“อภิสิทธิ์” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำทีมลุยสมุทรสาครช่วยหาเสียง 3 ผู้สมัคร ส.ส. ล่องเรือคลองภาษีเจริญพบประชาชนตลาดกระทุ่มแบน ชูนโยบายเพื่อสมุทรสาคร ทั้งเรื่องรถไฟฟ้า สายสีแดงถึงมหาชัย ขยายสายสีน้ำเงินถึงอ้อมน้อย พัฒนาขนส่งทางน้ำเข้ากรุงฯ พร้อมแก้ปัญหามลพิษ ราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ และแก้กฎหมายประมง
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (29 ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. สมุทรสาคร ประกอบด้วย นายกุลวัชร หงษ์คู ในเขตเลือกตั้งที่ 1, นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ในเขตเลือกตั้งที่ 2 และนายนิติรัฐ สุนทรวร ในเขตเลือกตั้งที่ 3 ลงพื้นที่พบปะประชาชน ต.ตลาดกระทุ่มแบน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
โดยมีแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ประกอบด้วย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคฯ นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคฯ ดูแลพื้นที่ภาคกลาง นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคฯ น.ต.สุธรรม ระหงษ ์ผู้อำนวยการพรรคฯ นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีต ส.ส. เขตดอนเมือง กทม. รวมทั้ง นายสุวิศว์ เมฆเสรีกุล อดีต ส.ว.สมุทรสาคร และกลุ่มผู้สนับสนุนร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้
เริ่มต้นที่นายอภิสิทธิ์และคณะ ได้นั่งเรือสัญจรทางคลองภาษีเจริญ ตรงข้ามหน้าที่ว่าการอำเภอกระทุ่มแบน เพื่อทักทายประชาชนริมสองฝั่งคลอง แล้วแวะกราบนมัสการศาลหลวงตาทองบริเวณตลาดกระทุ่มแบน จุดประทัด 999 นัดเพื่อเอาฤกษ์เอาชัย จากนั้นนายอภิสิทธิ์และคณะ ได้ขึ้นบนรถแห่หาเสียงไปรอบ ๆ ตลาดกระทุ่มแบน ก่อนจะเสร็จสิ้นภารกิจในการลงพื้นดังกล่าว
นายอภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า วันนี้ตนและคณะผู้บริหารของพรรคประชาธิปัตย์ได้เดินทางมาที่ จ.สมุทรสาคร พร้อมกับผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 3 เขต ที่จะเน้นการทำงานเป็นทีม เพื่อที่จะเอานโยบายต่าง ๆ มาผลักดันเพื่อประโยชน์ของชาวสมุทรสาคร ซึ่งตนอยากจะสรุปสั้น ๆ สัก 4 เรื่อง
ประการแรก คือการเร่งรัดนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งมวลชน อาทิ รถไฟฟ้าสายสีแดงจะต้องมาถึงมหาชัย ขยายโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินให้มาถึงอ้อมน้อย รวมทั้งการพัฒนาขนส่งทางน้ำคลองภาษีเจริญ เป็นช่องทางสำคัญให้ชาวสมุทรสาครเดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯ โดยไปต่อรถไฟฟ้าที่บางหว้า
ประการที่สอง คือการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการไม่มีระบบบำบัด หรือการบังคับใช้กฏหมายเกี่ยวกับการปล่อยน้ำเสียและมลพิษอื่น ๆ ทางพรรคฯ ยืนยันว่าเรื่องของสิ่งแวดล้อม วันนี้ต้องมีการเคร่งครัดในการบังคับใช้กฎหมาย หมดเวลาที่จะเกรงใจใคร จำเป็นที่จะต้องมีการทำเรื่องนี้ เพราะว่าวันนี้ประชาชนได้สัมผัสปัญหาที่เกิดขึ้นจากมลพิษและสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน และมีความตื่นตัวกันมาก
ประการที่สาม คือการแก้ปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ เช่น มะพร้าว จากปัญหาความผิดพลาดเชิงนโยบายในการบริหารจัดการเกี่ยวกับการนำเข้า ที่สำคัญสมุทรสาครมีศักยภาพในการที่จะมีตลาดกลาง มีสถานที่และอยู่ในจุดที่มีความเหมาะสมที่จะเป็นตลาด ที่จะทำให้เกษตรกรสามารถที่จะนำมาระบายหรือขายสินค้าในราคาที่ได้รับความเป็นธรรมและสูงขึ้น
ประการสุดท้าย คือปัญหาที่เกิดขึ้นกับภาคการประมงทั้งหมด จากการที่มีการตรากฎหมายออกมาในช่วง 2-3 ปีหลัง ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ปฏิบัติไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่เราสามารถที่จะแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องความยั่งยืนของการประมงและสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสากลได้ โดยไม่จำเป็นต้องตรากฎหมายในลักษณะนี้ ซึ่งทางพรรคได้ศึกษา และยืนยันว่าจะสามารถปรับปรุงแก้ไขกฎหมายต่าง ๆ เพื่อฟื้นอุตสาหกรรมประมง โดยไม่ไปละเมิดเรื่องของมาตรฐานสากลหรือข้อห่วงใยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับเรื่องของสิ่งแวดล้อมหรือการประมงที่ไม่มีการรายงาน หรือในเรื่องของการค้ามนุษย์ ปัญหาแรงงาน
ทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องหลัก ๆ ที่ถือว่าเป็นนโยบายที่สอดคล้องกับนโยบายระดับชาติของพรรคประชาธิปัตย์ “แก้จน สร้างคน สร้างชาติ” นอกจากนี้ ทางพรรคฯ ยังมีนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดิน ที่จะมีการกระจายอำนาจ และมีการเลือกผู้ว่าราชการจังหวัด ควบคู่ไปกับการให้หลายพื้นที่มีการบริหารจัดการในลักษณะพิเศษ ซึ่งปริมณฑลจะต้องทำงานเชื่อมโยงกับ กทม.
สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง