อดีต กก.บห. “รพ.บ้านแพ้ว” ร้องศูนย์ดำรงธรรมฯ ตรวจสอบการบริหารงานของโรงพยาบาล

อดีตกรรมการบริหาร รพ.บ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) จ.สมุทรสาคร เข้ายื่นหนังสือถึงศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฯ ให้ตรวจสอบความถูกต้องในการบริหารงานโรงพยาบาล 5 ประเด็น

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 พ.ย. ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร นายวรวุฒิ บุญเพ็ญ และนายธีระชัย บุญอารีย์ อดีตกรรมการบริหารโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) เป็นตัวแทนมอบหนังสือถึงศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร เรื่อง ขอให้ตรวจสอบความถูกต้องเกี่ยวกับการบริหารงานของผู้บริหารโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) สมุทรสาคร โดยมีนายสุรพันธ์ สิทธิชัย ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร เป็นผู้รับมอบ

นายวรวุฒิ กล่าวว่า เหตุที่ต้องขอให้ตรวจสอบความถูกต้องเกี่ยวกับการบริหารงานของผู้บริหารโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) สมุทรสาครนี้ เนื่องด้วยโรงพยาบาลบ้านแพ้วฯ อยู่ภายใต้กำกับของรัฐ กระทรวงสาธารณสุข ที่มีรูปแบบการบริหารที่มีความคล่องตัวและมีความอิสระในการดำเนินการบริหาร ซึ่งอยู่ภายใต้คณะกรรมการบริหารของโรงพยาบาลบ้านแพ้วฯ แต่ก็ต้องดำเนินการบริหารกิจการภายใต้กรอบระเบียบ การบริหารแผ่นดินและธรรมาภิบาลในการบริหารงาน

แต่จากข้อมูลการบริหารงานในปัจจุบัน ภายใต้การบริหารงานของ นพ.พรเทพ พงศ์ทวิกร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคนปัจจุบัน พบว่า มีการร้องเรียนเกี่ยวกับการบริหารในด้านต่าง ๆ บางเรื่องผ่านไปยังคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลบ้านแพ้วไปแล้ว แต่ยังมีบางเรื่องที่ยังไม่มีการดำเนินการอย่างสิ้นสุด จึงต้องร้องเรียนมายังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อให้มีการตรวจสอบการดำเนินการในกรณีต่าง ๆ  รวมถึงให้เกิดความถูกต้อง มีธรรมาภิบาลองค์กร และสามารถตรวจสอบได้โดยภาคประชาชน สร้างศรัทธาแก่ประชาชนผู้รับบริการและผู้บริจาคต่อไป สำหรับเรื่องที่ขอให้มีการตรวจสอบนั้นประกอบไปด้วย

1. ตรวจสอบความผิดปกติในขั้นตอนการว่าจ้างออกแบบตกแต่งชั้น 11 โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) สาขาสาทร อาคาร TPI ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ กรุงเทพฯ ว่ามีการจ่ายค่าจ้างออกแบบซ้ำซ้อนหรือมีการทุจริตหรือไม่

2. ขอให้ตรวจสอบกระบวนการพิจารณาสอบสวน กรณีการทุจริตของ ภญ.วีระนันท์ สุขทิพย์ เจ้าหน้าที่เภสัชกร โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) สาขาสาทร ว่าเป็นไปตามระเบียบการดำเนินการทางวินัยของราชการครบถ้วนหรือไม่ ด้วยบุคคลดังกล่าว ได้ทำการทุจริตเกี่ยวกับการเบิกจ่ายยาทั้งในส่วนของการเบิกซื้อยาส่วนตัวจำนวนมากผิดปกติ,การสั่งยาเพิ่มเติมเองในใบสั่งยาแพทย์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากแพทย์ ในส่วนของการใช้สิทธิสวัสดิการของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบ้านแพ้ว และการทุจริตเบิกจ่ายยาในชื่อมารดาของผู้ทุจริตจากสิทธิสวัสดิการข้าราชการ กรมบัญชีกลาง

ซึ่งทางฝ่ายบริหารโรงพยาบาล ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวยทางวินัย ตามคำสั่งโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) ที่ 151/2561 ลงวันที่ 20 ส.ค. 2561 และได้ยุติการดำเนินการสอบสวน หลังจากที่ผู้ทุจริตได้ขอลาออกไปแล้วนั้น แต่จากการสรุปผลการสอบสวน พบความผิดปกติ คือทางคณะกรรมการสอบสวนได้มีมติให้ยุติการดำเนินการสอบสวน ทั้งที่กระบวนการดำเนินการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ทำให้ไม่พบการทุจริตต่อสิทธิสวัสดิการราชการ กรมบัญชีกลาง และสิทธิสวัสดิการเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบ้านแพ้ว และยังมีการอนุมัติให้ผู้ทุจริตลาออกโดยไม่มีการลงโทษทางวินัย

3. ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการทุจริตโดยการปลอมแปลงใบเสร็จรับเงินและยักยอกเงินของโรงพยาบาลบ้านแพ้ว แผนกอาชีวะอนามัย ของนางสาวชุติมา จิตรศิลป์ฉายากุล เจ้าหน้าที่การเงินแผนกอาชีวอนามัย เป็นจำนวนเงินประมาณ 4,000,000 บาท ว่าได้มีการดำเนินการสอบสวน การกระทำความผิดและมีการลงโทษทางวินัยอย่างถูกต้องตามระเบียบราชการหรือไม่

4. เรื่องการไม่ปฏิบัติตามมติ ครม. เรื่องกรอบอัตรากำลังของโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) โดยมีผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งเพิ่ม 1 ใน 3 ตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการ เป็นภรรยาของผู้อำนวยการโรงพยาบาล โดยมีการแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านแพ้ว สาขาสาทร ซึ่งเป็นพยาบาลวิชาชีพที่เพิ่งเข้ามาทำงาน ในโรงพยาบาลบ้านแพ้วได้เพียง 7 เดือนเท่านั้น

5. ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการจัดซื้อที่ดินสำหรับโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) โดยวิธีเฉพาะเจาะจง สำหรับสร้างอาคารหอพักเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) จำนวนที่ดิน 5 ไร่ มูลค่า 20,000,000 บาท ว่าได้มีการดำเนินการจัดซื้อถูกต้องตาม พรบ.จัดซื้อจัดจ้าง พ.ศ. 2560 หรือไม่ เนื่องจากตรวจสอบข้อมูลเผยแพร่ประกาศทางเว็ปไซต์ของโรงพยาบาลบ้านแพ้วแล้ว ไม่พบว่ามีการประกาศเผยแพร่การจัดซื้อตามระเบียบของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง 

ด้านนายสุรพันธ์ สิทธิชัย ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า หลังจากที่ทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับหนังสือแล้วนั้น ก็จะนำเรื่องดังกล่าวส่งให้นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร สั่งการต่อไปยังสาธารณสุขจังหวัด เพื่อตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป แต่ในด้านของกรอบระยะเวลา ก็จะต้องให้ทางผู้ดำเนินการเป็นผู้เห็นสมควรว่าจะต้องใช้ระยะเวลาตรวจสอบมากน้อยเพียงใด เพราะเรื่องดังกล่าวนั้นมีความละเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *