายหรือเหยื่อ ที่ได้รับผลกระทบจากอาชญากรรม ภายใต้กรอบแนวคิด “ยุติธรรมใส่ใจ (Justice Care)” เพื่อให้เกิดการบูรณาการการทำงานของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ และเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายและเหยื่อในระดับพื้นที่ ซึ่งเป็นผู้ด้อยโอกาสในสังคมให้ได้รับความช่วยเหลือด้วยความรวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมง โดยให้สำนักงานยุติธรรมจังหวัดเป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายหรือเหยื่อ ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวได้พัฒนามาจากหลักการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายหรือเหยื่ออาชญากรรมตามมาตรฐานสากล (Victim Scheme) โดยมุ่งเน้น 4 ด้านหลัก ได้แก่ การเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมและการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม การได้รับการชดใช้ความเสียหายโดยผู้กระทำผิด การได้รับการชดเชยความเสียหายโดยรัฐ และการให้ความช่วยเหลือเหยื่อด้านอื่นๆ
สำหรับผลการดำเนินงานในการให้ความช่วยเหลือประชาชน ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย. – 18 ธ.ค.61 ทั้งสิ้น 62 จังหวัด จำนวน 164 เรื่อง ได้แก่ 1.การขอรับความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา จำนวน 77 เรื่อง 2.การให้คำปรึกษากฎหมายแก่ประชาชน จำนวน 48 เรื่อง 3.การขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรม จำนวน 7 เรื่อง 4.การขอรับความช่วยเหลือในการคุ้มครองพยาน จำนวน 1 เรื่อง และ 5.การขอรับความช่วยเหลืออื่นๆ จำนวน 32 เรื่อง
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อค่ำวันที่ 8 ธ.ค. กลุ่มชายฉกรรจ์ขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ บุกเข้าไปที่หน้าร้านขายของชำเลขที่ 1092/113 ซอยเอกชัย 2 (ประกันสังคมเก่า) ถนนเอกชัย ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เข้ามามีปากเสียงกับชาย 3 คนที่นั่งดื่มสุราบริเวณม้าหินอ่อนหน้าร้าน ก่อนที่จะเข้ารุมทำร้าย และใช้อาวุธปืนข่มขู่ถึงภายในบ้าน ซึ่งมีทั้งผู้หญิงและคนชราต่างกรีดร้องด้วยความตกใจ ก่อนจะหลบหนีไป ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย คือ นายอริญชย์ สัญญารัตน์ อายุ 41 ปี อาการสาหัส นายแอม อ่างหิรัญ อายุ 38 ปี และ นายสมส่วน ส้มแก้ว อายุ 33 ปี กระทั่งมีการโพสต์วีดีโอคลิปจากกล้องวงจรปิดลงในโลกโซเชียล
ต่อมาตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร จับกุม นายเจตน์ หรือกุ๊ก เมฆสวัสดิ์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 1 ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ก่อนที่ต่อมาจะจับกุมนายภูษิต หรือ หน่อง เมฆสวัสดิ์ อายุ 41 ปี พี่ชาย ส่วนอีก 2 คนหลบหนีคดี คือ นายณัฐพงษ์ กปิญชรานนท์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86/27 หมู่ 7 ต.ท่าจีน และ นายบัญชา ไข่เพ็ชร อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/23 หมู่ 1 ต.ท่าจีน ส่วนสาเหตุเกิดจากนายภูษิต ไม่พอใจกลุ่มผู้เสียหายนั่งดื่มสุราแล้วชอบพูดคุยกันเสียงดังรบกวนเด็กอ่อนที่อยู่ในบ้านนายภูษิต พี่ชาย อีกทั้งพูดแซวแฟนสาวพี่ชายมานาน จึงเกิดบันดาลโทสะเรียกพรรคพวกเข้ามาก่อเหตุดังกล่าว โดยปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนอัดลม
ทั้งนี้ ตำรวจได้ตั้งข้อหานายเจตน์และนายภูษิต 4 ข้อหา คือ 1.ร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืนโดยใช้อาวุธโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไปจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ 2.ร่วมกันทำร้ายร่างกาย,ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ 3.ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนเข้าไปในเมืองหรือหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุอันสมควร และ 4.ร่วมกันข่มขู่ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว ขออำนาจศาลจังหวัดสมุทรสาครฝากขังโดยไม่อนุญาตให้ประกันตัว เพื่อรอสอบปากคำเพิ่มเติม
สาครออนไลน์ โดย กิตตินันท์ นาคทอง