“นอภ.เมืองสมุทรสาคร” ฟันโรงหลอมย่านชัยมงคล ปล่อยมลพิษ-ผิด กม. เพียบ


นอภ.เมืองสมุทรสาคร นำทีมบุกตรวจโรงหลอมรีไซเคิลโลหะ พื้นที่ ต.ชัยมงคล หลังชาวบ้านร้องเรียนผ่านผู้ว่าฯ ในโรงงานพบระบบบำบัดมลพิษไม่มีประสิทธิภาพ อีกโรงไม่มีใบ รง.4 สั่งดำเนินคดีตามกฎหมาย

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 12 มี.ค. นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร พร้อมด้วย น.ส.เบญญพร เฮงซิ้ม กำนันตำบลชัยมงคล, นายทนงศักดิ์ งามกาละ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.ชัยมงคล, นายตรวจสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร, ผู้แทนสำนักงานจัดหางานจังหวัดสมุทรสาคร, เจ้าหน้าที่ชุดตรวจสอบการทำงานของคนต่างด้าวและสถานประกอบการ, สมาชิก อส. อำเภอเมืองฯ และเจ้าหน้าที่ อบต.ชัยมงคล เข้าตรวจสอบบริษัท หยงฟ้า เมทอล จำกัด หมู่ 4 ต.ชัยมงคล อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นสถานประกอบกิจการรีไซเคิลโลหะ 

เนื่องจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ และกรมควบคุมมลพิษ ว่าได้รับผลกระทบในเรื่องกลิ่นซึ่งเหม็นมาก และมีแรงงานต่างด้าวทำงาน โดยส่วนใหญ่จะทำงานในข่วงบ่ายจนถึงเกือบรุ่งเช้าทุกวัน รวมทั้งได้ร้องเรียนไปยังนายวีระศักดิ์ วิจิตรแสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครอีกทางหนึ่งด้วย จึงได้สั่งการให้นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร จัดทีมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบดังกล่าว

จากการตรวจสอบ ทางบริษัทมีการประกอบกิจการปกติ พบแรงงานต่างด้าว 4 ราย เป็นสัญชาติเมียนมา 3 ราย ไม่พบการกระทำความผิด และสัญชาติกัมพูชา 1 ราย พบการกระทำความผิดในข้อหาทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ ตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 ซึ่งนายจ้างมีความผิดตามกฎหมายดังกล่าวด้วย จึงนำตัวแรงงานต่างด้าวและนายจ้างส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางโทรัด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

และในส่วนความผิดตาม พ.ร.บ. โรงงาน พ.ศ. 2535 พบว่าในพื้นที่รั้วของบริษัทฯ ได้แบ่งโรงงานออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นโรงงานหลอมแท่งอลูมิเนียมของบริษัท ตรวจสอบภายในโรงงานพบมีการแยกเครื่องจักรออกเป็นสองส่วน ส่วนที่หนึ่งมีเตาหลอม 4 เตา มีระบบบำบัดมลพิษทางอากาศแบบ Wet Scrubber แต่ในระบบน้ำที่นำมาบำบัดพบว่ามีลักษณะสีดำเข้ม มีกลิ่นจากการใช้น้ำดังกล่าวเวียนกลับไปใช้ในระบบบำบัดเดิม ซึ่งถือว่าเป็นระบบบำบัดมลพิษทางอากาศที่ไม่มีประสิทธิภาพ 

ทางนายตรวจฯ จึงได้สั่งให้หยุดประกอบกิจการในส่วนของการหลอม และให้แก้ไขระบบบำบัดดังกล่าวให้เรียบร้อย จึงจะสามารถเปิดดำเนินการได้ โดยทางสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดฯ ดำเนินการผูกมัดประทับตราเครื่องจักรเพื่อมิให้ทำงานได้ในระหว่างปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน

ส่วนที่สองพบว่ามีเตาหลอม 2 เตาพร้อมปั้มลมและระบบบำบัดฝุ่น จำนวนแรงม้าประมาณ 160 แรงม้า ไม่ได้มีการขอขยายโรงานในส่วนนี้ ซึ่งถือว่าเข้าข่ายการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามมาตรา 18 และมีโทษตามมาตรา 52 ของ พ.ร.บ.โรงงานฯ จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ พร้อมห้ามมิให้มีการประกอบกิจการดังกล่าว 

ส่วนอีกโรงงานหนึ่ง พบว่าเป็นโรงงานหลอมและชุบสังกะสี ตรวจสอบพบว่าไม่มีใบอนุญาตโรงงาน (รง.4) ซึ่งนายตรวจฯ ได้ดำเนินการตรวจเครื่องจักรพบว่ามีขนาดเครื่องจักรเปรียบเทียบแล้วประมาณ 210 แรงม้า มีเตาหลอม จำนวน 2 เตา ไม่มีระบบบำบัดมลพิษทางอากาศ บริเวณหลังคาโรงงานมีลักษณะเป็นรูพรุนเกือบทั้งหลังคา 

โดยมีความผิดตามมาตรา 12 วรรคหนึ่ง และมีโทษตามมาตรา 50 แห่ง พ.ร.บ.โรงงานฯ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมห้ามมิให้มีการประกอบกิจการดังกล่าวอีก ซึ่งในส่วนความผิดของโรงงานฯ ตาม พ.ร.บ.โรงงานฯ นั้น ได้แจ้งให้นายตรวจของสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดฯ ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป 

อีกทั้งทางด้าน พ.ร.บ.สาธารณสุขฯ และ พ.ร.บ.ควบคุมอาคารฯ ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ อบต.ชัยมงคล ดำเนินการตรวจสอบอาคารว่ามีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ และกรณีฝ่าฝืนข้อบังคับตำบล เกี่ยวกับการประกอบกิจการอันเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดเช่นกัน      

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *