“หม่อมเต่า” นำทีม “รวมพลังประชาชาติไทย” ลงพื้นที่กระทุ่มแบน ชูนโยบาย “ปรับอำนาจสู่ท้องถิ่น”

“ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล” หัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย ลงพื้นที่กระทุ่มแบน หาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส. สมุทรสาคร พร้อมจัดปราศรัยใหญ่ ชูนโยบาย “ปรับอำนาจสู่ท้องถิ่น” ให้ประชาชนเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด วาระ 4 ปี เปลี่ยนให้ตำรวจขึ้นตรงต่อท้องถิ่น

เมื่อวันที่ 3 มี.ค. พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) นำโดย ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรคฯ ลงพื้นที่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เพื่อหาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส. สมุทรสาคร ทั้ง 3 เขต ประกอบด้วย นายสนธิญา สวัสดี เขต 1 นายกันต์กวี ทับสุวรรณ เขต 2 และ น.ส.วาสนา ทรัพย์ธำรงค์ เขต 3

โดยมี ส.ส. บัญชีรายชื่อของพรรค อาทิ น.ส.อนุสรี ทับสุวรรณ ผู้อำนวยการพรรคฯ นางสุเนตตา แซ่โก๊ะ กรรมการบริหารพรรคฯ น.ส.ชนิดาภา แก้วภราดัย รวมทั้งสมาชิกของพรรคฯ ร่วมลงพื้นที่ดังกล่าวด้วย

เริ่มต้นเมื่อเวลา 15.00 น. ม.ร.ว.จัตุมงคล และคณะ ได้เข้าสักการะศาลหลวงตาทองเพื่อความเป็นศิริมงคล ก่อนที่จะเดินแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส. รอบตลาดกระทุ่มแบน ตั้งแต่ ถ.เจริญสวัสดิ์ เข้าไปภายในตลาดสดเทศบาลเมืองกระทุ่มแบน และจุดสุดท้ายที่บริเวณ ถ.สุคนธวิท

จากนั้นเวลา 17.00 น. พรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้เปิดเวทีปราศัยบริเวณลานตลาดนัดซอยศาลหลวงตาทอง โดยมีประชาชนจำนวนหนึ่งให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟัง ซึ่ง ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรคฯ และบรรดาผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ สลับกันขึ้นเวทีปราศรัยเพื่อชี้แจงนโยบายและอุดมการณ์ของพรรคฯ

อาทิ นายสำราญ รอดเพชร นายประสาร มฤคพิทักษ์ นางสุดนภา เจริญเวชชการ น.ส.อนุสรี ทับสุวรรณ รวมทั้งผู้สมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขตของพรรคฯ ทั้งนายสนธิญา สวัสดี และนายกันต์กวี ทับสุวรรณ ก่อนที่จะปิดท้ายการปราศรัยด้วย รศ.ดร.จักษ์ พันธ์ชูเพชร กรรมการบริหารพรรคฯ เมื่อเวลา 20.00 น. บรรยากาศโดยรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ม.ร.ว.จัตุมงคล เปิดเผยถึงความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งนี้ ว่า ที่ จ.สมุทรสาคร มีความพร้อมที่สุด เพราะว่ามีผู้สมัคร ส.ส. อยู่ในตระกูลทับสุวรรณ ซึ่งเป็นตระกูลใหญ่ที่ทำงานการเมืองมานาน ผู้คนที่นี่รู้จักดีอยู่แล้วและเป็นที่นับถือ ส่วนในเรื่องของนโยบายพรรคฯ ตนอยากจะปรับอำนาจจากส่วนกลางเข้ามาสู่ท้องถิ่น ที่เรียกว่า Devolution ซึ่งมีอยู่หลายด้าน ทั้งเกษตร สังคม ฯลฯ

ซึ่งทางพรรคต้องการ “ปรับอำนาจสู่ท้องถิ่น” คือ ให้ท้องถิ่นจัดกันเป็นกลุ่มแล้วช่วยทางส่วนกลางให้บริการประชาชน มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด โดยให้นายกรัฐมนตรีเสนอ 3 รายชื่อให้ประชาชนเลือกอยู่ในวาระ 4 ปี และเป็นหัวหน้าของส่วนราชการในจังหวัด

มีคณะทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 แห่ง ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ประชุมเดือนละ 1 ครั้งเพื่อประสานนโยบาย รวมทั้งระบบภาษีท้องถิ่นให้แต่ละจังหวัดตกลงกันเอง และให้ตำรวจขึ้นตรงในแต่ละท้องถิ่น อยู่ในกำกับของผู้ว่าราชการจังหวัด เหมือนในต่างประเทศที่ตำรวจไม่ได้ขึ้นอยู่กับส่วนกลาง

ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการลงพื้นที่ครั้งนี้ได้รับเสียงตอบรับดีมาก ซึ่งตนพยายามที่จะให้คะแนนเข้ามาสู่พรรครวมพลังประชาชาติไทย ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต ซึ่งพรรคฯ ของตนเป็นพรรคใหม่ ยังขาดคะแนนอีกมาก ใครที่ชอบพรรคนี้ขอให้ช่วยกันลงคะแนน เพราะเป็นพรรคที่คนธรรมดาสร้างชาติ

สมาชิกพรรคฯ ไม่ว่าจะเป็นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคฯ หรือตน ทุกคนมี 1 คะแนนเท่ากัน ที่จะร่วมสมัชชาเลือกกรรมการบริหารพรรคฯ หรือนักการเมืองของพรรคฯ ซึ่งสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่จ่ายเงินบำรุงพรรคฯ ปีละ 365 บาท ขณะนี้มีจำนวนกว่า 3 หมื่นคนแล้ว โดยรวมแล้วการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนคาดว่าทางพรรคฯ น่าจะได้ ส.ส. ประมาณ 25 ที่นั่ง

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *