ธ.ก.ส.สมุทรสาคร ชวนลูกหนี้รายย่อยร่วม “มาตรการพักชำระหนี้ฯ” เปิดรับถึง 31 ม.ค. 67

ธ.ก.ส. สำนักงานจังหวัดสมุทรสาคร แถลงมาตรการพักชำระหนี้ลูกค้ารายย่อย 3 ปี ตามนโยบายรัฐบาล พร้อมเดินหน้าเชิญชวนลูกค้าเป้าหมายในจังหวัดฯ เกือบ 3 พันคนเข้าร่วม คุณสมบัติมีเงินต้นคงเหลือไม่เกิน 3 แสนบาท ทั้งเป็นหนี้ปกติและค้างชำระ ตั้งแต่ 1 ต.ค. 2566 – 31 ม.ค. 2567 ผ่านแอปพลิเคชัน BAAC Mobile

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2566 ที่ห้องประชุมสาระนาค ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. สำนักงานจังหวัดสมุทรสาคร ต.มหาชัย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พ.อ.อ.พันธุ์พงศ์ กันทา ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานแถลงข่าวเพื่อประชาสัมพันธ์ “มาตรการพักชำระหนี้ ให้กับลูกหนี้รายย่อย ตามนโยบายรัฐบาล” โดยมีผู้จัดการ ธ.ก.ส. ทุกสาขาในจังหวัดสมุทรสาคร นายณัฐวุฒิ เอกจิโรภาส นายกสมาคมผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรสาคร ผู้แทนสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสาคร และสื่อมวลชนเข้าร่วมการแถลงข่าว

พ.อ.อ.พันธุ์พงศ์ กันทา ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีในคราวประชุมเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2566 และคณะกรรมการ ธ.ก.ส. ในคราวประชุมครั้งที่ 12/2566 วันที่ 22 ก.ย. 2566 ได้เห็นชอบมาตรการพักชำระหนี้ให้กับลูกหนี้รายย่อยตามนโยบายรัฐบาล ธนาคารได้กำหนดแนวทางการดำเนินมาตรการดังกล่าวให้แก่เกษตรกรและบุคคลตามข้อบังคับ ฉบับที่ 44 และ 45 ที่มีต้นเงินคงเป็นหนี้คงเหลือทุกสัญญารวมกัน ณ วันที่ 30 ก.ย. 2566 ไม่เกิน 300,000 บาท และมีสถานะเป็นหนี้ปกติและหนี้ค้างชำระเป็นระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2566 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 2569 ซึ่งในภาพรวมประเทศมีจำนวนลูกค้าที่ได้รับสิทธิ์ทั้งสิ้น จำนวน 2,094,214 ราย คิดเป็นต้นเงินที่ได้รับสิทธิ์ 277,009.67 ล้านบาท

โดยวัตถุประสงค์ของมาตรการพักชำระหนี้ฯ ดังกล่าว เพื่อลดภาระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งยังไม่ฟื้นตัวและกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง และเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ลูกหนี้จากภาระดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น ได้มีโอกาสนำเงินที่จะต้องจ่ายดอกเบี้ยมาลงทุนปรับเปลี่ยนหรือขยายการลงทุนในการประกอบอาชีพและฟื้นฟูตนเอง รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตให้ดียิ่งขึ้น มีกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ เกษตรกรและบุคคลตามข้อบังคับฉบับที่ 44 และ 45 และมีต้นเงินคงเป็นหนี้คงเหลือทุกสัญญารวมกัน ณ วันที่ 30 ก.ย. 2566 ไม่เกิน 300,000 บาท และมีสถานะเป็นหนี้ปกติและหนี้ค้างชำระ (หนี้ 0-3 เดือน และหนี้ NPLs)

พ.อ.อ.พันธุ์พงศ์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับ ธ.ก.ส. สำนักงานจังหวัดสมุทรสาคร มีลูกค้าเป้าหมายที่มีคุณสมบัติเป็นไปตามหลักเกณฑ์ได้รับสิทธิ์ จำนวน 2,979 ราย ต้นเงินที่ได้รับสิทธิ์ 386.45 ล้านบาท ลูกค้าที่ได้รับสิทธิ์ ได้แก่ ลูกค้าสาขาสมุทรสาคร จำนวน 1,009 ราย ต้นเงินที่ได้รับสิทธิ์ 118.03 ล้านบาท ลูกค้าสาขาบ้านแพ้ว จำนวน 1,515  ราย ต้นเงินที่ได้รับสิทธิ์ 208.08 ล้านบาท และ ลูกค้าสาขากระทุ่มแบน จำนวน 455  ราย  ต้นเงินทีได้รับสิทธิ์ 60.34 ล้านบาท  

สำหรับลูกหนี้รายย่อยที่สมัครใจเข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้ฯ ดังกล่าว สามารถแสดงความประสงค์และตรวจสอบสิทธิ์ได้ด้วยตัวเอง โดยกรอกหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนและหมายเลขโทรศัพท์ผ่านแอปพลิเคชัน “BACC Mobile” โดย ธ.ก.ส. จะแจ้งนัดหมายผู้แสดงความประสงค์เพื่อทำข้อตกลงต่อท้ายหนังสือกู้ต่อไป หรือเดินทางมาติดต่อที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขา โดยจะมีพนักงานคอยให้คำแนะนำและช่วยเหลือ ระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 2566 ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2567 หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวจะไม่ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้

ทั้งนี้ จึงขอเชิญชวนลูกหนี้รายย่อยของ ธ.ก.ส.ทุกสาขาในจังหวัดสมุทรสาครที่เข้าหลักเกณฑ์เกือบ 3 พันคน มาแสดงตนเข้าร่วมโครงการให้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อโอกาสที่ดีในการผ่อนชำระหนี้กับ ธ.ก.ส. และนำดอกเบี้ยที่ได้ลดหย่อนไปใช้เพื่อการขยายโอกาสหรือช่องทางในการต่อยอดสร้างอาชีพต่อไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส. สาขาสมุทรสาคร โทร. 034-411492, ธ.ก.ส. สาขาบ้านแพ้ว โทร. 034-481322 และ ธ.ก.ส. สาขากระทุ่มแบน โทร. 034-470351

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *