ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ชี้แจงมาตรการเข้มบังคับใส่แมสก์ออกจากบ้าน แนะประชาชนใช้หน้ากากผ้า

ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ชี้แจงมาตรการสวมแมสก์ออกจากบ้าน ฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท เบื้องต้นคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ มอบอำนาจเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อดำเนินการ

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 2 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ได้ลงนามในคำสั่งจังหวัดสมุทรสาคร เรื่อง มาตรการลดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ฉบับที่ 2 มาตรการให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ออกจากบ้าน หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. 2563 เป็นต้นไปนั้น

นายวีระศักดิ์ ชี้แจงว่า มาตรการที่ออกมาดังกล่าว ก็เพื่อต้องการรณรงค์ให้ทุกคนใน จ.สมุทรสาคร ได้ใส่หน้ากากอนามัยแบบผ้าครบ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทยได้มอบหมายให้ทางท้องถิ่นต่าง ๆ ดำเนินการจัดทำเพื่อแจกจ่ายให้กับทุกครัวเรือนอยู่แล้ว หรือในสถานที่ราชการ เช่น ศาลากลางจังหวัด หรือที่ว่าการอำเภอ ก็มีหน้ากากผ้าเตรียมไว้ให้บริการประชาชน ใครที่ไม่มีหน้ากากผ้าก็สามารถมาขอใช้ตามหน่วยงานต่าง ๆ ได้

จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาเหมือนกับประชาชนบางส่วนไม่ตระหนักหรือให้ความสนใจในเรื่องนี้ แน่นอนว่าหน้ากากผ้าคุณภาพจะสู้หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ได้ แต่สิ่งสำคัญคือการใส่หน้าผ้าสามารถป้องกันการติดต่อโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิค-19 จากสารคัดหลั่งของมนุษย์ เช่นน้ำลายหรือน้ำมูกได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งตนก็ใส่หน้ากากผ้า แม้กระทั่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลต่าง ๆ ในจังหวัดก็ใส่หน้ากากผ้า ยกเว้นตอนเข้าไปรักษาผู้ป่วยหรือเข้าห้องผ่าตัด

ส่วนเรื่องการจับปรับโทษที่ไม่เกิน 20,000 บาทนั้น ตนจะได้ปรึกษาคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ในการจับปรับครั้งแรกค่าปรับควรจะเป็นเท่าใด ถ้ามีครั้งที่สองหรือมีพฤติการณ์ที่ไม่หลาบจำควรจะเพิ่มอัตราโทษเป็นเท่าใด แต่ทั้งหมดนั้นก็ไม่เกิน 20,000 บาท ส่วนผู้มีอำนาจในการปรับ ในเบื้องต้นคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้มีหน้าที่ดังกล่าว รวมถึงเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ซึ่ง รมว.สาธารณสุข เป็นผู้แต่งตั้ง

อีกทั้งคงไม่ต้องถึงขนาดตั้งชุดเฉพาะกิจเพื่อจับปรับผู้ไม่ใส่หน้ากากฯ ตรงนี้เป็นการรณรงค์เพื่อสร้างจิตสำนึก เป็นการบอกให้ประชาชนรู้ว่าสุขภาพอนามัยต้องมาก่อน เมื่อมีปัญหาไม่ใช่เพียงแค่คน ๆ เดียว แต่ไปติดต่อผู้อื่นด้วย เพราะฉะนั้นการใช้หน้ากากอนามัยแบบผ้าจึงเป็นทางเลือกของประชาชนผู้มีรายได้น้อยหรือผู้ที่ไม่ได้ป่วย สามารถซักแล้วใช้ซ้ำได้หลายครั้ง ไม่จำเป็นต้องใช้หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ เพราะนอกจากมีราคาแพงแล้วยังหายากด้วย

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *