ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เผยสถานการณ์โรค “โควิด-19” พบผู้ป่วยติดเชื้อรักษาตัวในจังหวัดฯ อีก 2 ราย รวมเป็น 4 ราย กำชับ ตร. กวดขันร้านอาหารไม่สวมหน้ากาก – ปล่อยให้ลูกค้านั่งทาน ฝ่าฝืนเจอโทษจำ-ปรับ
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 22 มี.ค. ที่ห้องประชุมพระนรราชจำนง โรงพยาบาลสมุทรสาคร นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นพ.อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร และ นพ.สุรพล อริยปิติพันธ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร แถลงข่าวสถานการณ์โรคโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) ที่ห้องประชุมพระนรราชจำนง โรงพยาบาลสมุทรสาคร โดยมี นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ และนายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอทั้ง 3 อำเภอเข้าร่วมการแถลงข่าว
• พบชาวสมุทรสาครอีก 2 ราย ป่วย โควิด-19 รวมเป็นทั้งหมด 4 ราย
นายวีระศักดิ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ารับการรักษาในสมุทรสาครเพิ่มขึ้นอีก 2 ราย รวมทั้งหมด 4 ราย ส่วนผู้ที่ต้องอยู่ในระยะเฝ้าระวัง 14 วัน เหลือแค่ 14 ราย แบ่งออกเป็น อ.เมืองฯ 9 ราย, อ.กระทุ่มแบน 4 ราย และ อ.บ้านแพ้ว 1 ราย
โดยผู้ป่วยรายที่สาม เป็นเจ้าของโรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.กระทุ่มแบน ติดเชื้อจากสนามมวยลุมพีนี มีการหยุดทำงานและกักบริเวณอยู่ที่บ้านเมื่อมีอาการไข้ ก่อนตรวจพบเชื้อที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน กทม. แล้วติดต่อเข้ารับการรักษาที่ รพ.กระทุ่มแบน มีการเริ่มให้ยา อาการคงที่ สัญญาณชีพปกติ
และผู้ป่วยรายที่สี่ เป็นเคสที่สัมผัสโดยตรงกับผู้ป่วยรายที่สอง (แม่บ้าน ต.โคกขาม ที่ติดเชื้อมาจากนายจ้าง) เนื่องจากเป็นญาติพี่น้องกัน ผู้ป่วยรายนี้มีการระมัดระวังตัวเอง บอกเพื่อนบ้านว่าตนอยู่ในข่ายต้องสงสัย กระทั่งผลตรวจยืนยันว่าติดเชื้อ ขณะนี้รักษาตัวที่ รพ.สมุทรสาคร ยังไม่มีอาการ ส่วนสมาชิกในครอบครัวอีก 5 รายซึ่งอยู่ในระยะเฝ้าระวัง ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ รพ.สต. คอยส่งข้าวส่งน้ำช่วยเหลือในการดำรงชีวิต
ส่วนอาการผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาใน รพ.สมุทรสาคร 2 รายแรกนั้น ทางด้าน นพ.อนุกูล เปิดเผยว่า สำหรับผู้ป่วยรายแรกที่เป็นนักพนัน ติดเชื้อจากบ่อนที่ปอยเปต หลังจากได้รับยาต้านไวรัสจากสาธารณรัฐประชาชนจีนแล้วมีอาการดีขึ้น ไอน้อยลง ไม่มีอาการเหนื่อย และผู้ป่วยรายที่สอง เป็นแม่บ้านอยูที่ ต.โคกขาม อาการทั่วไปปกติ มีไอเล็กน้อย ไม่มีไข้และน้ำมูก ซึ่งผู้ป่วยทั้ง 4 ราย ทางทีมแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด
• เพิ่มเติมมาตรการปิดสถานที่ อนุญาต “ธนาคาร” เปิดทำการในห้างได้
สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นจากการออกมาตรการตามประกาศจังหวัดสมุทรสาคร ฉบับที่ 7 เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (เพิ่มเติม) เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่ผ่านมา นายวีระศักดิ์ ได้ชี้แจงว่า จะมีการออกประกาศจังหวัดสมุทรสาครเพิ่มเติมให้เกิดความชัดเจนขึ้น ซึ่งร้านอาหารจะไม่ใช่ร้านโดยทั่วไปอย่างเดียว แต่ให้รวมไปถึงรถเข็นและแผงลอยในการจำหน่ายอาหารด้วย
ส่วนห้างสรรพสินค้าที่ให้ปิดทั้งหมด ยกเว้นซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยา หรือสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ร้านอาหารที่สามารถนำกลับไปรับประทานที่บ้าน ก็อนุญาตให้ธนาคารเปิดให้บริการภายในห้างสรรพสินค้าหรือคอมมูนิตี้มอลล์ได้ อีกทั้งยังให้ปิดเนอสเซอรี่และศูนย์เด็กเล็กด้วย เพื่อให้เกิด Social distancing ไม่อยากให้เกิดการเคลื่อนที่ของสังคม
• ให้ ตร. กวดขันร้านขายอาหาร ไม่สวมหน้ากากอนามัย – ปล่อยลูกค้านั่งกินในร้าน มีสิทธิ์เจอคุก-ปรับเงินอีก 1 แสน
ส่วนกรณีที่มีพ่อค้า-แม่ค้าที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยขณะขายของ และร้านอาหารที่ยังมีการเปิดให้ผู้คนเข้าไปนั่งรับประทานอยู่นั้น ก็ได้มอบนโยบายให้กับทางตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาครออกตรวจตราโดยเคร่งครัด และในวันจันทร์นี้ (23 มี.ค.) จะดำเนินการจับกุมโดยเด็ดขาด ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558
และการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ หากเป็นประชาชนทั่วไปฝ่าฝืนไม่ทำตามคำสั่งของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อระดับจังหวัด ก็จะต้องถูกลงโทษจำคุก โทษปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับเช่นกัน หากเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือข้าราชการฝ่าฝืน ก็จะต้องถูกเพิ่มโทษปลดออกจากราชการอีกด้วย
“การใช้ชีวิตช่วงนี้ ที่ได้มีการออกประกาศต่าง ๆ จะต้องเป็นไปด้วยความยากลำบากหน่อย ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตต่าง ๆ ก็ไม่สามารถดำเนินชีวิตได้เหมือนกับปกติ ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นความจริง แต่ว่าบนความไม่ปกติ เพราะเราอยากให้ความปกติกลับคืนมาโดยไว เราจำเป็นที่จะต้องอาศัยความไม่ปกติเหล่านี้ เพื่อทำให้ไวรัสโควิด-19 ออกไปจากบ้านเมืองเราโดยเร็ว สามารถดำรงชีวิตได้อย่างสันติสุข” นายวีระศักดิ์กล่าว
สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง